“อย่าทำแบบนี้ ตกลงไหม”
เหมาเยซือถามอย่างจงใจยิ้มด้วยความสนุกสนาน
เฉียวเมียนเมีนรู้สึกรำคาญเล็กน้อยกับรอยยิ้มเย้ยหยันของชายคนนี้ อารมณ์ของเธอเพิ่มขึ้น เธอกัดริมฝีปากตนเองเบา ๆ จ้องมองเขาอย่างดุเดือด
“อย่ามาแตะต้องฉันตามอำเภอใจอีก!”
เขามักจะจูบเธอแทบจะเป็นลม
เธอไม่สามารถรับมือกับจูบที่เร่าร้อนเช่นนี้ได้
เหมาเยซือหัวเราะเบา ๆ และขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาแสดงสีหน้าไม่พอใจและพูดว่า
“ก็ผมเห็นคุณทีไร ผมก็อยากกอดอยากจูบ และอยากสัมผัสคุณ ตามที่ผมต้องการ ช่วยบอกหน่อยสิว่าผมควรทำยังไงดี”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
“ที่รัก”
ชายคนนั้นโน้มตัวและแนบริมฝีปากอุ่น ๆ ของเขาไปที่ติ่งหูของเธอ เสียงทุ้มต่ำของเขาช่างเซ็กซี่และหยอกล้ออย่างไม่น่าเชื่อ
“ผมต้องตำหนิคุณที่ดึงดูดใจผมมากเกินไป ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย ผมรู้ว่าคุณยังไม่ชินกับความสัมพันธ์ของเรา แต่คุณต้องพึงรู้ไว้อย่างหนึ่ง ว่าเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว คุณเป็นภรรยาผม เป็นผู้หญิงที่ผมจะใช้ชีวิตที่เหลือด้วย ผมจะรักใครได้อีก นอกจากนี้ผมเป็นแบบนี้ เพราะผมชอบคุณ”
เขาแสยะยิ้มเมื่อเห็นเด็กสาวหน้าแดงอย่างมากในอ้อมแขนเขา และหัวเราะเบา ๆ อีกครั้ง
“คุณไม่ชอบให้ผมเป็นแบบนี้เหรอ? แต่ตอนนี้คุณไม่ได้ขัดขืนจูบของผมเลยนะ”
เฉียวเมียนเมียนยกมือขึ้นปัดแก้ม
เธอไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร
“แต่คุณไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร”
เธอกัดริมฝีปากของเธอ และในที่สุดก็ตอบโต้เบา ๆ หลังจากนั้นไม่นาน
“คุณหมายความว่ายังไง คุณไม่ชอบให้ผมทำแบบนี้ที่นี่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นเราควรไปที่อื่นไหม?”
เธอพูดไม่ออก
เธอไม่ได้หมายความแบบนั้น
ผู้ชายคนนี้จงใจบิดเบือนคำพูดของเธอ!
ร้ายกาจจริง ๆ
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกเหมือนว่าเธอไม่สามารถเอาชนะเชาได้ และยอมแพ้
รถเบนท์ลีย์สีดำขับไปอย่างช้า ๆ บนถนนในวิทยาลัย
เฉียวเมียนเมียนขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าพวกเขาเกือบจะออกไปจากวิทยาลัยแลฃ้ว
“เหมาเยซือคะ ฉันไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลหรอก คุณช่วยจอดให้ฉันลงที่นี่ได้ไหม”
การล้มของเธอไม่ได้ร้ายแรง แต่อย่างใด
มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยและเธอสบายดี แค่ซื้อยาจากร้านขายยามาทำแผลก็เรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเลย
เหมาเยซือมองลงไปที่เธอ
“ผมจะพูดเป็นครั้งสุด จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล”
เฉียวเมียนเมียนเงียบไป
เขาจะครอบงำเธอได้อย่างไร
เธอขมวดคิ้วแน่นขึ้น
“มันไม่จำเป็นจริง ๆ ฉันไปร้านขายยา ซื้อยามาทาเองได้ คุณควรไปทำงานได้แล้ว ฉันไม่อยากให้งานของคุณเสียหายกับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้”
ที่สำคัญเขาเป็นประธานบริษัทขนาดใหญ่
เขาคงจะยุ่งมาก
เฉียวเมียนมเยนไม่คิดเลยว่าเขาจะมาวิทยาลัยเพื่อเธอ
เหมาเยซือบีบคางของเธอและจ้องมองเธอด้วยดวงตาสีเข้มของเขาสักพักก่อนจะกระซิบ
“เรื่องของคุณไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ไม่มีงานไหนสำคัญเท่าคุณ”
ตึกตัก! ตึกตัก!
ในขณะที่เฉียวเมียนเมียนได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเต้นรัวที่อยู่อกของเธอเอง
สมองของเธอดูเหมือนจะว่างเปล่า ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเธอก็ดูเหมือนจะถูกดูดเข้าไปในดวงตาที่มืดมิดนั้น
“จงเป็นเด็กดีและเชื่อฟังผม ไปโรงพยาบาล เมียนเมียน อย่าทำให้ผมต้องเป็นห่วงจะได้ไหม”
มือที่แห้งและอบอุ่นของชายคนนั้นลูบไล้แก้มที่อ่อนโยนของเธอ ขณะที่ความรักส่งผ่านออกมาจากแววตา
เฉียวเมียนเมียนพยักหน้าอย่างงุนงง ราวกับถูกมนต์สะกด