“เมื่อเร็ว ๆ นี้ พี่สาวของฉันมีปัญหาทางด้านการเงินอย่างมาก ฉันทะเลาะกับเธอเพราะความเข้าใจผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อนานมาแล้วค่ะ จนถึงตอนนี้เธอยังโกรธฉันอยู่ เธอไม่รับสายฉัน แม้ว่าฉันจะอยากช่วยเธอก็ตามที แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย”
“ฉันกังวลจริง ๆ ว่าพี่สาวของฉันจะทำอะไรที่ไร้เหตุผล”
เฉียวอันซินแสร้งทำหน้ากังวลต่อเฉียวเมียนเมียน
แต่ใครก็มองออกว่าเธอมีเจตนาอื่น
เธอตั้งใจจะบอกว่าเฉียวเมียนเมียนไม่มีเงิน และอยู่ในสถานการณ์ที่ทำทุกอย่างเพื่อเงิน เช่นการจับผู้ชายรวย ๆ มาเป็นคนรักสักคน
เธอทำทุกอย่างเพื่อเงิน
ชายคนไหนที่ได้ยินเรื่องแบบนั้นจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงที่จ้องจะฮุบเงินของเขา แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ผู้ชายก็มักปฏิเสธที่จะยอมรับมันอย่างแน่นอน
สิ่งนี้จะทำรายความภาคภูมิใจของเขาอย่างซึ่งหน้า
เมื่อเธอพูดไปเช่นนี้ เฉียวอันซินคิดว่าผู้ชายในรถจะต้องโกรธเป็นแน่
โดยไม่คาดคิดว่าจะได้รับการจ้องมองกลับจากชายในรถ สายตาเยือกเย็นดั่งน้ำแข็งและน้ำเสียงของเขาก็เย็นชาจนทำให้สั่นสะท้าน “พูดจบรึยัง?”
เฉียวอันซินตกใจและมีสีหน้าประหลาดใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเธอ
เธอไม่คิดว่าเขาจะตอบสนองเช่นนี้
“คุณคะ…”
“หุบปาก!” เหมาเยซือตอบอย่างเย็นชา
“ไม่ว่าเธอจะเป็นคนแบบไหน เธอก็เป็นผู้หญิงที่ผมชอบ แม้ว่าเธอจะมีแรงจูงในการเข้าใกล้ผมหรือต้องการเพียงแค่เงินของผม ผมก็เต็มใจที่จะให้เธอใช้เงินของผม”
“ผู้หญิงอย่างคุณที่ทำให้คนอื่นดูแย่ ไม่สมควรเป็นน้องสาวของเธอ ถ้าผมได้ยินว่าคุณพูดถึงเธอในทางไม่ดีอีกครั้ง อย่ามาโทษว่าผมเป็นคนใจร้ายก็แล้วกัน“”หลังจากนั้นเขาก็ปิดกระจกรถและขับรถลัมโบร์กินีออกไป
ไม่นานรถสปอร์ตคันดังกล่าวก็หายไปหลังจากเลี้ยวเข้าไปทางมุมต้นไม้เรียงราย
เฉียวอันซินยังยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้าของเธอซีดและโกรธจนแทบจะเป็นลม
เธอกัดริมฝีปากแน่น เล็บของเธอจิกขูดลึกเข้าไปในฝ่ามือของตนเอง ใบหน้าที่บอบบางของเธอก่อนหน้านี้ดูโหดร้าย
ไอ้บ้าเอ้ย!
ผู้ชายคนนั้นยอมให้เฉียวเมียนเมียนถึงเพียงนั้นเลยเหรือ?
เขาปกป้องเธอแบบนั้น
เขาถึงกับบอกว่ายินดีให้เงินกับเธอ?
เขาบ้าไปแล้วรึเปล่า?
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียวอันซินพบกับผู้ชายที่ไม่สนใจเธอเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ชายคนนั้นไม่ได้มองมาที่เธอด้วยซ้ำ
เขาถึงกับบอกว่าเธอทำให้ผู้อื่นดูย่ำแย่
ตั้งแต่ยังเด็ก เธอเป็นที่ต้องการของเพศตรงข้ามและไม่มีผู้ชายคนไหนปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชามาก่อน นี่เป็นการระเบิดครั้งใหญ่สำหรับเธอ
“อันซิน ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกันแน่”
กระทั่งรถลัมโบร์กินีขับไปลับตา ลินดาก็ได้สติกลับคืนมา และถามเธออย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
ผู้ชายในรถเป็นหนุ่มรูปงามที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาตลอดอาชีพผู้จัดการของเธอ
ไม่มีใครมีอารมณ์และทัศนคติที่เทียบเคียงได้ในวงการบันเทิง
อย่างไรก็ตาม ผู้ชายคนนั้นไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ดาราใหญ่ที่สุดก็ไม่มีความเย่อหยิ่งแบบนั้น
เฉียวอันซินโกรธ เธอพูดด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาเป็นใคร?”
เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงอะไรและเขากล้าทำตัวหยิ่งผยองเช่นนี้ได้อย่างไร?