เฉียวเมียนเมียนเคยเจอผู้ชายเช่นตูเจ๋อมากนักต่อนัก
ก่อนที่ซูเจ๋อจะเข้ามาเป็นทายาทรุ่นที่สองที่ร่ำรวยหลาย มีหลายคนที่เข้ามาติดพันเธอเช่นกัน
เธอไม่รู้แน่ชัดเกี่ยวกับความคิดของพวกเขา
พวกเขาเพียงแค่ต้องการเธอเพื่อควงเล่น แต่หลังจากนั้นสักพักก็จะทอดทิ้งเธอไป
ชายเหล่านี้ไม่มีความจริงใจ
เธอรังเกียจพวกเขาเป็นอย่างมาก
เธอไม่รู้สึกว่าตูเจ๋อสมควรได้รับความเคารพใด ๆ เธอจึงพูดอย่างเย็นชาว่า
“ขอโทษนะคะ แต่ฉันไม่ว่างค่ะ ยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่สนใจที่ทานอาหารกลางวันร่วมกับคุณ”
การแสดงออกของตูเจ๋อดูแย่ลง เมื่อถูกปฏิเธอต่อหน้าผู้คนมากมาย ด้วยการแสดงท่าทีที่มืดมนเมื่อเขาพูดอีกครั้งมันเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่ตึงเครียด
“คุณไม่รู้จักบริษัทเฉิงหัว งั้นเหรอ”
เฉียวเมียนเมียนยิ้มเยาะ
“หืม ฉันไม่รู้จักค่ะ ทำไมเหรอคะ บริษัทดังมากเหรอคะ ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน”
ตูเจ๋อมีทีท่าน่ากลัวมากขึ้น
ทายาทรุ่นที่สองที่ร่ำรวยอย่งเขา มักจะติดเพื่อน ๆ หาเรื่องเขาไปทั่ว และเมื่อพูดถึงผู้หญิงนี่แทบจะกระโจนใส่พวกเขา
นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกผู้หญิงปฏิเสธ ทำให้เขาอับอายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเริ่มหงุดหงิด
“แม่สาวหน้าโง่ อย่าหน้าด้านอยู่เลย ผมจะถามคุณอีกครั้งว่าคุณจะไปหรือไม่ไป”
เมื่อเห็นว่าตูเจ๋อโกระ เซินเยวเยวและจ้าวหวันถิงก็รู้สึกดีขึ้น
เฉียวเมียนเมียนเป็นอีตัวไร้ยางอาย
ตูเจ๋อรู้สึกไม่พอใจแล้ว นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการสอนบทเรียนให้กับเธอ
ทั้งสองคนเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก
“เฉียวเมียนเมียน เป็นบุญของเธอแค่ไหนแล้วที่พี่ตูเจ๋อมองเห็นบางอย่างในตัวเธอ เธอเป็นใครถึงได้กล้าปฏิเสธเขา”
“พี่ตูเจ๋อคะ พี่ควรลงโทษเธอที่โง่เขลาเช่นนี้”
เจียงหลัวลี่เห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายลงและมองไม่เห็น คนที่จะมาช่วย ที่เฉียวเมียนเมียนพูดถึงเลย กลัวว่าเฉียวเมียนเมียนจะมีปัญหา เธอจึงส่งข้อความไปหาซูเจ๋ออย่างระมัดระวังหลังจากที่ลังเลใจอยู่นาน
เจียงหลัวลี่: [ตอนนี้พวกอันธพาลสองสามคนกำลังสร้างปัญหาให้กับเมียนเมียน ประธานซูสามารถช่วยเธอได้ไหมคะ]
เธอคิดเกี่ยวกับมัน
แม้ว่าพวกเขาจะเลิกรากันไปแล้ว แต่ซูเจ๋อคงไม่เพิกเฉยต่อเธอ พวกเขาอยู่ด้วยกันมาหลายปี
คนเดียวที่จะสามารถช่วยเธอได้ตอนนี้คือ ซูเจ๋อ
ซูเจ๋อ ตอบทันที : [เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้เมียนเมียนอยู่ที่ไหน]
เจียงหลัวลี่ : [หอพักหญิง ประธานซูรีบมานะคะ เมียนเมียนกำลังจะถูกพาตัวไปแล้วค่ะ]
ซูเจ๋อ : [ผมอยู่ใกล้ ๆ วิทยาลัยนี่เอง จะรีบไปเดี๋ยวนี้]
เมื่อเห็นการตอบสนองของซูเจ๋อ เจียงหลัวลี่ลอบถอนหายใจโล่งอกทันที ถ้าเขาอยู่ใกล้ ๆ เขาคงมาถึงที่นี่ในไม่ช้า
ขณะที่เจียงหลัวลี่ส่งข้อความสุดท้ายของเธอ เธอก็เห็นว่าตูเจ๋อกำลังเคลือนไหว
“นังบ้านี่ ฉันทนแกมามากพอแล้ว คิดว่าตัวเองสูงส่งเกินไปแล้ว แกมากับฉัน ไม่ว่าจะอยากมาหรือไม่อยาก ฉันก็จะใช้กำลังพาแกมาด้วยกันให้ได้”
“ฉันเคยเห็นผู้หญิงแบบแกมากนักต่อนักแล้ว ไม่ต้องออกไปขายตัวที่ไหน นี่ฉันมีเงิน ฉันให้ล้านหยวนต่อคืนเลย พอใจไหม หรืออยากจะได้มากกว่านั้น”
ในที่สุดตูเจ๋อก็แสดงสีหน้าที่แท้จริงออกมา
เขาจับมือเฉียวเมียนเมียน แล้วเอื้อมไปหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์จากนั้นก็โยนมันใส่หน้าเธอ
“อย่าทำตัวสูงส่ง แกมันก็แค่สินค้าใช้แล้ว น่าจะรู้ดีนะว่ายืนอยู่ตรงไหน ทำตามที่ฉันบอกอย่างว่าง่ายซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันหยาบคาย”
“เมียนเมียน ปล่อยเมียนเมียนนะ”
เจียงหลัวลี่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อพยายามจะช่วยเธอ แต่ก็ถูกผู้ชายอีกสองสามคนหยุดไว้