ใบหน้าของเฉียวอันซิน เปลี่ยนไปทันทีเมื่อเอ่ยถึงเฉียวเมียนเมียน
เธอจ้องซูเจ๋อดวงแววตาลึกล้ำ สวนทางกับท่าทีที่ดูกังวล พร้อมกับถามด้วยความกังว่า
“เกิดอะไรกับพี่เขาหรือคะ”
“ผมก็ไม่รู้” ซูเจ๋อขมวดคิ้ว
“แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เจียง หลัวลี่ก็คงไม่ติดต่อผมมาแบบนี้ ดังนั้น…”
“ฉันเข้าใจคะว่าคุณหมายความว่ายังไง” เฉียวอันซินตะปบมือเธอเข้ามือของซูเจ๋อเบา ๆ
“ถ้าพี่เขามีปัญหาจริง ๆ เราก็ต้องช่วยเธอซิคะ ก่อนหน้านั้นฉันคิดว่าเรารู้ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นและสถานการณ์เป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะแก้อย่างไรดี”
“คุณหมายถึง…”
“ฉันเรียนที่เดียวกับพี่เขาค่ะ และมีมีเพื่อนอยู่ที่นั่นเหมือนกัน เดี๋ยวฉันจะติดต่อเธอ ขอให้เธอไปดูให้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถ้าพี่เขามีปัญหาจริง เพื่อนของฉันไม่นิ่งดูดายอยู่แล้วค่ะ ให้พวกเธอช่วยจะเร็วกว่าเราไปเองใช่ไหมล่ะคะ”
ซูเจ๋อครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและเห็นว่าเป็นความคิดที่ดี เขาจึงพยักหน้ารับ
“อืม รีบโทรเลย”
หลังจากที่เฉียวอันซินวางสาย
เธอยิ้มอ่อนและพูดกับซูเจ๋อว่า
“รู้แล้วค่ะว่าเกิดอะไร แค่ทะเลาะกับเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรคะ”
ซูเจ๋อตะลึงงัน “นักศึกษาทะเลาะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ งั้นเหรอ?”
แต่เจียง หลัวลี่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปเองงั้นเหรอ?
“ค่ะ” เฉียวอันซินจับแขนของเขาและพิงเขาพูดต่อว่า
“ทำไมฉันต้องโกหกพี่ด้วย? เธอเป็นพี่สาวฉันนะ ถ้าเธอถูกรังแก ฉันจะไม่เป็นห่วงเหรอ?”
“แต่…”
“พี่ซูคะ” เฉียวอันซินถอนหายใจและพูดเบา ๆ ว่า “มีบางอย่างที่ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือเปล่า?”
ซูเจ๋อมองลงไปที่เธอ “อะไรล่ะ?”
เฉียวอันซินกัดมุมปากของเธอแล้วพูดด้วยท่าทางไม่พอใจว่า
“ฉันคิดว่าพี่เขายังคิดถึงพี่อยู่ พี่ซู พี่ดีกับเธอมาก เธอต้องลังเลที่ต้องแยกทางกับพี่ไปทั้งแบบนี้อยู่แล้ว เธอพยายามเรียกร้องความสนใจจากพี่ คงจะอยากให้พี่ไปหา”
“ไม่อย่างนั้น ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ แค่ทะเลาะกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ในกลุ่มเพื่อนร่วมชั้น ทำไมเธอถึงเรียกให้พี่ไปหา”
ซูเจ๋อแน่นิ่งไป
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกผิดปนดีใจอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้
เฉียวเมียนเมียนยังคงคิดถึงเขาอยู่?
นั่งหมายความว่าเธอยังคงมีความรู้สึกต่อเขา และลืมเขาไม่ได้ใช่ไหม
ความเฉยเมยและความแปลกแยกก่อนหน้านี้ของเธอ เป็นเพียงการเสแสร้ง
ใช่มันต้องเป็นแบบนั้นแน่
เธอเป็นเด็กสาวที่เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีมาโดยตลอด เธอจะไม่โกรธได้อย่างไรเมื่อถูกเขาทรยศ? เธอจะไม่บ่นหรือเกลียดเขาได้อย่างไร?
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่รักเขาอีกต่อไป
พวกเราจะลืมความรู้สึกของตัวเองที่มีให้แก่กันมาหลายปีแบบนั้นได้ยังไง?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซูเจ๋อกลับมีความสุข เขาซ่อนความยินดีและเอื้อมมือไปกอดเฉียวอันซิน
“ที่รัก คุณรู้สึกไม่ดีเหรอ? ตอนนี้ผมอยู่กับคุณ และหัวใจของผมมีแต่คุณ”
“ไม่ว่าเมียนเมียนจะคิดอย่างไร เรื่องของเราก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
“พี่ซูเจ๋อ” เฉียวอันซินกัดริมฝีปากของเธออย่างขมขื่นและกอดเขา
“ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนเดียวในใจของพี่ แต่ฉันก็ยังรู้สึกกลัว”
“กลัวอะไร?”
ซูเจ๋อจ้องมองเด็กสาวที่น่าสงสารในอ้อมแขนของตน ซูเจ๋อรู้สึกเห็นใจ พร้อมกับก้มศีรษะลงไปจูบที่หน้าผากของเธอ
เขาพูดเบา ๆ ว่า
“หัวใจและร่างกายของผมเป็นของคุณเท่านั้น มีอะไรให้คุณกลัวอีกล่ะ?”