“ฉัน…ฉันไม่ได้ใช้น้ำหอมค่ะ” เมื่อถูกเขากอดไว้แบบนี้ เธอเขินอายหน้าแดงระเรื่อ
และพูดอย่างเขิน ๆ กับเขาว่า “เหมาเยซือคะ ปล่อยฉันได้แล้ว”
สาวใช้หลายคนยืนตะลึงนิ่งอยู่ภายในห้องอาหาร
พวกเขาทั้งตกตะลึงปนอิจฉากับฉากที่เห็นตรงหน้า
หญิงสาวไม่รู้ที่ไปที่มาคนนี้ ดูเหมือนจะเป็นที่โปรดปรานของเจ้านายหนุ่มของพวกเขาเป็นอย่งมาก
แม้ว่าเธอจะดูสวย แต่เธอก็ยังเด็ก ยังเป็นเพียงนักศึกษาอยู่เลย พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเจ้านายหนุ่มของเขาจะชอบสาวน้อยคนนี้
เหมาเยซือไม่เพียงแคโอบกอดเธอ เขายังจับที่คางของเธอพร้อมกับลูบมันไปมาอย่างเบามือ เสียงทุ้มของเขาพูดขึ้น
“เมื่อคืนคุณยังกอดผมทั้งคืนเลย ทำไมตอนนี้ผมจะกอดคุณบ้างไม่ได้”
ดวงตาของเฉียวเมียนเมียนเบิกกว้าง “ฉัน…เมื่อคืน…”
“ใช่น่ะสิ” เหมาเยซือลูบไล้แก้มของเธอด้วยปลายนิ้ว แล้วกระซิบเบา ๆ
“คุณยังกับปลาหมึกยักษ์แหนะ กอดผมไม่ยอมปล่อยเลย นอนหลับสบายอยู่คนเดียว ทำผมไม่ได้นอนทั้งคืน”
เฉียวเมียนเมียนหน้าแดงมากยิ่งขึ้น
เมื่อวานเธอเหนื่อยมากจนเผลอหลับในรถของเขา
หลังจากนั้นเธอจำอะไรไม่ได้เลย
ความคิดเรื่องที่เขาและเธอนอนอยู่บนเตียงเดียวกันแว๊บขึ้นมา ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเธอเร็วขึ้น
เธอรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เมื่อวานนี้เธอหลับไป เธอจึงไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากใจที่จะต้องนอนร่วมเตียงเดียวกับเขา
เธอหน้าแดงแล้วถามขึ้นว่า “เสื้อผ้าพวกนี้ล่ะคะ…”
“แน่นอนว่าผมเป็นคนเปลี่ยนให้คุณเอง คุณเป็นผู้หญิงของผมนะ มีเพียงผมเท่านั้นที่สามารถเห็นเรือนร่างคุณได้”
“คุณ…คุณเปลี่ยนชุดให้ฉันเหรอ?” ดวงตาของเฉียวเมียนเมียนเบิกกว้าง ใบหน้าของเธอร้อนดูเหมือนจะไหม้และแดงระเรื่อทั่วทั้งใบหน้า
“คุณอายอีกแล้วเหรอ?” เหมาเยซือบีบคางของเธอ พร้อมกับมองไปที่ท่าทางที่แสนจะยั่วยวนของเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะและหัวเราะออกมาเบา ๆ “ทำไมคุณเขินได้ง่ายจัง? ที่รัก ผมเป็นสามีของคุณนะ เป็นเรื่องปกติที่ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณไม่ใช่เหรอ?”
“เหมาเยซือ หยุดพูดก่อน…”
ขณะที่เขาพูดประโยคเหล่านั้น ทำให้ใบหน้าเธอแดงทั้งหน้า และหัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่าใบหน้าของตนร้อนเหมือนจะไหม้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเรียกเธอว่า ‘ที่รัก’ เธอรู้สึกราวกับถูกสะกดจิต แม้กระทั่งความรู้สึกยังอ่อนไหวไปเสียหมด
ตอนนี้…
เฉียวเมียนเมียนสงสัยจริง ๆ กับคำพูดของลุงหลี่ที่เธอกับเธอก่อนหน้านี้เป็นความจริงหรือไม่
เหมาเยซือไม่เคยเดทมาก่อนน่ะจริงหรือ
แล้วเขาทำเจ้าชู้ขนาดนี้ได้อย่างไรกัน
ผู้หญิงที่เคยมีความรักมาก่อน ยังถูกเขาสะกดได้ถึงเพียงนี้ เธอไม่สามารถห้ามหัวใจของตนเองให้ไม่เต้นเร็วขึ้นได้เลย
“ที่รัก คุณรู้ไหมว่าผมต้องการทำอะไรตอนนี้” เหมาเยซือขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้น ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะใบหูของเธอ แล้วเขาก็ลดเสียงลงพูดกับเธอว่า “ผมต้องการ…”
คำพูดที่มีแค่เขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เหมือนหัวใจจะระเบิด เธอเงยหน้าขึ้น น้ำตาเอ่อล้น
“เหมาเยซือคะ ฉันหิวแล้ว ฉันอยากจะทานข้าวแล้วค่ะ”
ในเวลานั้น คนรับใช้นำอาหารเช้าของเฉียวเมียนเมียนเข้ามาให้ มีทั้งอาหารจีน อาหารตะวันตก และผลไม้ ในเซตดั่งอาหารของโรงแรมห้าดาว
เหมาเยซือจำใจที่จะต้องปล่อยเธอจากอ้อมแขน