เป็นอีกครั้งที่เธอรู้สึกว่าเหมาเยซือใส่ใจกับเรื่องของเธอมาก
เธอเชิญเพื่อนร่วมห้องมาทานอาหารด้วยความสมัครใจและสถานที่ ที่พวกเขากินั้นเป็นร้านหรูหราจริง ๆ
“เพื่อน ฉันกำลังดื่มด่ำกับความสว่างของเธอจริง ๆ”
เจียงหลัวลี่ถอนหายใจ
“ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่สามารถมาที่สถานที่แบบนี้ได้ทั้งชีวิต ฉันกังวลมากที่เธอคบกับแฟนใหม่เร็วเกินไป แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายใจมากขึ้นแล้ว”
เฉียวเมียนเมียนพูดไม่ออก
“ทำไมถึงสบายใจขึ้นล่ะ?”
เจียงหลัวลี่มองไปที่เธอ
“เจ้าชายของฉันทั้งหล่อ ทั้งรวย และเป็นห่วงเธอมากด้วย ดูเหมือนว่าเขาจะชอบเธอจริง ๆ จากนี้ขอแค่มีความสุขกับเขา สำหรับคนอย่างคุณซูเจ๋อน่ะ เขาก็ไม่มีอะไรดีหรอก ดังนั้นก็ลืม ๆ เขาให้เร็วที่สุดล่ะ”
เจียงหลัวลี่พูดค่อนข้างถูก
ในตอนแรกเธอขอความช่วยเหลือจากซูเจ๋อ เธอคิดว่าเขายังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง
แต่ตอนนี้…
อือ!
เธอนึกถึงความคิดนั้น
ซูเจ๋อคนโกหก
หากเทพบุตรของเธอไม่ปรากฎตัวในเวลานั้น
เมื่อวานเธอคงไม่กล้าที่จะจินตนาการถึงผลที่จะตามมา
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เธอจึงหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาอย่างโกรธ ๆ และส่งข้อความไปหาซูเจ๋อ
[ คนเลว คุณไม่คู่ควรกับเมียนเมียน เมียนเมียนดีกว่าคุณพันเท่าและในไม่ช้าเธอจะต้องลืมคุณ อยู่กับมือที่สามของคุณตลอดไปเถอะ สักวันหนึ่งคุณจะต้องเสียใจ]
หลังจากนั้นเธอก็เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ของซูเจ๋อในบัญชีดำของตนเอง
**
ในห้องจัดงานเลี้ยง
ซูเจ๋อกำลังรับประทานอาหารกับลูกค้า
หลังจากได้รับข้อความเขาเปิดโทรศัพท์อ่าน ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็มืดล
ตรงข้ามกับเขา คือประธานจากบริษัทพันธมิตรที่กำลังคุยกับเขาเรื่องสัญญา จู่ ๆ เขาก็เห็นใบหน้าบูดบึ้งของซูเจ๋อ จึงคิดไปว่าเขาไม่พอใจกับข้อเสนอที่เพิ่งนำเสนอไป
“ประธานซู มีอะไรผิดปกติกับเงื่อนไขที่ผมเพิ่งพูดถึงหรือเปล่าครับ คุณไม่พอใจหรือเปล่า”
ใบหน้าของอีกฝ่ายแสดงออกถึงอารมณ์เสียเล็กน้อย
เขาเป็นกองหนุนทางด้านธุรกิจ
หากเขายังไม่ดำเนินธุรกิจด้วยกันต่อ คงยากที่จะทำกำไรได้
ถ้าประธานคนใหม่ไม่พอใจกับธุรกิจในครั้งนี้ คงจะล้มเหลงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อซูเจ๋อเงยหน้าขึ้นเขาก็พบกับสีหน้าไม่พอใจของฝ่ายตรงข้าม เขาตกใจเล็กน้อย
เขายิ้มทันทีและพูดว่า
“คุณกำลังเข้าใจผิดแล้วครับประธานจาง ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมจะไม่พอใจกับเงื่อนไขนี้ได้ยังไงกัน”
หลังจากนั้นใบหน้าของประธานจางก็อ่อนลงเล็กน้อย เขายกแก้วไวน์ขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ถ้าคุณโอเคกับมัน เราก็ดำเนินการเลยดีไหม?”
ซูเจ๋อระงับความรำคาญไว้ในใจชั่วคราว เขายิ้มและยกแก้วขึ้น
“ได้ครับประธานจาง ชนแก้วครับ ผมหวังว่าความร่วมมือของเราจะราบรื่น”
**
ในช่องตรงข้ามกับซูเจ๋อ
บริกรหยิบเมนูส่งให้เฉียวเมียนเมียน และถามเธอว่า
“คุณเฉียวรับอะไรดีค่ะ”
เฉียวเมียนเมียนมองไปที่เจียงหลัวลี่และจางอี้เว่ย
“เธอสองคนสั่งก่อนได้เลย”
เนื่องจากเธอเป็นคนเจ้ามือ เธอจึงอยากให้พวกเขาสั่งก่อน
เจียงหลัวลี่หยิบเมนูขึ้นมาแล้วยิ้ม
“ได้จ๊ะ เราจะสั่งก่อน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง…”
หลังจากเปิดเมนูและเห็นราคาของอาหาร คำพูดของเธอก็จบลงอย่างกะทันหัน
“จริงหรือนี่!” เจียงหลัวลี่ดูหวาดกลัว ขณะที่เธอเบิกตากว้างและปิดเมนูทันที
หลังจากนั้นเธอก็สะกิดแขนเฉียวเมียนเมียนแล้วกระซิบว่า
“เมียนเมียนอาหารที่นี่แพงเกินไป มันแพงมากจนฉันกลัว ไม่กล้าสั่งอะไรเลย”