เฉียวเมียนเมียนลากสังขารออกจากโรงแรมอย่างทุลักทุเล
ออกมาจากโรงแรมได้เพียงครู่ สายเรียกเข้าจากเฉียวอันซินก็ดังขึ้น
“พี่คะ” เฉียวอันซินพูดเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นต่อ “เรามาคุยกันหน่อยเถอะ”
…
เฉียวเมียนเมียนกำโทรศัพท์แน่น พร้อมกับหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดอย่างเย็นชา
“ระหว่างเราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว”
“อย่างนั้นเหรอคะ” เฉียวอันซินกล่าวพร้อมยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“ถ้าเกี่ยวกับเฉียวเฉินล่ะคะ พี่ยังอยากจะคุยกับฉันต่อไหม”
“เฉียวเฉินเหรอ?”
ท่าทีของเฉียวเมียนเมียนเปลี่ยนไปทันที หล่อนขบกรามแน่น
“เฉียวอันซิน เธอต้องการพูดอะไร”
เฉียวอันซินไม่ตอบ เธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน “พี่ ฉันจะรอพี่ที่โรงแรมหมิงเย่ว เจอกันที่นั่นนะคะ”
เมื่อเฉียวเมียนเมียนมาถึงร้านอาหารภายในโรงแรมหมิงเย่ว เฉียวอันซินได้เข้ามานั่งรอเธอในห้องส่วนตัวอยู่ก่อนแล้ว หล่อนปะหน้าอย่างสวยหรูรับกับชุดเดรสสีดำรัดรูป เข้ากับผมดัดม้วนงอสวยสะดุดตา รอบตัวส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำหอมราคาแพง
เมื่อหันไปพบเฉียวเมียนเมียน หล่อนยิ้มและกล่าวทักขึ้น “เข้ามาสิคะพี่ นั่งก่อน”
เฉียวเมียนเมียนยืนอยู่ข้างโต๊ะ มองหล่อนด้วยแววตาเยือกเย็น
เฉียวอันซินไม่ได้ใส่ใจอะไร เธอหยิบเช็คเงินสดวางไว้บนโต๊ะ
“พี่คะ นี่เงิน 10ล้วนหยวน ฉันคิดว่ามันเพียงพอให้พี่อยู่สุขสบายไปตลอดชีวิต”
เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง
“ฉันรู้ว่าอาการป่วยของเฉียวเฉินต้องใช้เงินไม่ใช่น้อย และรายได้จากงานถ่ายแบบเพียงอย่างเดียว คงทำให้พี่เหนื่อยไม่น้อย”
“เงินนี่ จะทำให้พี่กับเฉียวเฉินมีชีวิตที่ดีขึ้นได้นะ”
เฉียวเมียนเมียนมองไปยังเช็คเงินสดบนโต๊ะ โดยไม่เปิดปากพูดอะไร
“พี่คะ มาคุยกันให้รู้เรื่องซะทีเถอะ อย่ามาเสียเวลาพูดอ้อมค้อมกันอีกเลย”
เฉียวอันซินยกริมฝีปากขึ้นพร้อมกับวางมือลงบนท้องของตน
“ฉันรู้ว่าพี่ได้ยินที่ฉันพูดเมื่อคืนทั้งหมดแล้ว ฉันท้องลูกของพี่อาซือ และฉันอยากจะเก็บเด็กคนนี้ไว้”
…
“ก่อนอื่น ฉันอยากให้พี่ยกเลิกการหมั้นหมายกับพี่อาซือซะ ไม่อย่างนั้น ฉันกับลูกจะลำบาก”
“อย่างที่พี่รู้ พี่อาซือกำลังจะขึ้นเป็นผู้จัดการ จะให้เขาเป็นฝ่ายถอนหมั้นพี่ด้วยตนเองได้ยังไง ฉันอยากให้พี่เป็นฝ่ายขอยกเลิกงานหมั้นนั้นซะ”
คำพูดไร้ยางอยายของหล่อน ไม่ได้ทำให้เฉียวเมียนเมียนรู้สึกโกรธอะไร อาจเพราะเธอได้ระบายอารมณ์ทั้งหมดนี้ไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ตอนนี้คำพูดของหล่อนจึงฟังดูน่าขันและไร้สาระสำหรับเธอ
เธอยิ้มเยียด “เฉียวอันซินที่ทำอยู่เนี้ย ซูเจ๋อเขาเห็นดีเห็นงามกับเธอด้วยรึเปล่า”
เมื่อเขาได้รับรู้ว่าเฉียวอันซินท้อง ซูเจ๋อไม่ได้มีความสุขไปกับหล่อนเลย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้เธอท้อง
อีกไม่นานเขาจะได้ขึ้นเป็นผู้จัดการ และก่อนเวลานั้น เขาคงไม่สามารถป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ถึงความสัมพันธ์กับเฉียวอันซินได้ เพราะมันจะทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียนั่นเอง
เห็นได้ชัดว่าซูเจ๋อไม่ได้รู้เรื่องหรือเห็นด้วยที่เฉียวอันซินเข้ามายื่นข้อเสนอนี้ให้กับหล่อน
เป็นจริงตามที่คาดไว้ เพราะท่าทีของเฉียวอันซินเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน
“เฉียวเมียนเมียน ปล่อยเขาไปเถอะ คนที่พี่อาเจ๋อรักก็คือฉัน เขาเลิกรักพี่ตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะการหมั้นหมายตั้งแต่เด็กของวงศ์ตระกูล พี่คิดว่าเขาจะเลือกพี่จริง ๆ เหรอ”
“เฉียวเมียนเมียน มันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะยึดติดกับผู้ชายที่เขาไม่ได้รักเราไม่ใช่เหรอ”
เฉียวเมียนเมียนนิ่งเงียบ เธอใจเย็นลงกับคำพูดไร้ยางอายของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะพูดกับหล่อนว่า
“เรื่องระหว่าฉันกับซูเจ๋อ ไม่ใช่เรื่องที่คนนอกจะเข้ามายุ่ง”
เฉียวอันซินนิ่งเงียบด้วยความโกรธ
เธอกัดริมฝีปาก “หมายความว่าพี่จะไม่ยกเลิกงานหมั้นใช่ไหม”
เฉียวเมียนเมียนหัวเราะเยอะ
“ถ้าเธอเรียกฉันมาพบ เพื่อจะคุยเรื่องนี้ ให้รู้ไว้ว่าฉันไม่สนใจเลย” พูดจบเธอหันหลังเดินผละออกมา
“เดี๋ยวก่อน!”
เฉียวอันซินยืนขึ้นพร้อมกับขว้าแขนเธอไว้
“เฉียนเมียนเมียน พี่ต้องการเงินเท่าไหร่ล่ะฮะ 10ล้านคงไม่พอสินะ งั้น 15ล้านเป็นไง อย่าโลภไปหน่อยเลย รีบ ๆ รับข้อเสนอไปซะเถอะ”
เพียะ! (เสียงตบหน้า)
เฉียวเมียนเมียนอดทนต่อไปไม่ไหวจนเผลอตบหน้าหล่อนเข้าให้