รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 183 ผลตรวจความเป็นพ่อแม่ลูก

จี้หลิงชวนไม่ได้ทานเนื้อสัตว์มาหนึ่งสัปดาห์แล้ว รอบแรกใช้เวลานานมากเป็นพิเศษ เมื่อมาถึงจุดสุดยอดในตอนท้าย มู่ซีซีร้องจนเสียงแหบ ร้องจนไม่มีเสียงออกมา ตัวของเธออ่อนนุ่มเหมือนของเหลว และไม่มีแรงแม้แต่จะยกมือขึ้น
ในที่สุดมันก็จบลง มู่ซีซีเหนื่อยจนอยากนอน แต่ภายในไม่กี่นาที จี้หลิงชวนก็จับเอวที่อ่อนนุ่มของมู่ซีซี และเริ่มที่จะเล้าโลมเป็นครั้งที่สอง
รอจนกระทั่งจี้หลิงชวนพึงพอใจ เขาจึงยอมปล่อยมู่ซีซีที่เหนื่อยจนใกล้จะเป็นอัมพาต
หลังจากที่จี้หลิงชวนพึงพอใจแล้ว เขามักจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ เขาอุ้มมู่ซีซีที่เหนื่อยจนเหงื่อท่วม และแขนขาอ่อนแรงเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ทั้งสองอาบน้ำอุ่นด้วยกันจนรู้สึกผ่อนคลาย จี้หลิงชวนเอาผ้าเช็ดตัวมาห่มให้มู่ซีซี แล้วอุ้มเธอออกมาจากห้องน้ำ
หลังจากที่พลิกตัวไปมา มู่ซีซีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู และเห็นว่าเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว
ในตอนที่จี้หลิงชวนกลับมาเพิ่งจะเป็นเวลาสองทุ่ม ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนใช้เวลาร่วมรักกันเกือบสี่ชั่วโมง？
เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว แก้มอันขาวผ่องของมู่ซีซีก็แดงก่ำขึ้นมา
แต่เมื่อนึกถึงท่าทีแปลก ๆ ของจี้หลิงชวนที่มีต่อตัวเองในช่วงสองสามวันมานี้ สายตาของ มู่ซีซีก็หันไปมองไปที่จี้หลิงชวนที่นอนอยู่ข้าง ๆ อย่างไม่รู้ตัว
เมื่อกี้เธอถามจี้หลิงชวนแล้ว แต่จี้หลิงชวนไม่ตอบ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากอธิบายกับเธอ
และมู่ซีซีก็ไม่ใช่คนที่ชอบถามอะไรมากนัก เธอจึงเก็บความสงสัยไว้ในใจและไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
ความจริงคือเหนื่อยกับการถูกจี้หลิงชวนทำแล้วทำแล้ว มู่ซีซีนอนอยู่บนเตียงได้ไม่นาน เปลือกตาของเธอก็หนักอึ้งและหลับไป
เช้าวันต่อมา จี้หลิงชวนและมู่ซีซีก็ทานอาหารเช้าด้วยกันเหมือนเดิม
ตอนนี้มู่ซีซีปิดเทอมแล้วภาคฤดูร้อน ก่อนหน้านี้จี้หลิงชวนไม่อนุญาตให้มู่ซีซีไปทำงานที่บริษัทอื่น ดังนั้นมู่ซีซีที่ปิดเทอมมาหนึ่งสัปดาห์กว่าแล้ว เวลาส่วนใหญ่เธอก็จะเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และบางครั้งก็ออกไปเดินเที่ยวและดื่มชานมกับลั่วเสี่ยวชิง อยู่แต่ในบ้านไม่ได้ไปไหนจนแทบจะขึ้นราอยู่แล้ว！
จี้หลิงชวนกินเร็วกว่ามู่ซีซี เมื่อเห็นว่ามู่ซีซีกินไปไม่น้อยแล้ว จี้หลิงชวนก็วางมือลงบนโต๊ะอาหาร เขาเห็นว่ามู่ซีซีอยู่ในแต่ในบ้านอย่างเบื่อหน่ายมาสองสามวันแล้ว เขาจึงแนะนำว่า：“ปิดเทอมนี้ถ้าคุณไม่ได้วางแผนจะทำอะไร คุณสามารถไปที่บริษัทจี้ซือไปทำงานแปลต่อได้นะ
ผมจะจ่ายเงินให้คุณตามปกติ”
หลังจากที่มู่ซีซีได้ฟังคำแนะนำของจี้หลิงชวนแล้ว มู่ซีซีก็ครุ่นคิดเล็กน้อยและพยักหน้าเห็นด้วย
ถึงอย่างไรปิดเทอมนี้เธอก็ต้องอยู่บ้านคนเดียวอย่างน่าเบื่อ สู้ไปทำงานที่บริษัทของจี้หลิงชวนจะดีกว่า แถมยังได้เงินเดือนด้วย มู่ซีซียังจำได้ว่าครั้งก่อนเธอยังส่งชุดสูทไปให้จี้หลิงชวนที่อยู่ฝรั่งเศส เธอแบ่งเงินบางส่วนจากการที่ะเธอนำสร้อยคอไปขาย และต่อมาจี้หลิงชวนก็ช่วยเธอไถ่สร้อยคอคือมา ดังนั้นตอนนี้เธอจึงยังเป็นหนี้จี้หลิงชวน……
หลังจากทานอาหารเช้าด้วยกันแล้ว จี้หลิงชวนก็ขับรถพามู่ซีซีตรงไปที่บริษัทจี้ซือ
โดยปกติแล้ว เมื่อใกล้ถึงทางเข้าบริษัทจี้ซือ มู่ซีซีก็จะลงจากรถ
อีกด้านหนึ่ง มู่อวี๋เฟยที่เงียบไปนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ วันนี้เธอตื่นแต่เช้าและขับรถไปตรวจสอบความเป็นพ่อแม่ลูกด้วยตัวเอง
ครั้งก่อนเป็นการนัดว่าสัปดาห์ต่อมาให้มารับผลตรวจในวันนี้ มู่อวี๋เฟยตื่นเต้นจนนอนไม่หลับทั้งคืน
แม้แต่อาหารเช้าก็ไม่ได้กิน แล้วเธอรีบออกมาเลย
เมื่อไปถึงสถานที่ที่จะรับผลตรวจ ฝ่ามือของมู่อวี๋เฟยเต็มไปด้วยเหงื่อ ในใจเธอรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้เหยียบมู่ซีซีอย่างสง่าผ่าเผย
ขอเพียงแค่ผลตรวจสามารถยืนยันได้ว่ามู่ซีซีไม่มีความเกี่ยวข้องกับพ่อมู่และแม่มู่ และพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด หลังจากที่เธอพยายามทุกวิถีทางที่จะค้นหาเรื่องราวชีวิตของมู่ซีซี และจะนำทุกอย่างไปบอกกับนายหญิงจี้ เธอไม่เชื่อว่านายหญิงจี้จะปล่อยให้จี้หลิงชวนแต่งงานกับผู้หญิงเลวที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างมู่ซีซี！
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ มู่อวี๋เฟยก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ จึงจะระงับความตื่นเต้นในใจของเธอไว้ได้
เธอแสร้งทำเป็นสงบ มองไปที่พนักงานตรงหน้าแล้วยิ้ม：“ฉันมารับผลการตรวจค่ะ”
ในขณะที่พูดมู่อวี๋เฟยก็แจ้งลำดับหมายเลข
พนักงานเปิดลิ้นชักและมองหาสักครู่ จากนั้นก็หยิบซองเอกสารกระดาษสีน้ำตาลที่มีหมายเลขอยู่ยื่นให้มู่อวี๋เฟย：“ผลการตรวจอยู่ในนี้ทั้งหมดค่ะ”
มู่อวี๋เฟยรับมา และรอไม่ไหวที่จะกลับไปเปิดดูที่รถ เธอรับซองเอกสารมาและรีบเปิดดูในทันที จากนั้นก็หยิบเอกาสารข้างในออกมาอย่างรวดเร็ว
เอกสารฉบับแรกคือผลการตรวจความเป็นพ่อลูกระหว่างพ่อมู่กับมู่ซีซี
มู่อวี๋เฟยไม่สนใจข้างหน้าและมองตรงไปที่ตัวอักษรตัวใหญ่ ๆ
ซึ่งเป็นบทสรุปสุดท้าย เธอเห็นตัวอักษรตัวใหญ่สองสามคำเขียนว่า：“ผลการตรวจ：ไม่มีความเกี่ยวข้องทางพันธุ์กรรมแบบพ่อลูก”
มู่อวี๋เฟยตกตะลึง มือของเธอสั่นโดยไม่รู้ตัว และรีบพลิกไปดูผลการตรวจความเป็นแม่ลูกระหว่างแม่มู่กับมู่ซีซีในหน้าต่อไปและผลออกมาว่า：“ผลการตรวจ：ไม่มีความเกี่ยวข้องทางพันธุ์กรรมแบบแม่ลูก”
เมื่อเห็นผลการตรวจทั้งสองฉบับนี้ มู่อวี๋เฟยก็กำมือไว้แน่นอย่างดีใจ และกังวลว่าตัวเองจะดูผิดหรือเข้าใจผิดไป มู่อวี๋เฟยจึงรีบนำผลการตรวจทั้งสองไปส่งให้พนักงานตรงหน้าและรีบถามว่า：“รบกวนช่วยฉันดูหน่อยว่าผลการตรวจข้างต้นหมายความว่ายังไง ฉันกลัวว่าตัวเองจะดูผิดไป！”
พนักงานคนนั้นมองดูท่าทางที่ดีใจของมู่อวี๋เฟย และรับรายงานผลการตรวจความเป็นพ่อแม่ลูกทั้งสองฉบับไปดู หลังจากพิจารณาดูแล้วก็มองไปที่มู่อวี๋เฟยและพูดว่า：“รายงานผลการตรวจทั้งสองฉบับระบุไว้อย่างชัดเจนว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับสามีภรรยาคู่นี้”
เมื่อมู่อวี๋เฟยได้ยินที่เจ้าหน้าที่พูด เธอก็คว้ารายงานผลการตรวจความเป็นพ่อแม่ลูกกลับมาด้วยความดีใจ และเธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม！
เป็นไปอย่างที่เธอคิดไว้จริง ๆ ！ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า！มู่ซีซีผู้หญิงเลวคนนั้นไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ ของเธอจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ลูกของพ่อแม่ของเธอด้วย
ไม่น่าแปลกใจที่หลายปีที่ผ่านมาพ่อกับแม่ไม่รักและเอ็นดูมู่ซีซีผู้หญิงเลวคนนั้นเลย！
คราวนี้มู่ซีซีก็จะอยู่ในกำมือของเธอ มาดูกันว่าครั้งนี้เธอจะจัดการกับผู้หญิงเลวอย่างมู่ซีซีอย่างไร！！！
ในขณะที่คิด มู่อวี๋เฟยก็กำมือทั้งสองข้างของตัวเองไว้แน่น นางแอบสูดหายใจเข้าลึก ๆ สองสามที และรีบทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว ต่อไปเธอยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ เธอจะต้องใจเย็น ๆ ไว้ถึงจะดี
หลังดีใจจนแทบจะเป็นบ้า มู่อวี้เฟยก็สงบลงอย่างรวดเร็วและขมวดคิ้วขึ้นมา เมื่อมองย้อนกลับไป พ่อกับแม่ก็มีปัญหาใหญ่！
ดูจากที่พ่อกับแม่ปฏิบัติต่อมู่ซีซีแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งคู่จะรู้ว่าอันที่จริงแล้วมู่ซีซีไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพวกเขา
แต่ในเมื่อรู้ตั้งนานแล้วว่ามู่ซีซีไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของพวกเขา แล้วทำไมถึงยังเลี้ยงดูมู่ซีซี และยังบอกคนข้างนอกด้วยว่ามู่ซีซีเป็นลูกแท้ ๆ ของพวกเขา？
และในตอนนั้นที่เธอสงสัยว่ามู่ซีซีไม่ใช่ลูกของตระกูลมู่ แม่มู่ยังพยายามทุกวิถีทางที่จะอธิบายและปกปิดเรื่องนี้ไว้
ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะต้องมีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน！！！