เธอขมวดคิ้ว
“แล้วทำไมวันนี้คุณไม่อยู่บ้านแล้วพักผ่อนก่อนล่ะคะ คุณเป็นเจ้านายไม่จำเป็นต้องไปบริษัททุกวันก็ได้นี่ค่ะ”
ริมฝีปากของเหมาเยซือโค้งงอขณะที่เขาตบศีรษะเธอเบา ๆ
“คุณปวดใจเพราะผมเหรอ?”
เธอพูดไม่ออก
“ไม่จำเป็นหรอก อยู่ที่บ้านผมก็นอนไม่หลับอยู่ดี ไปทำงานซะจะดีกว่า”
“แล้วคุณไม่ง่วงเหรอ”
เขาส่ายหัว “ไม่หรอก”
ไม่ว่าเขาจะนอนน้อยแค่ไหน เขาก็จะไม่รู้สึกง่วงเลยในวันนั้น เขาจะกระปรี้กระเปร่าและตื่นตัวน้อยลงเพียงเท่านั้น
เฉียวเมียนเมียนตกใจ
“คุณไม่รู้สึกเหนื่อยแม้จะนอนไม่หลับเหรอ?”
ทุกครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้กับเธอ เธอจะหงุดหงิดในวันรุ่งขึ้น
มีใครเป็นเหมือนเขาบ้างไหม?
เหมาเยซือส่ายหัว
“ผมจะเหนื่อยนิดหน่อย แต่ก็ไม่รู้สึกง่วง”
แม้แต่การนอนหลับที่น่ากลัวในแต่ละคืน เขาจะนอนได้ไม่เกินสี่ชั่วโมงเพราะฤทธิ์ของยานอนหลับเท่านั้น
“จะเหนื่อยแบบนี้ทุกครั้งที่นอนไม่หลับใช่ไหม”
“อืม”
“ไม่รู้สึกแย่เหรอ”
“อืม”
เหมาเยซือเงียบไปสองสามวินาที ราวกับว่าเขาจมอยู่ในความทรงจำ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจและพูดว่า
“แย่มาก”
“เป็นบ่อยเลยใช่ไหมคะ”
“อืม ก็นะ”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกแย่ไปกับเขา
เธอรู้สึกแย่มากที่ต้องนอนไม่หลับเป็นระยะ ๆ และต้องใช้เวลาสองสามวันในการฟื้นตัว
มันไม่ได้แย่ไปกว่านี้สำหรับเขาเหรอ
เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในโลกคือการไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิท
เธอเคยคิดว่าพระเจ้าลำเอียงที่มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา ใครจะไปรู้…
เหมาเยซือมองลงไปและเห็นว่าหญิงสาวที่อย่ตรงหน้า กำลังมองมาที่เขาเหมือนว่าหัวใจของเธอกำลังลอยออกไปหาเขา
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าส่วนหนึ่งของหัวใจของเขาอ่อนลง
เขาเอื้อมมือไปลูบหัวเธอ
“เดียวผมก็ดีขึ้น”
“อา?”
“ผมเดาว่าพระเจ้าคงสงสารผม นั่นคือเหตุผลที่เขาจัดเตรียมคุณให้มาอยู่กับผม”
เฉียวเมียนเมียนกระพริบตาด้วยความสับสน
การนอนหลับของเขาเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ
ไม่ใช่ว่าเธอเป็นหมอที่เชี่ยวชาญในด้านนี้เสียหน่อย
เหมาเยซือไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม แม้ว่าจะเห็นความสับสนจากในดวงตาของเธอ
เขาจับมือเธอ และสอดนิ้วเข้ากับเธอ
“ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ไปทานอาหารกลางวันกันเถอะ”
***
เหมาเยซือขับมาที่นี่ในวันนี้ ด้วยลัมโบร์กีนีที่สะดุดตาในที่จอดรถ
เฉียวเมียนเมียนถาม “ลุงหลี่อยู่ไหนคะ”
เหมาเยซือหันไปมองเธอและยิ้ม
“ผมบอกเขาว่า ผมชอบเวลาที่ได้อยู่กับภรรยาเป็นการส่วนตัว คงไม่เหมาะถ้าเขาจะอยู่ใกล้ ๆ วันนี้เขาเลยไม่อยู่ที่นี่”
เฉียวเมียนเมียนเริมกระแอมไอ
ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อขึ้น
เธอไม่ควรถามเลย!
เมื่อเห็นว่าเธอหน้าแดงมากแค่ไหน เหมาเยซือก็ยิ้มและพูดเสริมว่า
“ผมคิดว่าคุณก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน คุณเคยรู้สึกอายทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กัน ตอนนี้อยู่กันแค่เราสองคนแล้ว งั้นผมขอกอด จูบคุณเท่าที่ต้องการจะได้ไหม”
เขาโน้มตัวไปหาเธอขณะที่เขาพูด
ใบหน้าหล่อนั้นเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ…