“ฉัน…”
ไม่รอให้เฉียวเมียนเมียนพูด เขาพูดขึ้นด้วยเสียงเคร่งและเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า
“คุณเป็นภรรยาของประธานเหมา แน่นอนว่าคุณมีอำนาจที่จะไล่ใครออกก็ได้ แต่บอกผมที ว่าทำไมถึงจะไล่พนักงานออกล่ะ”
เฉียวเมียนเมียนเบิกตากว้าง “แล้วคุณเห็นด้วยไหมล่ะคะ?
“เฉียวเมียนเมียน คุณเป็นผู้หญิงของผม ใครกล้ามากวนใจคุณ บอกผมสิ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร ผมจะให้ความยุติธรรมกับคุณเอง”
จำไว้ว่าตอนนี้คุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณจะทำอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ ผมจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเอง”
เสียงทุ้มต่ำวางอำนาจของชายปลายสายแทรกเข้ามาที่หูของเธอเบา ๆ
เขาบอกเธอว่า เฉียวเมียนเมียนคอนนี้คุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง ขณะนี้หัวใจของเธอคล้ายมีกระแสน้ำอุ่น ๆ ไหลเวียนเข้าไปอย่างช้า ๆ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอทำได้เพียงพึ่งพาตนเองและบังคับตัวเองให้เข้มแข็ง คนที่เธอสามารถพึ่งพาได้มีแค่ตัวเธอเองมาตลอด
แต่ในตอนนี้…
ก็มีคนมาบอกเธอว่า เธอสามารถพึ่งพาเขาได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะรับผิดชอบเธอเอง ไม่สำคัญว่าเขาจะพูดด้วยความจริงใจหรือไม่ ในตอนนี้เธอรู้สึกขอบคุณจริง ๆ
ดวงตาของเธอชื้นขึ้นเล็กน้อย ขณะที่หายใจเข้าลึกเต็มปอด ก่อจะตอบอย่างนุ่มนวลออกไปว่า “…ค่ะ”
****
หลังจากที่เฉียวเมียนเมียนพูดกับเหมาเยซือไม่นาน ผู้บริหารของห้างก็เข้ามาหาเธอ
เธอเดินกลับเข้าไปที่ในห้างอีกครั้ง
เฉียวอันซินหยิบเสื้อผ้าของเธอออกมา ขณะที่ซูเจ๋อกำลังชำระเงินที่เคาร์เตอร์
เมื่อเฉียวเมียนเมียนเดินเข้าไปในห้าง พนักงานที่เห็นเธอก็ลดใบหน้าลงทันทีก่อนจะเยาะเย้ยถากถางซ้ำ
“นี่คุณยังไม่ออกไปอีกเหรอ? กลับมาทำไมไม่ทราบ ยังคิดจะมาขโมยของในร้านเราอีกล่ะสิ”
พนักงานในร้านอีกคนเห็นเธอก็เข้ามาร่วมถากถาง
“คุณไม่เห็นแก่หน้าคุณเฉียวบ้างรึไง มาทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้”
“เกิดอะไรขึ้น?”
เฉียวอันซินหันกลับมา และตกตะลึงที่พบกับเฉียวเมียนเมียน
“คุณเฉียวค่ะ พี่สาวขี้ขโมยของคุณกลับมาอีกแล้วค่ะ”
ผู้ช่วยของร้านคนหนึ่งมองเฉียวเมียนเมียนอย่างไม่ใสใจ จากนั้นจึงโทรหาผู้ช่วยร้านคนอื่น ๆ “เธอต้องมาขโมยของอีกแน่ ทุกคนดูแลความเรียบร้อยด้วย อย่าปล่อยให้เธอขโมยอะไรไปได้”
“พี่คะ” เธอพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ กัดริมฝีปากแล้วกระซิบ “พี่ชอบเสื้อผ้าร้านนี้เหรอ ถ้าพี่ชอบจริง ๆ พี่ซูเจ๋อกับฉันจะซื้อให้พี่เอง พี่ไม่จำเป็นต้อง…”
เธอขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง ราวกับว่าคำพูดต่อไปนี้ของเธอช่างยากที่จะพูดออกมากระนั้
พยกังานหลายคนพยายามประจบเฉียวอันซินด้วยการพูดยกย่องเธอ
“คุณเฉียวทำไมถึงดีขนาดนี้ คุณน่ะดีเกินไปสำหรับพี่สาวขี้ขโมยเป็นไหน ๆ แล้วทำไมยังต้องซื้อเสื้อผ้าแพง ๆ ให้เธอด้วยล่ะค่ะ”
“ใช่แล้ว เธอไม่เหมาะกับเสื้อผ้าราคาแพงแบบนี้เลยด้วยซ้ำ เสื้อผ้าในร้านของเราเหมาะกับผู้หญิงแบบคุณเฉียวเท่านั้น”
“คุณเฉียวช่างจิตใจดีเหลือเกิน นี่ขนาดเธอเข้าไปเป็นมือที่สามของคุณกับคุณซู แล้วยังจะบังคับให้พวกคุณต้องแยกกันตั้งหลายปี คุณเฉียวคุณไม่จำเป็นต้องทำดีกับผู้หญิงไร้ยางอายแบบนี้เลยค่ะ”
“คนบางคนไม่รู้จักประเมินตัวเอง ซ้ำยังไม่มองตัวเองอีก อย่างคุณรึจะมาเทยบกับคุณเฉียวได้ยังไงกัน?”
เฉียวเมียนเมียนมองไปที่ผู้ช่วยของร้านที่กำลังยกย่องเฉียวอันซินแทบจะยกขึ้นบนฟ้า แล้วทำให้เธอดูตกต่ำ
เธอยิ้มเยาะผ่านมุมริมฝีปาก…