เมื่อครั้งงานกีฬาสีที่โรงเรียนเมื่อตอนเรียนมัธยม เฉียวเฉินเกิดเป็นลมหมดสติระหว่างการวิ่งแข่ง จากนั้นเธอจึงได้รู้ว่าเขาเป็นโรคหัวใจพิการติดตัวมาตั้งแต่เกิด โรคนี้ค่อนข้างร้ายแรง อย่างวันนี้อยู่ ๆ เขาก็เกิดอาการช็อก เกือบจะรักษาไม่ทันเวลา
เฉียวเฉินเห็นพี่สาวของเขากังวลกระทั่งริมฝีปากซีดเทา เขายิ้มออกมาเล็กน้อย เอื้อมมือไปจับมือหล่อนเบา ๆ
“ผมไม่เป็นไรฮะ พี่ดูสิ พี่ก็เห็นนี่ว่าตอนนี้ผมสบายดี”
“เฉินเฉิน…”
ดวงตาของเธอแดงก่ำ ทันทีที่เธอจะพูดต่อ ประตูห้องพักถูกเปิดออก กลุ่มแพทย์และพยาบาลเดินเข้ามาภายในห้อง
เฉียวเมียนเมียนจำคำตรงหน้าได้ เขาเป็น รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งนี้
เธอมองไปยังกลุ่มคนที่เดินเข้ามา ด้วยความตกใจพร้อมขมวดคิ้วขึ้นก่อนจะพูด
“พวกคุณ…”
“คุณเฉียวครับ พวกเรามาย้ายห้องพักคนไข้ให้กับคุณเฉียวครับ”
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพูดกับเธออย่างสุภาพนอบน้อม
เฉียวเมียนเมียนประหลาดใจอีกครั้ง หัวใจแทบจะหยุดเต้น “เปลี่ยนวอร์ด ย้ายไปไหนคะ”
ดูเหมือนว่าตระกูลเฉียวจะรู้เรื่องที่เธอเลิกกับซูเจ๋อแล้ว
พ่อของเธอไม่เต็มใจรักษาเฉียวเฉินตั้งแต่แรก เขาคิดว่าเป็นการเสียเงินไปกับการรักษาอาการป่วยที่ไม่มีทางรักษาหายนั้นเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
แต่เพราะเธอหมั้นกับซูเจ๋อ เขาจึงไม่เอะอะโวยวายให้เป็นเรื่องใหญ่
ตอนนี้เธอกับซูเจ๋อเลิกรากันแล้ว เขาไม่มีความจำเป็นต้องเกรงใจอะไรใครอีก
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้… เฉียวเมียนเมียนทั้งโกรธแค้นและเสียใจ บางครั้งเธอก็สงสัยจริง ๆ ว่าเธอกับเฉียวเฉินเป็นลูกที่เขาเก็บมาเลี้ยงหรือเปล่านะ คงมีเพียงเฉียวอันซินเพียงคนเดียวล่ะมั้งที่เป็นลูกสาวจริง ๆ ของพ่อ
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล่าวขึ้น
“คุณเฉียวต้องทนทุกข์ในวอร์ดนี้มานานแล้วครับ พวกเราจะย้ายเขาไปหอผู้ป่วยพิเศษ และจะจัดแพทย์ที่เชี่ยวชาญที่สุดเพื่อรักษาเขา”
หลังจากพูดจบ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล หันไปสั่งการ
“รีบพาคุณเฉียวไปหอผู้ป่วยพิเศษ”
ดวงตาเธอเปิดกว้างด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะหันไปจ้องรอง ผอ.
เฉียวเฉินนอนอยู่บนเตียงด้วยความงงงวยเช่นกัน เขากระซิบถามพี่สาว
พี่ฮะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
เฉียวเมียนเมียนกระพริบตาปริบ ๆ “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน…”
ห้องพิเศษช่างแตกต่างจากห้องธรรมดาอย่างสิ้นเชิง ห้องกว้างขนาดที่ว่าภายในห้องมีห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำในตัว แล้วยังมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ครบครัน ครั้นเปิดหน้าต่างออก ยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์สีเขียวสบายตา
ภายในห้องไม่มีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อฉุน ๆ แต่กลับมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แทน
“คุณเฉียว ห้องนี้เป็นยังไงบ้างครับ พอใจไหมครับ”
เสียงของรอง ผอ. หันไปถามเฉียวเมียนเมียนและเฉียวเฉิน
“หากคุณไม่พอใจ เรายินดีย้ายห้องให้ทันทีเลยครับ”
เฉียวเมียนเมียนกล่าว
“พวกเราพอใจมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ”
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลโล่งใจกับคำตอบของเธอ
“ดีแล้วครับ พวกเราคงไม่รบกวนการพักผ่อนของคุณแล้ว หากต้องการอะไรเพิ่มกดกริ่งตรงนี้ พยาบาลจะเข้ามาช่วยเหลือ ขอตัวก่อนครับ”
หลังจากที่รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเดินออกไปพร้อมกับกลุ่มแพทย์และพยาบาล เฉียวเฉินมองไปรอบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ
พี่ฮะ ทำไมพวกเขาถึงย้ายผมมาที่ห้องพิเศษล่ะฮะ พี่เขยเขาจัดการทั้งหมดเลยเหรอฮะ”