พยาบาลสาวก้มหน้าลง “ขอโทษค่ะคุณหมอ เมื่อครู่ดิฉันไม่ทันระวัง”
“เอาเถอะ ยังไม่รีบเอามือคนไข้ออกไปอีก” การันต์มองไปที่เธออย่างเหลืออด
นางพยาบาลรับคำเสียงเบา ก่อนจะยื่นมือเข้าไปยกมือมายมิ้นท์ออก
การันต์มองการกระทำนั้นด้วยสายตาเย็นชา
ทันใดนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นบริเวณจุดชีพจรที่ข้อมือมายมิ้นท์มีไฝเม็ดสีแดงอยู่ ชายหนุ่มชะงักทันที ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไป “เดี๋ยวก่อน!”
นางพยาบาลตกใจ มือค้างอยู่กลางอากาศ “คุณ….คุณหมอมีอะไรรึเปล่าคะ?”
การันต์ไม่พูดอะไรต่อ เขารีบวางอุปกรณ์ผ่าตัดอย่างร้อนรน จากนั้นก็รีบแย่งมือมายมิ้นท์คืนมา พร้อมกับพลิกดูไฝสีแดงนั้นอย่างละเอียดอีกที
ทำไมเธอถึงมีไฝสีแดงตรงนี้ได้?
การันต์ขมวดคิ้วแน่นด้วย เขาพยายามใช้นิ้วโป้งถูไปมาบริเวณไฝของมายมิ้นท์ เพื่อจะได้เห็นชัด ๆ ว่ามันเป็นของจริงหรือว่าบังเอิญไปโดนอะไรเปื้อนมา
แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามเช็ดอย่างไร รอยไฝสีแดงก็ยังอยู่ตรงนั้นอยู่ดี
พูดง่าย ๆ ก็คือ ไฝนี้เป็นของจริง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสัมผัสได้ถึงส่วนที่นูนขึ้นมาของไฝเม็ดนี้อีกด้วย
หัวใจของการันต์เต้นไม่เป็นส่ำ ก่อนที่เขาจะหันไปมองมายมิ้นท์ด้วยความรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้น
ทันใดนั้นเขาก็พบว่า ดวงตาของมายมิ้นท์ เหมือนกับดวงตาของเด็กหญิงที่เคยช่วยเขาไว้ในตอนนั้น รวมถึงไฝสีแดงเม็ดนี้อีกด้วย
เพราะงั้น เธออาจจะเป็น เด็กที่เคยช่วยเขาไว้ก็ได้
แต่ส้มเปรี้ยวก็มีไฝสีแดง และยังมีดวงตาที่เหมือนกับเด็กหญิงคนนั้นด้วยเหมือนกัน
ระหว่างเธอกับส้มเปรี้ยว ใครคือเด็กหญิงในตอนนั้นกันแน่?
การันต์กุมขมับ อยู่ ๆ ก็รู้สึกแยกคนทั้งสองไม่ออก
เดิมที ตอนที่เขาเห็นไฝเม็ดนี้พร้อมกับแววตาของส้มเปรี้ยว เขามั่นใจเต็มที่ว่าเธอคือเด็กหญิงคนนั้นแน่ ๆ ทว่า ตอนนี้อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา
เมื่อเห็นการันต์กุมมือคนไข้แน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสน นางพยาบาลก็อดถามขึ้นไม่ได้ว่า “คุณหมอคะ เป็นอะไรรึเปล่า?”
“ผมไม่เป็นไร” การันต์หลับตาลง นัยน์ตากลับมาเย็นชาเหมือนเดิม “เก็บอุปกรณ์ทั้งหมดเถอะ”
“เก็บเหรอคะ?” นางพยาบาลเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “ไม่ผ่าตัดแล้วเหรอคะ?”
“ตอนนี้ยังก่อน” การันต์เหลือบมองมายมิ้นท์
ก่อนที่เขาจะแน่ใจว่าระหว่างมายมิ้นท์กับส้มเปรี้ยวใครคือเด็กหญิงคนนั้นกันแน่ เขาจะไม่ลงมือทำอะไรกับมายมิ้นท์เด็ดขาด ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยว่ากันอีกทีหลังจากเขามั่นใจแล้ว
ถ้าหากสุดท้ายแล้วเด็กหญิงคนนั้นคือมายมิ้นท์ เขาก็คงไม่สามารถเปลี่ยนการแทนคุณมาเป็นการแก้แค้นได้ แต่ถ้าสุดท้ายเด็กหญิงคนนั้นคือส้มเปรี้ยวจริง ๆ เขาก็ยังมีวิธีการอีกมากมายที่จะจัดการกับมายมิ้นท์
แม้นางพยาบาลจะไม่รู้ว่าทำไมการันต์ถึงหยุดการผ่าตัดกลางคัน แต่ด้วยความที่กลัวหมอปิศาจคนนี้ เธอจึงไม่กล้าถามอะไรเพิ่มเติม ได้แต่ก้มหน้าเก็บอุปกรณ์เงียบ ๆ ต่อไป
“อ๋อใช่” อยู่ ๆ การันต์ก็เหมือนนึกขึ้นได้ เขาเหลือบมองนางพยาบาลด้วยแววตาอันตราย “ที่ผมทำกับคนไข้เมื่อครู่นี้ ห้ามให้เล็ดลอดออกไปเด็ดขาด ไม่ว่าใครก็ห้ามรู้ เข้าใจไหม?”
อีกสักพักส้มเปรี้ยวจะต้องโทรมาถามสถานการณ์ของมายมิ้นท์แน่ ๆ และเรื่องที่มายมิ้นท์ยังปกติดีอย่างไรก็คงปิดบังเธอไม่ได้ เธอคงจะถามว่าทำไมเขาถึงยอมปล่อยมายมิ้นท์ไป ยิ่งถ้าเขาไม่ตอบ เธอก็คงจะไปตามสืบเอง
เพื่อไม่ให้ส้มเปรี้ยวรู้ว่าเขาเริ่มสงสัยในตัวผู้มีพระคุณที่แท้จริงแล้ว เขาจำเป็นต้องเตือนพยาบาลสาวไว้ก่อน
เมื่อนางพยาบาลสบเข้ากับแววตาอันชั่วร้ายราวกับงูพิษของการันต์ เธอก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว “คุณหมอวางใจเถอะค่ะ ฉันไม่พูดอะไรออกไปแน่”
การันต์เห็นท่าทีหวาดกลัวของเธอ ก็ยกมุมปากขึ้นด้วยความพอใจ “เอาล่ะชายหนุ่มทั้งสามยืนอยู่กันคนละมุม ไม่มีใครเข้าใกล้ใครเลยสักนิด
แต่พอได้ยินเสียงประตูห้องผ่าตัดเปิดออก ทั้งหมดก็พุ่งเข้ามารวมกลุ่มกันทันที
“คุณหมอครับ ที่รักเป็นอย่างไรบ้าง?” ลาเต้ดึงแขนการันต์ไว้ พร้อมกับเอ่ยถามอย่างร้อนรน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
การันต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับดึงแขนออก “เธอไม่เป็นอะไร”
“เยี่ยมไปเลย” ลาเต้พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก พร้อมกับระบายยิ้มด้วยความโล่งใจ
ส่วนทามทอยก็ตบไหล่เขาเบา ๆ อย่างหมดห่วง
ขณะเดียวกัน คนที่ไม่เอ่ยปากพูดอะไรมาตลอดอย่างเปปเปอร์ อยู่ ๆ ก็หรี่ตาลงพร้อมกับถามขึ้นว่า “การันต์ ทำไมนายถึงเป็นคนผ่าตัดให้มายมิ้นท์ล่ะ?”
ชุดที่การันต์สวมอยู่ เป็นชุดที่หัวหน้าทีมผ่าตัดใส่เท่านั้น
การันต์เองก็ไม่แปลกใจที่เปปเปอร์ดูออกว่าเป็นเขา ชายหนุ่มค่อย ๆ ถอดหน้ากากออกอย่างไม่ปิดบัง เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา “หัวหน้าทีมผ่าตัดติดธุระนิดหน่อย ฉันว่างพอดี ก็เลยช่วยเขาเข้าเวร ว่าแต่นายเถอะ ทำไมมาอยู่ที่นี่? มาอยู่เป็นเพื่อนอดีตภรรยาผ่าตัดเหรอ? ส้มเปรี้ยวรู้รึเปล่า?”
คำถามที่พ่นออกมาติดต่อกัน ทำเอาเปปเปอร์ต้องขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “แค่บังเอิญเท่านั้น ถ้านายอยากจะฟ้องส้มเปรี้ยว ก็เอาเลย”
“ฉันไม่ได้น่าเบื่อขนาดนั้นหรอกนะ” การันต์กลอกตา พร้อมกับยิ้มออกมาเบา ๆ
หากเขาไม่ได้เห็นไฝสีแดงเม็ดนั้นที่ข้อมือมายมิ้นท์ล่ะก็ เขาคงจะพูดได้ว่า ส้มเปรี้ยวเป็นผู้หญิงที่เขาจะต้องปกป้องเอาไว้ราวกับเทพธิดา และจะไม่มีวันทำให้เธอเสียเปรียบแน่ ๆ
ทว่าตอนนี้ เทพธิดาส้มเปรี้ยวของเขาเป็นตัวจริงหรือตัวปลอมยังต้องรอการยืนยันก่อน จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่พูดแบบนั้นออกมา
“การันต์? นายคือการันต์เหรอ!” ทันใดนั้น ทามทอยก็ตบมือเสียงดัง พร้อมกับมองการันต์เหมือนกับเพิ่งนึกออก “ก่อนหน้านี้ฉันว่าแล้วไงว่าทำไมคุณหมอดูคุ้นตาจัง ที่แท้ก็เป็นนายนี่เอง”
การันต์เป็นคนในกลุ่มเดียวกับพวกเขา แต่นายคนนี้เป็นคนนิสัยเสียตั้งแต่ยังเด็ก เข้ากับใครไม่ค่อยได้ เลยไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด ดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกัน แต่ก็ไม่ได้ถือว่าสนิท
แต่ที่น่าแปลกก็คือ การันต์ดีกับส้มเปรี้ยวมาก เมื่อหกปีก่อนส้มเปรี้ยวกลายเป็นคนที่สูญเสียสมรรถภาพทางการเคลื่อนไหวไป เขาถึงกับลงทุนไปเรียนสาขาประสาทวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาที่ต่างประเทศ เพื่อกลับมาช่วยส้มเปรี้ยว
แต่ทำไมคนที่ทำทุกอย่างเพื่อส้มเปรี้ยว ถึงได้มาผ่าตัดให้มายมิ้นท์ล่ะ คงไม่ได้ลงมือทำอะไรกับมายมิ้นท์หรอกใช่ไหม?
ขณะที่คิด สีหน้าของทามทอยก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขาจ้องไปที่การันต์ก่อนจะถามว่า “มายมิ้นท์ล่ะ นายไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม?”
“ฉันจะทำอะไรกับมายมิ้นท์ได้?” การันต์ถามเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
ทามทอยกำหมัดแน่น “นายเป็นคนของส้มเปรี้ยว ระหว่างส้มเปรี้ยวกับมายมิ้นท์เองก็มีความแค้นฝังอยู่ ไม่แน่ว่านายอาจจะลงมือทำอะไรกับมายมิ้นท์เพื่อส้มเปรี้ยวก็ได้นะ เช่น ไม่ตั้งใจเย็บปากแผลของมายมิ้นท์ให้เรียบร้อย หรือจะตั้งใจทิ้งอุปกรณ์ผ่าตัดสักอย่างไว้ในตัวของมายมิ้นท์ เพื่อเป็นการล้างแค้นมายมิ้นท์แทนส้มเปรี้ยวอย่างไรล่ะ!”
“อะไรนะ ที่แท้นายเป็นคนของส้มเปรี้ยวเหรอ!” ลาเต้ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
ถึงแม้เปปเปอร์จะไม่คิดว่าการันต์จะทำเรื่องพวกนั้น แต่การันต์ก็ดีกับส้มเปรี้ยวมากจริง ๆ ในกลุ่มต่างก็รู้ดี
ดังนั้น จึงเป็นการยากที่จะรับประกันว่าการันต์จะไม่ทำอะไรเลยสักนิดเพื่อส้มเปรี้ยว
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับดวงตาหกคู่ของคนทั้งสามที่จับจ้องมา การันต์จึงเลิกคิ้วขึ้นเบา ๆ
ดูจากท่าทีตื่นเต้นของแต่ละคนแล้ว เสน่ห์ของมายมิ้นท์นี่ไม่เบาเลยจริง ๆ
ไหนจะเปปเปอร์อีก ปากก็พูดตลอดว่าไม่ได้รักภรรยาเก่าอย่างมายมิ้นท์ คนที่เขารักคือส้มเปรี้ยวไม่ใช่เหรอ? แล้วสายตาในตอนนี้คืออะไร?
“วางใจเถอะ ฉันไม่ได้ทำอะไรมายมิ้นท์แน่ ๆ” การันต์เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกาว พร้อมกับพูดต่อด้วยท่าทีเกียจคร้านว่า “แม้แต่การผ่าตัด ฉันก็ยังไม่ได้ทำให้เธอเลย”
“ยังไม่ได้ผ่าตัด?” ลาเต้และทามทอยพูดขึ้นมาพร้อมกันด้วยความประหลาดใจ
มือของเปปเปอร์ที่วางอยู่บนล้อรถเข็นกุมเข้าหากันทันที ในใจมีประกายความยินดีผุดขึ้นมาสายหนึ่ง
เด็กในท้องของมายมิ้นท์ ยังมีชีวิตอยู่!
“ใช่ สภาพร่างกายของเธอตอนนี้ไม่ค่อยดี ไม่เหมาะที่จะทำการผ่าตัด รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนก็แล้วกัน” แว่นของการันต์สะท้อนแสงเล็กน้อย พร้อมกับพูดโกหกออกมาอย่างนิ่งเรียบ
แม้ลาเต้กับทามทอยจะรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่เด็กในท้องของมายมิ้นท์ยังอยู่ แต่พอได้ยินว่าสภาพร่างกายเธอไม่ค่อยดี ทั้งคู่ก็เป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้ง
“ที่รักร่างกายเป็นอะไร?” ลาเต้ถามขึ้นอย่างร้อนรน
ทามทอยเองก็มองไปที่การันต์
ด้านเปปเปอร์แม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่มือที่กุมอยู่กลับแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว แสดงให้เห็นว่าเขาเองก็ร้อนใจเช่นกัน