“ไม่เข้าไปข้างในเหรอ?” เปปเปอร์รู้ว่ามายมิ้นท์มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประชุม แม้เขาจะไม่รู้ว่าเธอไปได้สิทธิ์นี้มาจากไหนก็ตาม
มายมิ้นท์กัดริมฝีปากของตัวเอง “คุณเข้าไปข้างในก่อนเถอะค่ะ ฉันไม่อยากเข้าไปพร้อมคุณ”
เธอได้ยินเสียงว่ามีคนอยู่ในห้องมากทีเดียว
ถ้าเข้าไปพร้อมกับเขาคงมีคนเข้าใจผิดแน่ๆ เนื่องจากความสัมพันธ์ทั้งสองดูค่อนข้างซับซ้อน
เปปเปอร์ดูเหมือนจะเข้าใจถึงอะไรบางอย่างและหลับตาลง “ยังเหลือเวลาอีกสามนาที หากคุณมาสาย คุณจะถูกตัดสิทธิ์การเข้าร่วมการประชุมทันที”
เมื่อพูดจบเขาก็เปิดประตูห้องเข้าไปข้างใน
มายมิ้นท์มองตามหลังของเขาด้วยความประหลาดใจ
เขากำลังเตือนเธอ?
แต่ไม่ว่าจริงหรือไม่ มายมิ้นท์ก็ให้ความสำคัญมาก เธอมองไปที่นาฬิกา รอให้เข็มนาทีหมุนไปครบรอบจากนั้นจึงสูดหายใจเข้าลึกแล้วผลักประตูเข้าไป
การปรากฏตัวของเธอทำให้ผู้คนภายในห้องจ้องเขม็งอย่างประหลาดใจ
“นั้นอดีตภรรยาของคุณเปปเปอร์ใช่ไหม?”
“เธอยังเป็นรองประธานเทนเดอร์กรุ๊ปด้วย”
“บริษัทอย่างเทนเดอร์กรุ๊ปที่กำลังจะล้มละลาย ได้รับคุณสมบัติสำหรับมาร่วมการประชุมได้อย่างไร?”
ทุกคนกระซิบกระซาบกัน
มีเพียงเปปเปอร์และเยี่ยมบุญเท่านั้นที่ไม่ได้ทำแบบนี้
เปปเปอร์ก้มศีรษะลงเล็กน้อย ราวกับว่าเขากำลังจัดการข้อมูลในมือ แต่ที่จริงแล้วหางตาของเขากำลังมองไปที่มายมิ้นท์
เมื่อเห็นเธอต้องพบกับสถานการณ์แบบนี้ แต่ใบหน้ากลับไม่ได้แสดงท่าทางขลาดกลัวหรือประหม่าเลย เขาอดไม่ได้ที่จะเผยอริมฝีปากขึ้น แววตาชื่นชมผ่านเข้ามาแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนเยี่ยมบุญได้เหล่ตาจ้องมองไปที่มายมิ้นท์อย่างเย็นชา ราวกับจะเข้าไปฉีกกระชากเธอ
มายมิ้นท์สัมผัสได้ถึงรังสีความเกลียดชังของเขาแต่เธอไม่กลัว กลับหันไปยิ้มให้เขาอย่างเปิดเผยว่า “ประธานเยี่ยม ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
เยี่ยมบุญตกใจมาก
เขาดูเหมือนเห็นเงาของแม่ตัวเองที่อยู่ในร่างของสาวน้อยคนนี้
โดยเฉพาะรอยยิ้มในตอนนี้ เหมือนรอยยิ้มอันยั่วยวนของแม่เมื่อครั้งยังสาว
มายมิ้นท์ไม่รู้ว่าทำไมเยี่ยมบุญถึงมองมาที่เธอแล้วจ้องมองอย่างว่างเปล่า แต่เธอก็ไม่สนใจและไม่อยากไปคาดเดา เธอเพ่งมองและหันความสนใจไปที่เปปเปอร์มากกว่า
เปปเปอร์นั่งอยู่ในตำแหน่งหลักของโต๊ะประชุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ริเริ่มโครงการความร่วมมือด้านพลังงานใหม่นี้
ชั่วขณะหนึ่งหัวใจของมายมิ้นท์จมลงสู่ก้นบึ้ง
ตัวเธอเองไม่ได้มีความมั่นใจมากนักในการได้รับตำแหน่งความร่วมมือครั้งนี้ เพราะความแข็งแกร่งของเทนเดอร์กรุ๊ปไม่ถึง แต่เธอก็ยังแอบมีความหวังอันริบหรี่
ทว่าตอนนี้ผู้ร่วมสนับสนุนคืออดีตสามีคนที่ไม่มีความรู้สึกอีกทั้งเย็นชาต่อเธอเกลียดเธอ เขาจะไม่ร่วมมือกับเธออย่างแน่นอน แล้วเธอควรทำอย่างไร?
มายมิ้นท์ก้มศีรษะลง อากาศรอบตัวเธอดูอึดอัดทันใด
เมื่อเห็นภาพนี้ เปปเปอร์จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?
“ประธานเปปเปอร์ ได้เวลาแล้วครับ” ผู้ช่วยเหมันต์เข้ามาเตือน
เปปเปอร์ละความสนใจจากมายมิ้นท์ จัดการเอกสารที่เขาถือไว้ในมือแล้วมองไปยังผู้คนทั้งหลาย “ทุกคนได้อ่านเงื่อนไขความร่วมมือแล้วหรือยังครับ?”
“อ่านแล้ว” ทุกคนพยักหน้า
เปปเปอร์พูดเบาๆ ว่า “เทคโนโลยีพลังงานใหม่นี้เป็นงานวิจัยล่าสุดของแผนกวิจัยของกลุ่มของเรา สามารถใช้ได้กับหลายอุตสาหกรรม ไม่เพียงแต่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพอุตสาหกรรมได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือการปกป้องสิ่งแวดล้อม”
เขาขยับเล็กน้อยก่อนจะพูดอีกครั้งว่า “ปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่เนื่องจากไม่อนุญาตให้มีการผูกขาดกับบริษัทตระกูลนวบดินทร์ ดังนั้นผมจึงต้องเลือกพันธมิตรที่เหมาะสมทั้งสิ้นห้ารายจากกลุ้มพวกคุณ และใช้เทคโนโลยีนี้ร่วมกัน”
ทันใดนั้นมายมิ้นท์ก็พึมพำว่า “เป็นแบบนี้นี่เอง”
เมื่อตอนที่เธอได้รับเอกสารความร่วมมือจาก เตชิต เธอก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เทคโนโลยีที่ดีเช่นนี้ทำไมถึงไม่เอาไว้ใช้เอง ที่ไหนได้ เพราะไม่อาจผูกขาดได้นี่เอง
นอกจากนี้ หากเทคโนโลยีนี้เป็นเทคโนโลยีหลักเพียงหนึ่งเดียว ก็จะทำให้เกิดความไม่สมดุลอย่างร้ายแรงในเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าข้างบนคงไม่อนุญาตให้ทำสิ่งที่กล่าวข้างต้นโดยเด็ดขาด
“ท่านประธานเปปเปอร์ เราทุกคนรู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร แต่ผมมีคำถาม” ทันใดนั้นเยี่ยมบุญจึงยกมือขึ้น
เปปเปอร์มองมาที่เขา “ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรครับ?”
เยี่ยมบุญมองมาที่มายมิ้นท์
เธอขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย และรู้อยู่แก่ใจว่าคนคนนี้กำลังจะเริ่มโจมตีเธอแล้ว
เป็นจริงดังนั้น เยี่ยมบุญชี้ไปที่มายมิ้นท์ “เมื่อตอนนั้นที่คุณเชิญเราเข้าร่วมการประชุม คุณบอกว่าจะเชิญเฉพาะบริษัทชั้นนำ 20 แห่งในเมืองเดอะซี และคัดเลือกบริษัทที่เหมาะสมที่สุดมา 5 แห่งสำหรับทำความร่วมมือกัน ผมอยากจะถามว่าทำไมคนของเทนเดอร์กรุ๊ปถึงมาอยู่ที่นี่ด้วย?”
สายตาของคนอื่นที่มองมายมิ้นท์อย่างมีความหมายเช่นกัน
มายมิ้นท์กำมือแน่น สีหน้าของเธอดูไม่น่ามอง
เธอเพิ่งจะรู้ว่าเปปเปอร์เชิญเฉพาะบริษัทชั้นนำ 20 แห่งเท่านั้น แล้วเตชิตได้รับคุณสมบัติสำหรับการเข้าประชุมได้อย่างไร?
ส่วนเตชิต ก็ไม่ได้บอกเธอ เห็นได้ชัดเจนว่าเขาต้องการให้เธอขายหน้า
ร่างกายของมายมิ้นท์สั่นสะท้าน
เมื่อมองดูเธอ เปปเปอร์ก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูก แต่สีหน้าของเขากลับเย็นชาเช่นเคย “เป็นโควต้าเพิ่มเติม ผมขอให้ผู้ช่วยเหมันต์จัดการให้ บริษัทขนาดกลางบางแห่งสามารถได้รับโอกาสจากการจับฉลาก”
“ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินเลยว่ามีโควต้าเพิ่มเติมด้วย บังเอิญเหลือเกินที่เทนเดอร์กรุ๊ปได้รับไป เปปเปอร์หรือว่าคุณตั้งใจให้เธอ?” เยี่ยมบุญมองมาที่เขาด้วยความสงสัยบนใบหน้า
สีหน้าของเปปเปอร์มืดมนลง “ถ้าประธานเยี่ยมไม่เชื่อ คุณไปตรวจสอบดูเองได้ เอาละ ประชุมต่อ”
เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มไม่พอใจ เยี่ยมบุญก็ถอนหายใจออกมาโดยไม่พูดอะไร
แม้ว่าจะเป็นพ่อตาในอนาคตของเขา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้แต่งงานกับส้มเปรี้ยว
ดังนั้นอย่ายั่วยุเขามากเกินไปจะดีกว่า
“เมื่อครู่ประธานเยี่ยมได้ชี้แจงไว้อย่างชัดเจนแล้ว ผมจะเลือกเฉพาะบริษัทที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ส่วนวิธีการตัดสินว่าเหมาะสมหรือไม่ก็คือแผนความร่วมมือ”
เปปเปอร์ชำเลืองมองใบหน้าของทุกคนและจ้องไปที่ใบหน้าของมายมิ้นท์ประมาณสองวินาที “พวกคุณแต่ละคนไปเขียนและพัฒนาความร่วมมือ รวมถึงแผนการใช้ มูลค่า ข้อดีและข้อเสียของพลังงานใหม่ฯลฯ แล้วส่งไปที่บริษัทตระกูลนวบดินทร์ในจันทร์หน้า ผมจะตัดสินว่าเหมาะสมหรือไม่จากแผนงานของพวกคุณ
“วิธีนี้เหมาะสมดี” ทุกคนพยักหน้า
เยี่ยมบุญขัดขึ้นอีกครั้ง “ประธานเปปเปอร์ คุณจะไม่ได้เอื้อให้คุณมายมิ้นท์เพียงเพราะเธอเป็นอดีตภรรยาของคุณใช่ไหม?”
การแสดงออกของเปปเปอร์เยือกเย็นลง เขาชะงักลงหลังกำลังจะพูดอะไรออกมา
แต่มายมิ้นท์ยิ้มและพูดก่อนว่า “ประธานเยี่ยมคะ ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประธานเปปเปอร์อีกต่อไปแล้ว เขาจะเอื้อให้ฉันได้อย่างไร? แม้ว่าจะเคยมีความสัมพันธ์มาก่อนแต่เขาก็จะไม่ทำเช่นนั้นแน่ ว่าแต่ประธานเยี่ยมเอง ตอนนี้คุณเป็นพ่อตาของประธานเปปเปอร์ คุณต่างหากที่เขาอาจจะเอื้อให้ อีกอย่าง……”
เธอมองไปที่ชายหนุ่มตรงตำแหน่งประธานด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้คุณเป็นพ่อตาของประธานเปปเปอร์ คุณเพียงพูดออกมา ประธานเปปเปอร์คงจะให้ที่นั่งไว้แก่คุณ แม้ว่าแผนของคุณจะดีหรือไม่ดีก็ตาม เพราะถึงอย่างไร เขาก็จะต้องแต่งงานกับลูกสาวคุณไม่ใช่เหรอ?”
ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ถูกพูดออกไป สายตาของทุกคนที่มองเปปเปอร์และเยี่ยมบุญก็ดูผิดปกติไปเล็กน้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มองมาทางเยี่ยมบุญ ดูเหมือนเต็มไปด้วยสายตาของศัตรู
นั่นสิ เยี่ยมบุญเป็นว่าที่พ่อตาของประธานเปปเปอร์ และประธานเปปเปอร์คงจะเหลือที่สำหรับเขาอย่างแน่นอน
แม้ว่าในเชิงตรรกะจะไม่มีอะไรผิดปกติกับเรื่องนี้ แต่ในด้านของจิตใจก็รู้สึกไม่ยุติธรรมมาก ทำไมทุกคนต้องพยายามแข่งขันกัน แต่เยี่ยมบุญสามารถพึ่งพาความสัมพันธ์เพื่อทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้โดยตรงแบบนี้
เยี่ยมบุญรู้สึกถึงความโกรธเคืองของคนเหล่านี้ ทำให้เขาโมโหยิ่งนัก
นังเด็กนี่เกินไปแล้ว เธอจงใจยุยงเขาต่อหน้าคนเหล่านี้ เพื่อที่จะได้ตัดทางเดินของเขาเสีย
เพราะเขาตั้งใจที่จะให้เปปเปอร์มอบตำแหน่งความร่วมมือแก่เขาโดยตรง แต่ตอนนี้คนเหล่านั้นกำลังจ้องมองเขาเพราะคำพูดของหญิงสาวเมื่อครู่ หากเขายังให้เปปเปอร์เปิดไฟเขียวให้แก่เขาอีก ก็เท่ากับกำลังเป็นศัตรูของบริษัทมากมายเหล่านั้น
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เยี่ยมบุญก็ระงับความโกรธไว้ในใจของเขา และพูดขึ้นโดยไม่ได้ยิ้มว่า “ไม่ต้องกังวลไปครับทุกคน ผมจะไม่ทำอย่างนั้นแน่”
“แม้ว่าประธานเยี่ยมจะไม่ทำ ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณส้มเปรี้ยวจะไม่ทำนี่คะ” มายมิ้นท์ไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เพียงแค่คุณกู้ไปร้องขอประธานเปปเปอร์ ประธานเปปเปอร์ก็จะตกลงอย่างแน่นอน”
เปปเปอร์กำหมัดของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ในสายตาของคณ ผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ?”