คนขับรถเห็นเธอเดินออกมามือเปล่า จึงเอ่ยถาม
“นายหญิงไม่ได้อะไรติดมือมาเลยเหรอครับ”
“ลุงหลี่” เฉียวเมียนเมียนไม่ได้ตอบคำถามนี้ แต่เอียงศีรษะและถามเขาว่า
“ลุงมีเบอร์โทรศัพท์ของคุณเหมาเยซือไหม?”
ลุงหลี่ตะลึงนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะตอบ “มีครับ”
“ดีล่ะ ขอฉันหน่อยค่ะ”
ลุงหลี่ได้แต่ยืนเงียบ “…” นายหญิงไม่มีเบอร์นายท่านงั้นเหรอ
แม้จะงงงวย แต่เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาหาเบอร์เหมาเยซือให้เธอ
เฉียวเมียนเมียนได้เบอร์เหมาเยซือ ไม่รอช้าที่จะต่อหาเขา
โทรศัพท์ดังขึ้นเป็นเวลากว่าที่เขาจะรับสาย
“ฮัลโล…” เสียงแข็ง ๆ ของเขาช่างฟังดูห่างเหิน
เฉียวเมียนเมียนเงียบไปเพียงครู่ก่อนจะเปิดปากพูด
“ฉันเฉียวเมียนเมียนค่ะ”
เหมาเยซือเงียบไปชั่วครู่เช่นกัน
“นี่เบอร์คุณเหรอ?”
ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองรึเปล่า แต่เสียงของเขาอ่อนโยนต่างไปจากเมื่อครู่
“ค่ะ” เธอพยักหน้า
เหมาเยซือเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูด
“ฉันจะเมมมันไว้ คุณเองก็เมมเบอร์ผมไว้ด้วยล่ะ”
“ค่ะ ฉันจะเมมไว้” เฉียวเมียนเมียนบีบโทรศัพท์ไว้แน่น ความโกรธก่อนหน้าจางหายไปทันที เธอคิดเสียใจที่โทรหาเขาในตอนนี้
พวกเราเพิ่งแต่งงานกันยังไม่พ้นหนึ่งวันเลย
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นเพียงสามีแต่ในนามของเธอเท่านั้น
จะดีเหรอที่จะขอความช่วยเหลือจากเขา?
แต่เธอโกรธจนไม่อาจจะยกโทษให้ได้จริง ๆ ถ้าวันนี้เธอไม่ได้รับความยุติธรรม เธอคงนอนตายตาไม่หลับแน่ ๆ
“คุณโทรหาผมมีอะไรรึเปล่า หรือว่าคิดถึงผมเหรอ?” น้ำเสียงเยาย้วนของชายคนนี้ ดังผ่านหูราวกับว่าเขาอยู่ข้าง ๆ ทำเอาเธอใจต้นรัว
ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
!!!
“คุณเหมา…”
“นั่นเป็นชื่อที่คุณใช้เรียกสามีงั้นเหรอ ผมไม่อยากได้ชื่อเรียกนี้จากคุณอีกต่อไป” น้ำเสียงของชายผู้นี้หนักแน่นและครอบงำเธอโดยไม่มีช่องว่างให้เธอปฏิเสธ
เฉียวเมียนเมียนเงียบไป
เหมาเยซือพูดขึ้น “ผมกำลังจะออกไป ไม่เกิน 20นาทีถึงที่นั่น ถ้าคุณหิว ก็สั่งอะไรทานเล่นรอผมล่ะกัน”
“ค่ะ”
“เฉียวเมียนเมียน?” เหมาเยซือเรียกชื่อเธอ
“คะ?”
“คุณมีอะไรจะบอกผมรึเปล่า”
เฉียวเมียนเมียนลังเลอยู่เพียงคู่ ก่อนจะเอ่ยปากถามเขาเบา ๆ ว่า
“ฉันอยู่ที่ห้างซางดง ฉันได้ยินลุงหลี่ บอกว่าห้างนี้อยูในเครือของบริษัทเหมาใช่ไหมคะ?
เหมาเยซือตอบ “อืม”
“แล้ว…”
“ใช่ แล้วยังไง”
เฉียวเมียนเมียนพูดขึ้น “งั้นฉันเป็นเจ้าของห้างนี้ด้วยเหมือนกันใช่ไหมคะ?
หลังจากพูดจบ หน้าเธอร้อนผ่าวด้วยความอาย
เหมาเยซือรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เธอพูดเช่นนั้น หลังจากเงียบไปเพียงครู่เขาก็หัวเราะออกมาเบา ๆ
“แน่นอนสิ”
“ถ้างั้น หากเจ้าของคิดว่าลูกจ้างไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานและมีทัศนคติที่ไม่ดี ก็สามารถไล่ออกได้ใช่ไหมคะ?
เฉียวเมียนเมียนลังเลเล็กน้อย
เธอรอคำตอบจากเขาด้วยความประหม่า
กลัวเหลือเกินว่าเหมาเยซือจะปฏิเสธคำขอของเธอ
ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอคงจะรู้สึกไร้ยางอายและอับอายเป็นอย่างมากแน่ ๆ
หลังจากเงียบไปเพียงครู่ ชายปลายสายก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาถามเธอกลับด้วยเสียบทุ้มเข้มว่า
“คุณถูกรังแกรึเปล่า?”