รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 187 ลงมือก่อนได้เปรียบกว่า

ได้ยินเสียงโทรศัพท์เงียบไปสิบกว่าวินาที ตอนที่นายหญิงจี้ผิดหวังแล้วคิดว่าครั้งนี้จี้หลิงชวนจะปฏิเสธท่าน ทันใดนั้น นายหญิงจี้จึงได้ยินเสียงจี้หลิงชวนลอยมา “คุณย่า ได้ครับ ผมตกลงครับ คุณย่าไว้ใจเถอะครับ เรื่องนี้ผมจะรีบจัดการเองครับ”
จี้หลิงชวนก็มีความกังวลของตัวเอง ถ้าไม่ใช่ครั้งนี้นายหญิงจี้เตือนเขา เขาก็เกือบจะลืมเรื่องแต่งงานไปแล้ว
ถ้าไม่แต่งงานตอนนี้ อีกหน่อยถ้าสืบรู้เรื่องอะไรมา ถ้ามู่ซีซีเป็นลูกสาวคุณป้าเขาที่หายตัวไปนานจริงๆ ด้วยนิสัยหัวโบราณของนายหญิงจี้ต้องไม่ยอมให้จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีแต่งงานกันแน่นอน
งั้นตอนนี้จี้หลิงชวนก็แต่งงานกับมู่ซีซีก่อน ถึงเวลาเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้ว นายหญิงจี้จะไม่เห็นด้วยก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
ตอนนี้จี้หลิงชวนตัดสินใจแล้ว เขาจะไม่ยอมปล่อยมู่ซีซีไป
นายหญิงที่ไม่รู้ว่าจี้หลิงชวนกำลังคิดอะไรอยู่ได้ยินว่าเขาตอบตกลงแล้ว ใบหน้าจึงยิ้มแย้ม แล้วพูดอย่างดีใจว่า “ดีดีดี! หลิงชวน งั้นเดี๋ยวย่าจะให้เขาเลือกวันมงคลให้เราสองคน แล้วจัดงานแต่งกันก่อน”
จี้หลิงชวนได้ยินแล้วยิ้มเอ่ยว่า “คุณย่าครับ เรื่องนี้ให้ฟางเซิ่งไปจัดการก็ได้ครับ คุณย่าพักผ่อนที่โรงพยาบาลอย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยเลยครับ ถึงเวลารอมาร่วมงานแต่งของเราก็พอแล้วครับ”
พอนายหญิงจี้ได้ยินประโยคหลังที่จี้หลิงชวนพูดจึงพยักหน้าอย่างดีใจ “ได้ได้ได้ ย่าจะดูแลร่างกายตัวเองดีๆ แล้วไปร่วมงานแต่งของเราสองคน!”
พอคุยกับคุณย่าเสร็จ จี้หลิงชวนจึงหันไปดูปฏิทินข้างๆ แล้วใช้นิ้วชี้เคาะที่โต๊ะเบาๆ จัดงานแต่งยิ่งเร็วยิ่งดี เดี๋ยวจะเกิดเรื่องอะไรมาแทรกอีก
อือ วันมะรืนนี้ก็โอเคเหมือนกัน
พอคิดได้แบบนี้นิ้วชี้ที่กำลังเคาะโต๊ะของจี้หลิงชวนจึงหยุดลง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ข้างๆขึ้นมาโทรหาฟางเซิ่ง “ฟางเซิ่ง มาที่ห้องทำงานฉัน”
พอโทรไปแล้วไม่ถึงสองนาที ฟางเซิ่งจึงมาเคาะประตูห้องทำงาน แล้วมายืนอยู่ตรงหน้าจี้หลิงชวน “คุณชายจี้ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
จี้หลิงชวนเงยหน้ามองฟางเซิ่งตรงหน้าแล้วชี้ไปที่ปฏิทิน “เตรียมงานด้วย ฉันจะแต่งงานวันมะรืน”
ฮะ? เมื่อกี้คุณชายจี้พูดว่าอะไรนะ?
ฟางเซิ่งเบิกตาโต แล้วยืนอึ้งมองจี้หลิงชวนด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ เมื่อกี้เขาหูฟาดหรือเปล่า?!
เหมือนคุณชายจี้บอกว่าจะแต่งงานวันมะรืน? ตัดสินใจง่ายๆขนาดนี้……ง่ายจนเหมือนกำลังบอกว่าจะกินสเตกเนื้อเป็นมื้อเย็นอย่างนั้น……
จี้หลิงชวนเห็นฟางเซิ่งทำหน้าไม่อยากเชื่อ จึงขมวดคิ้วมองเขา แล้วพูดย้ำประโยคเมื่อกี้เสียงเข้มอีกว่า “ไปเตรียมงาน วันมะรืนฉันกับมู่ซีซีจะแต่งงานกัน!”
ครั้งนี้ฟางเซิ่งได้ยินชัดเจนแล้ว จึงรีบตั้งสติ แล้วมองไปทางจี้หลิงชวน ในใจหมดคำพูดแล้วปากก็กระตุก……แต่งงานในวันมะรืนอย่างกะทันหัน……มีเวลาแค่วันเดียว จะพอเตรียมงานได้ยังไง? ไม่พูดถึงเรื่องชุดแต่งงานแหวนแต่งงาน แค่หาสถานที่จัดงานแต่ง จัดเตรียมงาน รายชื่อแขก การ์ดเชิญต่างๆก็ต้องใช้เวลาเตรียมตัวเหมือนกัน!
ถึงฟางเซิ่งจะเป็นซูเปอร์แมนก็รับประกันไม่ได้ว่าจะเตรียมงานทุกอย่างเสร็จภายในหนึ่งวันได้
พอคิดแบบนี้ฟางเซิ่งจึงพูดกับบอสอย่างระมัดระวังว่า “คุณชายจี้ครับ ใช้เวลาแค่หนึ่งวันเพื่อเตรียมงานแต่งงานเร่งรีบเกินไปหรือเปล่าครับ? ผู้หญิงให้ความสำคัญกับ……ชุดแต่งงาน แหวนแต่งงานอะไรพวกนี้มาก ปกติต้องไปเลือกด้วยตัวเอง แล้วก็การ์ดเชิญ……”
ได้ยินฟางเซิ่งพูดแบบนี้ จี้หลิงชวนจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าที่พูดมาก็มีเหตุผล เขาก็ไม่อยากให้มู่ซีซีน้อยใจ
พอคิดแบบนี้จี้หลิงชวนจึงหันไปมองปฏิทินอีกครั้ง สุดท้ายจึงพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจกับฟางเซิ่งว่า “งั้นหนึ่งอาทิตย์หลังจากนี้แล้วกัน! ในเวลาหนึ่งอาทิตย์ นายรับผิดชอบเรื่องหาสถานที่ การตกแต่ง จัดทำรายชื่อแขก การ์ดเชิญ ของชำร่วยพวกนี้”
หนึ่งอาทิตย์ยังดีหน่อย ยังพอมีเวลาเตรียมงาน
ฟางเซิ่งตอบรับอย่างมีมารยาท “ได้ครับบอส ผมจะไปเตรียมงานเดี๋ยวนี้เลยครับ”
จี้หลิงชวนพยักหน้าให้ แล้วพูดกับฟางเซิ่งว่า “ตอนดึกฉันจะส่งแผนงานแต่งงานให้นาย ถึงเวลาก็เตรียมงานถามแผนก็พอ”
งานแต่งงานครั้งก่อนกับมู่อวี๋เฟย จี้หลิงชวนให้ฟางเซิ่งเป็นคนจัดการทั้งหมดเลย แต่ครั้งนี้งานแต่งงานของเขากับมู่ซีซี เขาไม่อยากยืมมือคนอื่น อย่างน้อยรายละเอียดในงานเขาก็จะเป็นคนจัดการเอง
ฟางเซิ่งรับคำสั่งแล้วจึงถอยออกจากห้องทำงาน
อีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเลิกงานแล้ว งานของจี้หลิงชวนก็เคลียร์เสร็จก่อนเวลา จี้หลิงชวนจึงเริ่มลงมือเตรียมการเรื่องงานแต่งงาน
เพราะจี้หลิงชวนไม่รู้ว่ามู่ซีซีชอบงานแต่งสไตล์จีนหรือสไตล์ตะวันตก เพราะฉะนั้นเขาจึงทำสองแผนงาน คิดว่าเดี๋ยวเลิกงานกลับบ้านค่อยให้มู่ซีซีเลือกแผนงานที่ตัวเองชอบ
ในเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ จี้หลิงชวนจัดทำแผนงานแต่งงานสองแผนงานเสร็จอย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงอุ้มโน้ตบุ๊กออกไปจากห้องทำงาน
มู่ซีซีไม่กล้าลงไปพร้อมจี้หลิงชวน จึงไปเบียดลิฟต์ลงไปชั้นล่างบริษัทจี้ซือแล้วยืนรอจี้หลิงชวนอยู่หน้าถนนตึกแทน
จี้หลิงชวนมารับมู่ซีซี แล้วแล่นรถกลับไปที่คฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
พอเข้าคฤหาสน์แล้ว ห้องอาหารจึงมีกลิ่นอาหารหอมๆลอยมาดึงดูดมู่ซีซี
ป้าหลิงเตรียมมือเย็นได้ตรงเวลาพอดี จี้หลิงชวนเห็นท่าทางมู่ซีซีที่อยากกินมาก จึงจูงมือเธอแล้วเดินไปที่ห้องอาหาร
มื้อเย็นที่แสนอร่อยผ่านไปอย่างมีความสุข จี้หลิงชวนมองมู่ซีซีที่ทำหน้าอิ่มเอมใจ เธอน่าจะกินอิ่มแล้ว จากนั้นจึงวางตะเกียบในมือลงอย่างตลก แล้วหันไปพูดกับมู่ซีซีว่า “กินอิ่มหรือยัง? ถ้าอิ่มแล้วก็ขึ้นไปที่ห้องหนังสือชั้นบน ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ”
มู่ซีซีได้ยินสิ่งที่จี้หลิงชวนพูดเมื่อกี้ สีหน้าจึงเริ่มเข้มงวด มองจี้หลิงชวนด้วยสายตาสงสัย ปกติจี้หลิงชวนไม่ค่อยเรียกเธอไปคุยที่ห้องหนังสือ ตอนนี้เรียกเธอไปคุยด้วยท่าทางเข้มงวดขนาดนี้ ต้องมีเรื่องสำคัญแน่ๆ
ในใจมู่ซีซีจึงเริ่มเกร็งทันที
เธอแอบกลืนน้ำลาย มู่ซีซีพยายามหักห้ามความไม่สบายใจไว้แล้วพยักหน้าให้จี้หลิงชวน จากนั้นจึงเห็นเขาลุกเดินไปจากห้องอาหาร มือทั้งสองข้างของเธอเกร็งจนต้องจับชายเสื้อไว้แน่น แล้วค่อยเดินตามจี้หลิงชวนขึ้นไปชั้นบน
ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องหนังสือ แล้วนั่งลงตรงข้ามกัน จากนั้นมู่ซีซีจึงเห็นจี้หลิงชวนเปิดโน้ตบุ๊ก วินาทีต่อมา จี้หลิงชวนก็เลื่อนโน้ตบุ๊กมาตรงหน้ามู่ซีซี

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset