ซินดี้ที่อยู่ข้างหลังรีบตอบว่า“ยังมีอีกสองคน ประธานเตชิตกับผู้จัดการกฤษณ์”
“อึม”มายมิ้นท์พยักหน้าสื่อความหมายว่าทราบแล้ว
ผ่านไปไม่นาน ประตูห้องประชุมก็เปิดออกเตชิตพาผู้จัดการกฤษณ์เดินเข้ามาจากทางด้านนอก
สายตาของมายมิ้นท์ประสานกับเตชิต“ประธานเตชิต คุณมาสายแล้ว”
เตชิตลากเก้าอี้ออกมาพลางนั่งลงอย่างไม่สนใจ“มีเรื่องบางอย่างทำให้เสียเวลา หลานสาวไม่คิดเล็กคิดน้อยนะ?”
มายมิ้นท์ยิ้มครู่หนึ่งพลางพูดขึ้นว่า“แน่นอนว่าไม่อยู่แล้วค่ะ”
แน่นอนว่าเธอรู้ว่าเตชิตจงใจมาสาย เพื่อที่จะแสดงอำนาจต่อเธอ
ตอนนี้ก็ยอมให้เขาลำพองใจไปก่อน เพราะอีกไม่นานเขาก็คงจะไม่สามารถลำพองใจได้แล้ว
“โอเค ในเมื่อทุกท่านมาถึงแล้ว งั้นการประชุมในครั้งนี้ก็เริ่มต้นขึ้นเลยก็แล้วกันนะคะ คราวที่แล้ว……”
มายมิ้นท์ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเตชิตขัดขวาง“หลานสาว วันนี้เป็นวันที่ผลของสิทธิ์ในการเข้าขอเข้าร่วมเทคโนโลยีพลังงานใหม่ ออกมา คุณควรที่จะบอกผลที่เกิดขึ้นให้กับทุกคนได้ฟังนะ?”
“ใช่แล้วประธานมายมิ้นท์ บอกพวกเราหน่อยว่าคุณได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมความร่วมมือหรือไม่?”คนที่เตชิตสั่งมา ต่างเอ่ยปากขึ้นด้วยเสียงเซ็งแซ่
มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว
ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งที่สนับสนุนเธอทุบโต๊ะครู่หนึ่งพลางพูดขึ้นว่า“พวกคุณพอได้แล้ว การประชุมเพิ่งเริ่มต้นขึ้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อยพูดได้ไหม”
“ทำไมต้องอีกสักพักแล้วค่อยพูดล่ะ ตอนนี้พวกเราแค่กังวลเรื่องผลเท่านั้น”คนของเตชิตพูดต่อ
เตชิตยิ่งมองมายมิ้นท์อย่างดูถูก“หลานสาว เห็นแก่ความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนในตอนนี้ คุณก็ยอมบอกผลกับทุกคนเถอะ”
“ใช่แล้ว รีบบอกพวกเราเถอะ”คนของเขาพูดขึ้นด้วยเสียงอื้ออึง
ผู้บริหารระดับสูงที่สนับสนุนมายมิ้นท์คนนั้นใบหน้าแดงก่ำ“พวกคุณทำเกินไปแล้วนะ!”
“พอได้แล้วผู้จัดการตฤณ คุณนั่งลงก่อนเถอะ ในเมื่อพวกเขาอยากรู้ งั้นฉันบอกเขาก็ได้ เพราะถึงยังไงการประชุมในวันนี้ก็ต้องพูดเรื่องนี้อยู่ดี”มายมิ้นท์จ้องมองเตชิตด้วยสายตาเย็นชา
ในเมื่อเตชิตอยากที่จะแบ่งอำนาจในการบริหารให้เธอครึ่งหนึ่งจนแทบจะรอไม่ไหวแล้ว
แล้วทำไมเธอถึงจะไม่สนับสนุนเขาล่ะ
ขณะที่ครุ่นคิด มายมิ้นท์ก็ยกริมฝีปากขึ้น
เตชิตมองไปที่ยิ้มของเธอ เสียงกุ๊กๆดังขึ้นในใจ ไม่สามารถทนทำสีหน้าดูถูกเหยียดหยามได้อีกต่อไปแล้ว
สีหน้าท่าทางของเจ้าเด็กนี่ คงไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมความร่วมมือจริงๆหรอกนะ?
ไม่ เป็นไปไม่ได้ เธอต้องแสร้งทำเป็นนิ่งเงียบเป็นแน่ ในใจคงรู้สึกลนลานตั้งแต่แรกแล้ว ใช่ ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ!
ในใจของเตชิตพยายามปฏิเสธ แต่เขากลับกำหมัดแน่น ทำให้ความรู้สึกไม่สงบนี้ของเขาถูกเปิดเผยออกมา
มายมิ้นท์ดูออก ในใจจึงยิ้มอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยเผยริมฝีปากสีแดงออกมา แล้วค่อยๆพูดขึ้นว่า“ฉันได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมความร่วมมือมาแล้วค่ะ!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกไป ทุกคนต่างตะลึงงัน
ไม่ว่าจะเป็นคนที่สนับสนุนเธอ หรือว่าคนที่สนับสนุนเตชิต ต่างก็ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตนเองได้ยิน
สิทธิ์ในการเข้าร่วมความร่วมมือ กลับได้มาแล้วจริงๆ?
“ประธานมายมิ้นท์ นี่เป็นเรื่องจริงเหรอครับ?”ผู้จัดการตฤณตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งตัว
มายมิ้นท์พยักหน้าอย่างตั้งใจ“เรื่องจริงค่ะ”
“ดีมากเลย!”ผู้จัดการตฤณกำหมัดแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกดีใจ
คนที่เหลือที่สนับสนุนมายมิ้นท์ต่างก็ดีอกดีใจทั้งสิ้น
ใครๆต่างก็รู้ว่าเทคโนโลยีพลังงานใหม่ นั้นหมายความถึงอะไร มันหมายถึงการปฏิวัติ
เมื่อเทคโนโลยีพลังงานใหม่สุกงอม ต่อไปในอนาคตพลังงานขับเคลื่อนก็จะถูกทดแทนด้วยพลังงานใหม่
เทนเดอร์กรุ๊ปสามารถขึ้นไปอยู่บนเรือลำเดียวกับพลังงานใหม่นี้ได้เร็วขนาดนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็คงคาดเดาได้ไม่ยาก
นอกจากคนของมายมิ้นท์ที่ต่างตื่นเต้นอย่างดีอกดีใจกันแล้ว คนของเตชิตแต่ละคนกลับมีใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก รวมกับกินแมลงวันเข้าไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเตชิต
เขาตบโต๊ะ สีหน้าถอดสี“นี่เป็นไปไม่ได้!คุณจะได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมความร่วมมือได้ยังไง”
จู่ๆห้องประชุมก็เงียบลง
มายมิ้นท์มองเขาอย่างเรียบเฉย ถามเขากลับด้วยความสงสัยว่า“ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ล่ะคะ”
“ความสามารถของคุณแค่ไหนทำไมผมจะไม่รู้ ผมคิดว่าคนที่ไม่เข้าใจพลังงานใหม่เลยแม้แต่น้อยอย่างคุณจะสามารถได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมความร่วมมืองั้นเหรอ?”เตชิตเย้ยหยัน
มายมิ้นท์ยิ้มออกมา“แต่ว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างฉันกลับได้รับสิทธิ์นี้ ประธานเตชิตคุณว่าควรจะทำยังไงดีคะ?”
“คุณ……”เตชิตโกรธจนสำลัก
จากนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคิดอะไรได้ หรี่ตาลงครู่หนึ่งจากนั้นจ้องมองไปที่แววตาของมายมิ้นท์ และยิ่งมองเธออย่างดูถูก“ผมรู้แล้ว คุณจะต้องหลอกล่อประธานเปปเปอร์อย่างแน่นอน ให้ประธานเปปเปอร์ใช้เส้นสายให้ใช่ไหม?”
สีหน้าของมายมิ้นท์ขรึมลง พลางลุกขึ้นแล้วพูดว่า“ประธานเตชิตพูดจาอะไรให้มันสะอาดๆหน่อย การที่ฉันได้สิทธิ์ในการเข้าร่วมความร่วมมือ เป็นเพราะความสามารถของฉันเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเปปเปอร์ คุณกล่าวหาว่าฉันหลอกล่อเปปเปอร์ มีหลักฐานหรือเปล่าคะ?อีกทั้งทั้งเมืองเดอะซีต่างรู้ว่าเปปเปอร์นั้นชอบพอกับคุณหนูตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ระหว่างคุณหนูตระกูลภักดีพิศุทธิ์กับฉันภรรยาเก่าที่หย่าร้างกันไปเมื่อหกปีที่แล้ว คุณคิดว่าเขาจะถูกฉันหลอกล่อได้เหรอ?”
“ใช่แล้วประธานเตชิต จะพูดจาอะไรก็ต้องมีหลักฐาน การคาดเดาอย่างไม่มีหลักฐานแล้วนำมาพูด ไม่เพียงแต่ดูขายหน้า ทั้งยังดูจิตใจคับแคบไม่กล้ายอมรับความสามารถที่ยอดเยี่ยมของประธานมายมิ้นท์”ผู้จัดการตฤณพูดเย้นหยันพลางเหลือบมองเตชิตครู่หนึ่ง
เขารู้สึกว่าเตชิตขัดหูขัดตามาตั้งนานแล้ว
ตอนนี้มีโอกาสเหยียบย่ำเตชิต แต่นอนว่าเขาคงไม่ปล่อยมันไป
“ได้ พวกคุณมีเหตุผล ผมพูดแย้งพวกคุณไม่ได้!”เตชิตนั่งลงด้วยความโกรธ
มายมิ้นท์มองเขาอย่างเรียบเฉย“ดูเหมือนว่าประธานเตชิตคงพูดอะไรไม่ออกแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้างั้นก็เชิญประธานเตชิตทำตามสัญญาเถอะค่ะ ”
“สัญญาอะไร?”เตชิตตะลึงงัน
มายมิ้นท์มองไปข้างหลังพร้อมกับยื่นมือออกไป
ซินดี้ยื่นเอกสารให้กับเธอ
เมื่อเธอได้รับเอกสารก็ผลักมันไปอยู่เบื้องหน้าของเตชิต“การประชุมคราวที่แล้ว ฉันกับประธานเตชิตพนันกันว่า ถ้าหากฉันได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมความร่วมมือ คุณจะแบ่งสิทธิ์ในการบริหารจัดการเทนเดอร์กรุ๊ปให้ฉันครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ฉันชนะแล้ว ประธานเตชิตก็ควรที่จะทำตามที่พูดได้แล้ว?”
มายมิ้นท์ยิ้มพลางมองไปที่เขา
“……”เตชิตเม้มที่ริมฝีปาก พลางกำหมัดแน่น
ผู้จัดการกฤษณ์ที่อยู่ทางด้านขวามือของเขายิ่งก้มหน้าลงมากขึ้น
ที่แท้ก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้
การที่ประธานมายมิ้นท์กระตือรือร้นที่จะเปิดประชุม เธอจะต้องไม่แพ้แน่ๆ แต่เป็นเพราะอดใจรอไม่ไหวที่จะทวงเอาสิทธิ์ในการบริหารจากมือของประธานเตชิต เขาเคยพูดโน้มน้าวประธานเตชิตแล้ว แต่ว่าประธานเตชิตมั่นใจในตัวเองเกินไป คิดว่าประธานมายมิ้นท์ไม่น่าจะชนะ ผลทำให้ตอนนี้เขาต้องถูกตบหน้าอย่างแรง
“หลานสาว……”เตชิตฝืนยิ้ม ราวกับต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง
มายมิ้นท์ขัดขวางเขาด้วยรอยยิ้มที่ไม่เปลี่ยนแปลง“ประธานเตชิตคุณคงไม่คิดที่จะบิดพลิ้วหรอกนะ?แต่ว่าบิดพลิ้วไปก็ไม่มีประโยชน์ ตอนที่พนันกันทุกคนต่างก็ได้ยิน อีกทั้งฉันก็ได้อัดเสียงไว้ด้วย ประธานเตชิตต้องการที่จะฟังสิ่งที่คุณพูดตอนนั้นไหมคะ?”
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาวาง
ใบหน้าของเตชิตซีดขาว สีหน้าไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก“ไม่ต้องหรอก คำพูดที่ผมเคยพูดไป ผมยอมรับมัน!”
คนจำนวนมากล้วนเป็นพยาน เขาสลัดไม่พ้นแน่
หากเขาสลัดความรับผิดชอบนี้ทิ้ง จะทำให้คนที่สนับสนุนเขาสงสัยได้ว่าเขายังคู่ควรที่จะสนับสนุนหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยอมรับ อย่างมากก็แค่รอคอยโอกาส หาจุดอ่อนของเด็กน้อยคนนี้ แล้วค่อยยึดเอาอำนาจในการบริหารกลับคืนมา
“ในเมื่อประธานเตชิตยอมรับแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ขอเชิญประธานเตชิตเซ็นชื่อ”มายมิ้นท์ยิ้มพลางยื่นปากกาออกไป
เตชิตรับมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา เปิดเอกสารแล้วลงลายมือชื่อของตัวเอง
เมื่อมายมิ้นท์เห็นสถานการณ์เช่นนั้น รอยยิ้มในแววตาคู่นั้นยิ่งลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันความรู้สึกที่อยู่ในใจก็ผ่อนคลายลง
เมื่อเตชิตลงลายมือชื่อแล้ว อำนาจบริหารครึ่งหนึ่งก็ตกอยู่ในมือของเธอ และนับตั้งแต่วันนี้เธอก็คือประธานมายมิ้นท์ที่มีชื่อเสียงตรงกับความสามารถของเธอแล้ว
ต่อจากนั้นก็แค่หาวิธีนำอำนาจในการบริหารครึ่งหนึ่งที่เหลือที่อยู่ในมือของเตชิตมา และเมื่อได้อำนาจในการบริหารมาทั้งหมดแล้ว เธอก็สามารถเตะเตชิตออกจากเทนเดอร์กรุ๊ปได้แล้ว
หลังจากที่การประชุมสิ้นสุดลง มายมิ้นท์ก็กลับเข้าไปยังห้องทำงาน หยิบโทรศัพท์ โทรหาลาเต้เพื่อรายงานเรื่องน่าดีใจนี้
ในขณะเดียวกัน บริษัทตระกูลนวบดินทร์
ผู้ช่วยเหมันตร์ก็เดินเข้ามายังห้องประธานกรรมการบริหาร“ประธานเปปเปอร์ เรื่องที่คุณให้ผมตรวจสอบก่อนหน้านี้ ผมได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้ว”
เปปเปอร์คลายมือออกจากเมาส์พลางเงยหน้าขึ้น“อ่อ?”
“ดูจากข่าวคราวที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เผยแพร่ออกมา การที่เยี่ยมบุญแสดงท่าทีเช่นนั้นออกมา ก็เพราะกำลังต้องการตามหาลูกสาวคนโตของพวกเขาอยู่”ผู้ช่วยเหมันตร์พูดขึ้น