ระหว่างทางไปโรงพยาบาล เหมาเยซือโทรหา ลู่ เยี่ยว
หลังจากเสียงเรียกเข้าดังอยู่สองสามครั้ง ลู่ เยี่ยวก็หยิบขึ้นมาและพูดเบา ๆ ว่า
“ประธานเหมา ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับให้คำปรึกษาด้านอารมณ์ของนาย ค่อยคุยกันวันอี่นเถอะ หรือค่อยคุยกันหลังจากที่ให้ฉันได้นอนสักสองสามชั่วโมงเถอะนะ”
เหมาเยซือลูบไล้เรือนผมนุ่มของหญิงสาวและส่งเสียง
“ทำไม เมื่อคืนทำงานหนักเกินไปหรือ?”
ลู่เยี่ยว : “ไอบ้า ฉันเพิ่งออกจากห้องผ่าตัด โอเค๊? นายลองมาผ่าตัดสักสิบชั่วโมงดูจะว่าจะรู้สึกยังไง ฉันเหนื่อยเหมือนหมา ไม่สิ แม้แต่หมายังไม่เหนื่อยเท่าฉันเลย”
เหมาเยซือไม่มีอารมณ์อะไร ในขณะที่ฟังคำบ่นของพี่ชายที่แสนดีคนนี้
“ฉันไม่สนหรอกว่านายจะกลายเป็นหมารึเปล่า เผื่อเวลาให้สักชั่วโมงสิ ตอนนี้ฉันกำลังพาเมียนเมียนไปโรงพยาบาล จะถึงโรงพยาบาลในอีกสิบนาทีแล้ว เธอได้รับบาดเจ็บน่ะ ช่วยตรวจดูให้หน่อย”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
เธออยากจะบอกว่าอาการบาดเจ็บของเธอไม่ได้ร้ายแรงแม้แต่น้อย!
“เมียนเมียน?” ทันใดนั้น ลู่เยี่ยวก็ได้ยินเหมาเยซือ พูดถึงหญิงสาวอย่างสนิทสนม และตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรู้ตัว
“นายกำลังพูดถึงภรรยาของนายเหรอ? เธอได้รับบาดเจ็บ? บาดเจ็บอะไร? มันร้ายแรงมากไหม?”
“อืม” เหมาเยซือมองไปที่รอยฟกช้ำบนแขนและขาขาว ๆ และอ่อนโยนของหญิงสาวแล้วขมวดคิ้วอย่างเคร่งขรึม
“เธอเจ็บทั้งมือและขา ให้เธอรอตรวจภายหลังไม่ได้หรอก ฉันกังวลน่ะ”
ลู่เยี่ยว คิดจริง ๆ ว่าเฉียวเมียนเมียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธและตอบทันที
“เอาล่ะ มาถึงโรงพยาบาลแล้วบอกฉันล่ะกัน เออ เธอต้องการเปลหามไหม? เดินไหวไหม?”
***
พวกเขามาถึงโรงพยาบาล
หลังจากที่ลงจากรถ เฉียวเมียนเมียนถูกเหมาเยซืออุ้ม
แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องโรแมนติกมากที่ถูกอุ้มดั่งเจ้าสาว แต่เธอก็ยังพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ฉันเดินเองได้น่า”
เธอแค่มีรอยฟอกช้ำ ไม่ได้มีอะไรแตกหักเสียหน่อย
แต่ชายคนนั้นไม่สนใจที่จะปล่อยเธอลงเลย เขาพาเธอตรงเข้าไปเข้าใน เธอถูกจ้องมองจากสายตามากมายตลอดทาง
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกอายมาก จนฝังศีรษะเข้าไปที่หน้าอกเขาอีกครั้ง
เหมาเยซือพาเธอเข้าไปที่ห้องของลู่เยี่ยวโดยตรง
“มาให้ผมดูหน่อย คุณเจ็บตรงไหนบ้าง”
ใบหน้าของลู่เยี่ยวดูเหนื่อยล้าหลังจากออกมาจากห้องผ่าตัด แต่เมื่อเห็นเฉียวเมียนเมียนที่อยู่ในอ้อมแขนของเหมาเยซือ เขาก็ยังคงตรวจดูเธออย่างระมัดระวัง
จากนั้นเขาก็ตกตะลึง
เขากระพริบตาและถามเหมาเยซือ
“เยซือ อาการบาดเจ็บของเธออยู่ที่ไหน”
เฉียวเมียนเมียนไม่มีบาดแผลที่ชัดเจน
มันเป็นอาการบาดเจ็บภายในหรือไม่?
ลู่เยี่ยวคิดเรื่องนี้และตรวจสอบเธออย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เขาก็พบว่าผิวของเธอเป็นสีแดงและมีเลือดฝาด ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเลย
เหมาเยซือวางเฉียวเมียนเมียนลงบนโซฟาอย่างนุ่มนวล
จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ลู่เยี่ยว
“ตาไม่ดีหรือเปล่า เธอมีรอยฟกช้ำตามร่างกายมากมาย มองไม่เห็นเหรอ”
ลู่เยี่ยว : “???”
เขาบอกว่าบาดแผลของผู้หญิงคนนี้นั้นร้ายแรงมาก และยืนยันว่าจะให้เขาตรวจขสอบเธอเป็นการส่วนตัว แต่มันเป็นเพียงรอยฟกช้ำเพียงเล็กน้อย!
ลู่เยี่ยวอารมณ์เสีย