เขาจับเธอไว้ในมือข้างหนึ่ง ชูแก้วนมบนโต๊ะแล้วป้อนเข้าปาก
“มา ดื่มนมก่อน”
เฉียวเมียนเมียนเงียบไป
“ขอฉันทำเองได้ไหม…”
Qiao Mianmian whined and didn’t dare to ask for anything. She blushed as she drank the milk from the man’s hand.
The maids behind were so envious that they were about to cry.
“ฮะ?…” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ใบหน้าหล่อ ๆ ของเขาก็เผยให้เห็นรอยยิ้มเยาะที่น่ากลัว
“คุณไม่ชอบแบบนี้เหรอ? หรือจะให้ผมป้อนด้วยปาก”
“…”
เฉียวเมียนเมียนคร่ำครวญ ไม่กล้าพูดขออะไรอีก เธอหน้าแดงขณะดื่มนมจากมือของเขา
สาวใช้ที่ยืนคอยรับใช้อยู่ด้านหลังต่างอิจฉาจนแทบจะร้องไห้
โอ้ นายหญิงช่างเป็นผู้หญิงที่มีความสุขเกินไปแล้ว
คงไม่มีอะไรที่จะเสียใจในชีวิตอีกแล้ว ก็ได้รับความรักจากนายท่านซะขนาดนี้!
ในขณะดียวกันหลายคนก็รู้ชัดแล้วว่า เฉียวเมียนเมียนอยู่ในตำแหน่งผู้ครอบครองหัวใจของเหมาเยซือ
หญิงสาวคนนี้เป็นที่รักของนายท่านมาก จนต้องได้รับการปฎิบัติด้วยความเคารพ
***
ในขณะที่รับประทานอาหารเช้า หัวใจของหญิงสาวก็ไม่ยังไม่วายที่จะเต้นรัว
ดูเหมือนเหมาเยซือจะสาละวันกับการป้อนนั่นป้อนนี่ให้เธอ จนไม่ได้ตักอะไรทานเลย
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เหมาเยซือก็ขึ้นไปชั้นบนเพื่อแต่งตัว ส่วนเฉียวเมียนเมียนนั่งรอเข้าอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
สิบนาทีต่อมา เหมาเยซือเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงไปชั้นล่าง
วินาทีที่เธอเห็นเขา เฉียวเมียนเมียนต้องตะลึง
ชุดสูทงานตัดด้วยมือจากช่างฝีมือดีพอดีรับกับไหล่กว้าง เอวคอดและขายาว มันทำให้ผู้สวมใส่น่าดึงดูดและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ขายาวตรงของเขาดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก
ในชุดสูทและรองเท้าหนังให้อารมณ์ที่เย็นชาและเย่อหยิ่งไม่น้อย ทั้งร่างของเขาดูช่างน่าเกรงขาม
เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาและลึกของเขา ทำให้หัวใจของเฉียวเมียนเมียนเต้นรัวขึ้น
“นายท่านครับรถพร้อมแล้วครับ” เหลยเอินเข้ามากล่าวด้วยความเคารพ
“อืม” เหมาเยซือจัดกระดุมที่แขนเสื้อแล้วเดินไปหาเฉียวเมียนเมียน
“ไปกันเถอะ เดียวผมไปส่งคุณที่วิทยาลัย”
***
เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมื่อคืน เหมาเยซือหลับไม่สนิทหรือไม่ เธอเห็นเขาหลับตาลงตลอดทางที่อยู่บนรถ
ในเวลานี้ เฉียวเมียนเมียนดูจะกล้าขึ้น
ในขณะที่เขาหลับ เธอหันศีรษะไปแอบมองเขาอยู่ในบางครั้ง
ทันทีที่เธอนึกถึงการเคลื่อนไหวที่ใกล้ชิดที่เขาเคยทำกับตัวเธอเองก่อนหน้านี้
ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นอย่างเร่าร้อน รวมไปถึงการเต้นของหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน
ใกล้วิทยาลัย เฉียวเมียนเมียนของให้ลุงหลี่จอดรถในสถานที่ที่ไม่สะดุดตา แม้ว่าเธอจะแต่งงานกับเหมาเยซือแล้ว แต่เธอก็ไม่ต้องการให้คนจำนวนมากรู้เกี่ยวกับการแต่งงานนี้
ลุงหลี่จอดรถ…
เฉียวเมียนเมียนกำลังคิดถึงการบอกลากับเหมาเยซือ เมื่อเธอเห็นผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
ดวงตาคู่นั้นซึ่งมืดกว่ายามค่ำคืน จ้องมาที่เธอและเขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย “ถึงแล้วเหรอ?”
“ค่ะ” เฉียวเมียนเมียนพยักหน้า “ฉันจะลงรถแล้ว…ไว้เจอกันนะคะ”
หลังจากพูดจบเฉียวเมียนเมียนก็เปิดประตูรถและกำลังจะลงจากรถ
“ผมได้อนุญาตให้คุณไปหรือยัง”
ข้างหลังเธอ เสียงของชายหนุ่มแผ่วเบา แต่ทำให้เฉียวเมียนเมียนหยุดนิ่ง
เธอหันหน้ากลับไปถามเขา “…มีอะไรอีกไหมคะ”
ชายหนุ่มรูปหล่อขมวดคิ้ว พูดด้วยความไม่พอใจ “มานี่”
เฉียวเมียนเมียนลังเล แต่ยังคงขยับร่างกายของเธอเข้าไปหาเขา
ทันทีที่เธอเข้าไปใกล้ เหมาเยซือก็ดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขา ก่อนที่เธอจะตอบสนองจูบอันร้อนแรงของชายคนนั้นก็ก้มลงมาที่ริมฝีปากเธอ
เมื่อเฉียวเมียนเมียนกำลังจะขาดลมหายใจ ชายหนุ่มก็ปล่อยเธอ นิ้วยาวของเขากดลงบนริมฝีปากของเธอและเขาพูดด้วยเสียงแหบแห้ง “นี่คือจูบลา”
***
ขาของเฉียวเมียนเมียนอ่อนแรงเมื่อเธอลงจากรถ
เธอปิดแก้มที่ร้อนผ่าว ในขณะที่ใบหน้าร้อนผ่าวและเขินอายก่อนจะหัวหน้าเดินไป