“พวกคุณยังจำได้ไหม ประธานเหมาเป็นแบบนี้ในการประชุมครั้งล่าสุดด้วย”
“ประธานเหมากำลังเดทหรือเปล่า”
“เป็นไปได้ยังไง? ประธานเหมาแสดงความสนใจผู้หญิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าเขาตกหลุมรักใคร เขาจะไม่แสดงอาการใด ๆ เลยจริงเหรอ?”
***
นอกห้องประชุม
เหมาเยซือรับโทรศัพท์ของเฉียวเมียนเมียน และโทรหาเว่ยเจิ้ง
“ครับ ประธานเหมา”
เหมาเยซือปลดเนกไทที่คอออกแล้วหันหน้าเดินเข้าไปในลิฟต์
“ช่วยฉันจัดการประชุมด้วย ฉันจะออกไปข้างนอก”
อะไรนะ?!
เว่ยเจิ้งตกตะลึง
เขาเป็นเพียงผู้ช่วยตำแหน่งเล็ก ๆ แล้วจะจัดการประชุมระดับสูงเช่นนี้ได้อย่างไร
แล้วทำไมจู่ ๆ ประธานเหมาถึงออกไปในขณะที่กำลังประชุมอยู่ นี่เป็นการประชุมที่สำคัญมากนะ
เว่ยเจิ้งวิ่งไล่ตามเขาไปทันที
“ประธานเหมาครับ ผมทำไม่ได้ครับ” เขาเรียกความกล้าหาญก่อนจะเอ่ยออกไป
“มีผู้บริหารระดับสูงนั่งอยู่ให้ห้องประชุม มันไม่ดีถ้าผมจะเป็นผู้นำประชุม”
เหมาเยซือเดินอย่างเร่งรีบ
เขาเดินไปที่ทางเข้าลิฟต์และกดปุ่ม
“ถ้าฉันบอกว่าคุณทำได้ คุณก็ทำได้ หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว นี่เป็นส่วนหนึ่งของงานของคุณ ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็ลาออกไปซะ”
ประตูลิฟต์เปิดออก
หลังจากพูดจบ เหมาเยซือเดินเข้าไปข้างใน ก่อนจะปิดประตูลิฟต์
เว่ยเจิ้ง : “…”
เขาถูกขู่ว่าจะถูกไล่ออก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะคิดเห็นเป็นอย่างอื่น
เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก
โลกมีขนาดใหญ่ และเจ้านายก็ใหญ่ที่สุด
ไม่ว่างานนั้นจะยากหรือท้าทายแค่ไหน เขาก็ต้องทำให้สำเร็จ
เมื่อนึกถึงการที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้บริหารระดับสูงหลายคน เว่ยเจิ้งรู้สึกกดดันที่ไหล่ของเขาเป็นอย่างมาก
ทำไมช่วงนี้ เขารู้สึกว่าประธานเหมาเอาแต่ใจขึ้นเรื่อย ๆ
เขาออกไปก่อนเวลาตามที่ต้องการ และยังออกจากการประชุมกลางคันได้
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
***
ทันทีที่เฉียวเมียนเมียน จัดเตียง เธอได้ยินเสียงดังจากชั้นล่าง
มีการเคลื่อนไหวมากมาย และหลายคนในห้องนอนก็วิ่งออกไปดู เธอกับเจียงหลัวลี่ก็ออกไปดูด้วย
เธอมองลงไปชั้นล่างและเห็นกลุ่มชายที่แต่งตัวดี กำลังเดินเข้ามาในหอพักหญิง ป้าผู้ดูแลหอพักไม่ให้พวกเขาเข้า
ป้าผู้ดูแลมีอายุห้าสิบปีเศษ และไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหล่าชายกลุ่มนั้น
เธอไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ แม้ว่าเธอจะพยายามหยุดเขาแล้วก็ตาม
ชายคนหนึ่งแสดงสีหน้าร้อนรนบนใบหน้าของเขา เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วผลักเธอลงกับพื้นอย่างแรง
“ให้ตายเถอะ พวกมันทำเกินไปแล้ว ที่นี่วิทยาลัยนะ แต่พวกเขากล้าทำถึงขนาดนี้ได้” เจียงหลัวลี่โกรธมาก
ใบหน้าของเฉียวเมียนเมียนจมลงเช่นกัน เธอเม้มริมฝีปากแน่น
“เซินเยวเยวพาคนเหล่านี้มาที่วิทยาลัยจริง ๆ เธอกล้าจริง ๆ”
หากเรื่องนี้ถูกสอบสวนโดยวิทยาลัย เซินเยวเยวจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน
สิ่งนี้ก็ชัดเจนสำหรับเซินเยวเยวอยู่แล้ว เหตุผลที่เธอกล้าทำนอกเหนือจากที่มีพี่ชายที่หล่อและรวยของเธอแล้ว เธอต้องมีคนอื่นหนุนหลังอีกเป็นแน่
ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่กล้าทำอุกอาจถึงเพียงนี้
เฉียวเมียนเมียน ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ได้บอกใครเกี่ยวกับการเลิกรากับซูเจ๋อ
แต่เซินเยวเยวและคนอื่น ๆ ในห้องนอนรู้ได้อย่างไร
“หลัวหลัวขอ ฉันถามอะไรหน่อย” ดวงตาของเฉียวเมียนเมียนหม่นหมองลง
ในใจของเธอพอจะเดาได้อยู่แล้ว
“เกิดอะไรขึ้น?” เจียงหลัวลี่มองดูกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เข้ามาในหอพักหญิงและถามอย่างกังวล
“เพื่อน แล้วคนที่จะมาช่วยเธอล่ะ เขายังไม่มาอีกเหรอ?”
เฉียวเมียนเมียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “ใครบอกเธอเรื่องที่ฉันเลิกกับซูเจ๋อ”