เธอไม่ได้แต่งหน้า แต่เธอดูดีกว่าผู้หญิงหลายคนที่แต่งหน้าเสียอีก
ตูเจ๋อเคยเห็นผู้หญิงสวยมามากมาย แต่ทั้งหมดรวมกันยังไม่สวยเท่าเธอเพียงคนเดียว
จากประสบการณ์ที่ควงผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้า
ดังนั้นเขาสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่าเฉียวเมียนเมียนไม่เพียงแต่สวยอย่างเดียว เธอมีรูปร่างที่ดีด้วย
ด้วยความงามที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตูเจ๋อแทบจะละลาย
เขาตัดสินใจแล้วว่า เขาต้องการผู้หญิงสวยคนนี้
ความปรารถนาในดวงตาของตูเจ๋อนั้นชัดเจนมาก จนเฉียวเมียนเมียนขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็น เธอพูดกับเขาด้วยท่าทีรังเกียจและพูดอย่างเย็นชาว่า
“ฉันเองค่ะ คุณเป็นพี่ชายของเซินเยวเยวงั้นหรือ คุณมาเพื่อจัดการฉันให้เธอเหรอ”
ตูเจ๋อยิ้ม “เยวเยวบอกว่าถูกเธอรังแก เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
“พี่ตูเจ๋อ พี่ต้องช่วยฉันนะ จัดการผู้หญิงคนนี้เลยค่ะ” เซินเยวเยวลุกขึ้นเมื่อเธอรู้ว่ามีคนคอยปกป้องเธอ และมองไปที่เฉียวเมียนเมียนด้วยสายตาเกลียดชัง
เฉียวเมียนเมียนไม่แสดงอาการอะไร “แล้วถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ? แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่ใช่ล่ะค่ะ?”
ตูเจ๋อไม่ได้พูดอะไร
เขามองไปที่เฉียวเมียนเมียนด้วยเจตนาร้ายอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานริมฝีปากเขาก็โค้งงอขึ้น
“เยวเยวและถิงถิงเป็นน้องสาวของฉัน ถ้าเธอรังแกพวกเขาแล้วในฐานะพี่ชายของพวกเขา ฉันจะนอนหลับได้อย่างไร”
“แต่…” ตอนนี้รอยยิ้มของเขาดูบิดเบี้ยวกว่าเดิม
“เธอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนี่ อยู่ห้องพักเดียวกันด้วย ฉันเดาว่าต้องมีความเข้าใจผิดอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม”
“พี่ตูเจ๋อ พี่…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ท่าทีของเซินเยวเยวและจ้าวหวันถิงก็มืดลง
พวกเขาจำแววตาของตูเจ๋อได้ว่านี่ แววตาของผู้ชายที่กำลังพยายามดึงดูดผู้หญิง
พวกเขาได้แต่สาปแช่งเฉียวเมียนเมียนในใจ
ช่างเป็นนางสุนัขจิ้งจอกจริง ๆ
เธอยั่วยวนผู้ชายที่คนที่เธอพบเห็น
ตูเจ๋อมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเขา แต่ตอนนี้ เขากำลังถูกผู้หญิงเลวคนนี้ล่อลวง
เซินเยวเยว กำลังจะระเบิดความโกระออกมา
“พี่ตูเจ๋อ นี่ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด พี่ก็เห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ว่าเธอทำกับฉันยังไง พี่บอกว่าจะช่วยพวกเรา พี่จะผิดคำพูดอย่างงั้นหรือ?”
แต่ในตอนนี้ตูเจ๋อ ถูกความงามของเฉียวเมียนเมียนดึงดูดอย่างมาก
เขาไม่สามารถยุ่งกับพวกเธอทั้งสองคนได้
เขาปฏิเสธเซินเยวเยว แล้วยังคงจ้องมองเฉียวเมียนเมียนด้วยความปรารถนา
“นักศึกษาเฉียว ทำไมเราไม่หาที่คุยกันล่ะ ผมชื่อตูเจ๋อ พ่อของผมตูไห่ เป็นประธานบริษัทเฉิงหัว ผมเชื่อว่าคุณต้องเคยได้ยินชื่อนี้”
ตูเจ๋อพยายามจะครอบงำเธอ เมื่อเขาพูดอย่างนั้น
เขาดูการแต่งตัวของเฉียวเมียนเมียน และเดาว่าเธอคงมาจากครอบครัวธรรมดา
เธอจะไม่ปฏิเสธความก้าวหน้าของทายาทรุ่นที่สองที่ร่ำรวย สาวประเภทนี้ก็เป็นพวกวัตถุนิยมเหมือนกันหมด
เขาได้พิสูจน์แล้วว่าความคิดนี่ถูกต้องเพียงใดกับผู้หญิงที่เขาไล่ตามทุกคน
“พี่ตูเจ๋อ พี่กำลังทำอะไร พี่ควรช่วยพวกเราสิคะ” เซินเยวเยวและจ้าวหวันถิงไม่คาดคิดว่าเฉียวเมียนเมียนจะน่ากลัวมากขนาดนี้
ตูเจ๋อหันมาพูดกับพวกเขาด้วยท่าทีเหลืออดและหัวเราเยาะ
“หุบปาก! ฉันไม่ได้พูดกับพวกเธอดังนั้นจงเงียบไว้”
ด้วยเหตุนี้เขาจึงหันไปหาเฉียวเมียนเมี่ยนและเลิกคิ้ว
“แล้ว นักเรียนเฉียวจะไปทานอาหารกลางวันด้วยกันได้ไหม คุณชอบอะไร ผมจะจองร้านอาหารให้คุณตอนนี้เลย”