หลังจากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดหมายเลขปลายทาง
เพียงครู่ เฉียวเมียนเมียนได้ยินเขาคุยกับใครบางคนที่อยู่ปลายสายด้วยน้ำเสียงสั่งการ
“แผนกการแสดงศิลปะของยุนเฉิงฟิล์มอะคาเดมี มีคลาสการแสดงเวลา 10 โมงครับ คุณต้องให้แจ้งเปลี่ยนเวลานะครับ”
“อืม เปลี่ยนเป็นตอนบ่ายล่ะกัน”
“เวลาเรียนเปลี่ยนเป็นช่วงบ่ายแว ตอนนี้คุณก็ทานข้าวเช้ากับผมอย่างสบายได้แล้วรึยัง”
เฉียวเมียนเมียนนิ่งงัน “???”
เขาสามารถทำอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?
เขาสามารถเปลี่ยนตารางเวลาเพียงแค่คุยโทรศัพท์นี่นะ
ดูเหมือนว่าเธอจะแต่งงานกับสามีที่มีอำนาจมากเข้าแล้วสิ
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเหมาเยซือเป็นบุคคลที่น่าทึ่งเพียงใด เธอรู้สึกว่าเขาสามารถหาเงินมาได้เสมออย่างง่าย ๆ
เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว เธอก็เพิ่งเข้าใจได้ว่าสามีของเธอไม่ได้เก่งแค่เรื่องหาเงิน
ตระกูลเหมาไม่เพียงแต่ร่ำรวย แต่ยังมีความโดดเด่นในด้านอื่น ๆ อีกด้วย
เธอเคยได้ยินมาว่าผู้สมัครชิงตำแหนงประธานาธิบดีคนต่อไปคือ เหมาซือซิว ผู้นำตระกูลเหมา
ถ้าเธอจำไม่ผิดเขายังมีห้องสมุดหลายที่และอาคารเรียนหายแห่งในโรงเรียนที่สร้างโดยบริษัทเหมา
ในตอนนี้เฉียวเมียนเมียนดูเหมือนจะตระหนักว่าเธอได้แต่งงานกับครอบครัวที่ไม่ธรรมดา
ทันทีทันใด เธอตระหนักถึงสภาพของผู้ชายที่เธอแต่งงานด้วยนั้นดีเพียงใด
เขามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นยังมีรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาอีกด้วย เขาก้าวขึ้นสู่สูงสุดของวงการธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย และกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ผู้คนมากมายเคารพยกย่อง
ผู้ชายคนนี้อยู่บนโลกที่แตกต่างกับเธอโดยสิ้นเชิง
หากเป็นสถานการณ์ปกติ ระหว่างเธอและเขาคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะรู้จักกัน
แต่ตอนนี้…
เขากลายมาเป็นสามีของเธอจริง ๆ
เธอรู้สึกเหมือนไม่น่าเชื่อ
ถ้าไม่ใช่เพราะปัญหาพิเศษของเขา ที่มีแต่เธอที่สามารถเข้าใกล้เขาได้ เขาคงไม่มีทางคิดอะไรกับเธอเป็นแน่
เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่าในการแต่งงานกับเขาครั้งนี้ เธอได้มีแต่ได้กับได้จริง ๆ
“มานี่สิ”
เมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เหมาเยซือก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ
“คุณทำอะไรอยู่ตรงนั้น”
“อะ”
เฉียวเมียนเมียนผลักเก้าอี้ข้าง ๆ ตัวออก ก่อนที่เธอจะนั่งลง เหมาเยซือขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง
นิ้วเรียวของชายหนุ่มเคาะลงบนโต๊ะข้าง ๆ ตน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ผู้ฟังไม่สามารถปฏิเสธได้
“นั่งข้าง ๆ ผมสิ”
เฉียวเมียนเมียนเหลือบมองไปที่ตำแหน่งข้าง ๆ เขา ลังเลอยู่เพียงครู่ จากนั้นก็นั่งข้าง ๆ เขา
ก่อนที่เธอจะนั่ง เหมาเยซือเหยียดแขนออกกอดเธอ และพาเธอเข้าสู่อ้อมแขนของตน
เฉียวเมียนเมียนนั่งอยู่บนตักของเขาและอยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของเขา
เขาโอบรอบเอวของเธอ พร้อมกับสะกิดเบา ๆ ที่เนื้อนุ่มรอบเอวของเธอ
หญิงสาวในอ้อมกอดของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวาน
เขาสูดดมที่ผมของเธอพร้อมกับหายใจเข้าลึก สีหน้าของเขาดูมึนเมาเล็กน้อย
“ปกติแล้ว คุณใช้น้ำหอมกลิ่นอะไร ทำไมถึงหอมจัง”
ทำไมการสูดเอากลิ่นหอมของเธอเข้าไปถึงดีแบบนี้
ทันทีที่เธอเข้าใกล้ เขารู้สึกถึงความสบายใจอย่างที่ไม่อาจจะเข้าใจได้
ดูเหมือนทุกเซลล์ในร่างกายของเขาจะผ่อนคลายลง
หลังจากที่ครุ่นคิดทั้งคืน เขามั่นใจแล้วว่าเธอคือคนในพรหมลิขิต
เมื่อคืนเขานอนหลับสนิทมาก เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว เขานอนหลับถึงรุ่งสาง
เขาไม่เพียงแค่นอนหลับเป็นเวลายาวถึง 7ชั่วโมงโดยไม่ตื่นกลางดึก เขายังไม่ฝันร้ายอีกด้วย
สิ่งเหล่านี้ช่างหายากสำหรับเขา แม้มันจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนทั่ว ๆ ไปก็ตาม
การปรากฎตัวของเธอ เหมือนเป็นการจุดตะเกียงในโลกอันมืดมิดของเขา
ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้เห็นแสงสว่าง
เธอไม่รู้ว่าเธอนั้นสำคัญกับเขามากแค่ไหน