“เปล่านะคะ”
เฉียวเมียนเมียนตะลึกเล็กน้อยและปฏิเสธทันที เขาจะเสียใจทำไม
เขาเป็นผู้ชายที่โดดเด่นขนาดนี้
แต่เป็นเพราะเขาโดดเด่นเกินไปจนเธอไม่ต้องการให้เขาอยู่ใกล้ ๆ
การปรากฎตัวของเขาในสองวันที่ผ่านมา ทำให้เธอถูกเกลีดในวิทยาลัยมากกว่าเมื่อก่อน
เหมาเยซือเปิดประตูและพูดไม่ปล่อยให้เธอได้พูดแทรก
“งั้นให้ผมเดินไปส่งที่นั่นล่ะกัน ไปกันเถอะ”
**
เมื่อเขาลงจากรถ เหมาเยซือจับมือเธอ
ฝ่ามือขอเขาใหญ่และอบอุ่น เธอรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งเมื่อจับมือเขา
ราวกับว่าพวกเขาจะจับมือกันแบบนี้ไปตลอดชีวิต
พวกเขาเดินเข้าไปในวิทยาลัย
เหมาเยซืออยู่ในชุดสูทและแต่งตัวเหมือนชนชั้นสูงโดยสมบูรณ์ ใบหน้าที่หล่อเหล่าและทรงเสน่ห์ไม่มีที่ติของเขาสะดุดตา
ไม่ต้องพูดถึงขาที่ยาวและหุ่นที่สมบูรณ์แบบ
เขาสูงเกือบ 1.90 เมตรและโดดเด่นในทุกฉาก
มีเด็กผู้หญิงจำนวนมากส่งเสียงร้องและจ้องมองเขาตลอดทาง
“เธอรู้ไหมว่าผู้ชายคนนี้คือใคร? เขาหล่อมาก”
“ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขานั่นคือเฉียวเมียนเมียนใช่ไหม? ไม่ใช่ว่าเพิ่งเลิกกับซูเจ๋อหรอกหรือ ทำไมเธอถึงมีผู้ชายคนอื่นล่ะ”
“ฉันได้ยินมาว่า เฉียวเมียนเมียนนอกใจซูเจ๋อ นั่นแหละสาเหตุที่พวกเขาเลิกกัน เรื่องนี้เป็นเพราะผู้ชายคนนี้หรือเปล่า?”
“ซูเจ๋อหล่อและรวยมากเลยนะ ตระกูลก็มีฐานะ เขาดีกับเธอเสมอ เธอจะนอกใจเขาได้อย่างไร? ฉันว่าผู้ชายคนนี้แค่หล่อ แต่คงไม่มีจุดเด่นอย่างอื่น เขาจะร่ำรวยเหมือนซูเจ๋อด้วยรึเปล่า?”
“ใช่ ฉันเคยได้ยินมาว่า ซูเจ๋อให้เงินจำนวนมหาศาลกับเฉียวเมียนเมียน หลังจากที่เลิกกัน ผู้ชายคนนี้คงเป็นเด็กของเธอรึเปล่า?”
หลายคนล้อเลียนเธอ หลังจากที่เธอเลิกกับซูเจ๋อ
พวกเขาคิดว่าเธอจะน่าสงสารและน่าสมเพช
แต่ใครจะคาดคิดว่าเธอได้พบกับผู้ชายที่ยิ่งใหญ่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน
ความมั่นคั่งและฐานะของเขานอกเหลือจากรูปลักษณ์ของเขาเพียงอย่างเดียวก็มีคนจำนวนมากอิจฉาเขาแล้ว
เฉียวเมียนเมียนสมควรแล้วเหรอที่จะหาแฟนที่ดีได้เช่นนี้
ทุกที่ ล้วนแต่พูดเรื่องราวเหล่านี้ของเธอ
**
เหมาเยซือเดินไปส่งเฉียวเมียนเมียนไปตลอดทางจนถึงหอพัก
“ขึ้นไปสิ”
เขาปล่อยมือเธอและมองไปที่เธอ
“ผมจะรอจนกว่าคุณจะขึ้นไปก่อน แล้วค่อยไป”
“ค่ะ งั้นฉันไปก่อนนะคะ คุณก็กลับไปทำงานได้แล้วค่ะ”
ในขณะที่เขาปล่อยมือของเธอ เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่างเปล่าอย่างประหลาด ราวกับว่ามีบางอย่างขาดหายไป
มันเป็นเวลากว่า 10 นาทีที่เขาจับมือเธอ
ทำไมเธอรู้สึกถึงความคุ้นเคย
เธอโบกมือให้เขา
“บายค่ะ”
แล้วหันหลังเดินขึ้นเข้าไปในตึก
“เมียนเมียน”
เฉียวเมียนเมียน ก้าวไปเพียงสองก้าวเมื่อเธอได้ยินเขาเรียก
เสียงเขาฟังดูอ่อนโยนมาก
หัวใจของเฉียวเมียนเมียนกระพือปีกและเธอหยุดอยู่ตรงนั้น
ค่อย ๆ หันกลับมาช้า ๆ
“มีอะไรอีกไหมคะ”
เหมาเยซือก้าวไปข้างหน้า พร้อมกับมองไปที่เธอด้วยรอยยิ้ม
“อืม ผมลืมอะไรไป”
“อะไรคะ?”
เขาโอยเธอไว้ในอ้อมกอด
จากนั้นเขาก็จูบเธออีกครั้ง
“ทานข้าวด้วยนะ ตั้งใจเรียน พักผ่อนให้เพียงพอ แล้วอย่าลืมคิดถึงผมด้วยล่ะ”