รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 192 มู่ซีซี ผมมารับคุณแล้ว！

มู่ซีซีกับจี้หลิงชวนยุ่งกันมาหลายวันแล้ว ในที่สุดก็ยุ่งกับเรื่องงานแต่งงานจนเกือบจะเสร็จแล้ว มู่ซีซียังไม่ทันได้พักหายใจ ในชั่วพริบตาก็มาถึงวันแต่งงานแล้ว
วันนี้ถูกกำหนดให้เป็นวันพิเศษสำหรับทุกคน
ทางด้านของมู่อวี๋เฟย ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอไม่ได้นั่งรอฟังข่าว แต่พยายามทุกวิถีทาง จนในที่สุดเธอก็ได้ข่าวเกี่ยวกับสถานที่และเวลาจัดงานแต่งงานของมู่ซีซีและจี้หลิงชวน
เดิมที่ตกลงกับนักสืบเอกชนไว้ว่าอย่างเร็วที่สุดก็ภายในห้าวันถึงจะสืบได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อวานตอนที่มู่อวี๋เฟยโทรหานักสืบคนนั้น นักสืบคนนั้นยังคงสืบเรื่องอยู่ที่อื่น และบอกว่าสืบใกล้จะเสร็จแล้ว พอตอนกลางคืนก็ส่งผลสรุปไปที่อีเมลของมู่อวี๋เฟย
มู่อวี๋เฟยนอนไม่หลับทั้งคืน เธอยังคงจ้องมองไปที่อีเมลนั้น เพราะกลัวว่าจะพลาดอีเมลที่นักสืบเอกชนคนนั้นส่งมา
จนกระทั่งเช้าวันนี้ มู่อวี๋เฟยได้ยินเสียงติ๊งจากคอมพิวเตอร์ และรีบจับเมาส์ไปที่กล่องขาเข้าของอีเมลอย่างรวดเร็ว และเห็นว่านักสืบเอกชนส่งไฟล์มา
เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ตื่นเต้นของมู่อวี๋เฟย และแทบจะรอไม่ไหวที่จะจับเมาส์ไปคลิกเพื่อเปิดไฟล์ในอีเมลดูอย่างเร่งรีบ
ผลสรุปที่นักสืบเอกชนส่งมาถูกเปิดต่อหน้าของมู่อวี๋เฟยในทันที
หลังจากอ่านทีละบรรทัด ท่าทางของมู่อวี๋เฟยก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจ ตั้งแต่ความประหลาดใจไปจนถึงความตกตะลึง หลังจากนั้นก็หัวเราะอย่างมีความสุข มู่อวี๋เฟยก็กำมือของตัวเองไว้แน่น！
เมื่อเห็นผลสรุปการสืบต่อตรงหน้าแล้ว มู่อวี๋เฟยก็ลังเลว่าจะเผยแพร่เอกสารนี้ออกไปดีหรือไม่
อย่างไรก็ตามมู่อวี๋เฟยลังเลอยู่เพียงไม่กี่นาที และตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เธอจะเผยแพร่เอกสารนี้ออกไป！
เธอไม่ต้องการให้มู่ซีซีกับจี้หลิงชวนแต่งงานกัน และไม่มีทางได้อยู่ด้วยกันตลอดไป！！！
ในขณะที่คิดรอยยิ้มที่พอใจบนใบหน้าของมู่อวี๋เฟยก็กลับมา ขอเพียงแค่ทำให้มู่ซีซีผู้หญิงเลวคนนั้นกับจี้หลิงชวนไม่ได้แต่งงานกัน มู่อวี๋เฟยก็จะยังคงเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย！！！
ในขณะที่คิดมู่อวี๋เฟยก็รีบปริ้นเอกสารออกมา เธอมองดูเวลาและกังวลว่าจะทำไม่ทัน แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่มีเวลาเปลี่ยนด้วยซ้ำ เธอรีบหยิบกุญแจรถและรีบออกไปจากคอนโดในทันที
ในทางกลับกันคริสตจักรที่จัดงานแต่งงานของมู่ซีซีและจี้หลิงชวนก็อยู่ไกลมาก น่าจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งในการขับรถไป
จี้หหลิงชวนไม่สามารถให้นายหญิงจี้รู้ได้ว่าตอนนี้เขากับมู่ซีซีพักอยู่ด้วยกัน
ดังนั้นจี้หลิงชวนจึงจองห้องพักในโรงแรมที่อยู่ข้าง ๆ คริสตจักร เพื่อให้มู่ซีซีได้พักผ่อนเยอะ ๆ และจะได้ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมา
ตามธรรมเนียมโบราณ ในคืนก่อนงานแต่งงาน เจ้าสาวและเจ้าบ่าวไม่สามารถเจอกันได้ ดังนั้นจี้หลิงชวนจึงให้ลั่วเสี่ยวชิงมาอยู่เป็นเพื่อนมู่ซีซีที่โรงแรม
มู่ซีซีบอกลั่วเสี่ยวชิงเรื่องที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานกับจี้หลิงชวน แม้ว่าลั่วเสี่ยวชิงรู้สึกประหลาดใจ แต่เธอก็อวยพรให้กับมู่ซีซี
ครั้งนี้ลั่วเสี่ยวชิงต้องทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวของมู่ซีซีด้วย นอกจากนี้ยังมีเพื่อนเจ้าสาวอีกสองคน เป็นผู้หญิงที่มู่ซีซีไม่รู้จัก แต่ฟังจากที่จี้หลิงชวนพูดแล้ว ผู้หญิงอีกสองคนน่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่จี้หลิงชวน
ทางด้านเพื่อนเจ้าบ่าวของจี้หลิงชวนคือลู่เฉิงฮ่าว เวินจิ่ง และซูอวี่โม่
ในตอนเช้ามู่ซีซีถูกลั่วเสี่ยวชิงลากออกมาจากเตียง
มู่ซีซีง่วงนอนจนลืมตาไม่ขึ้น เธอหรี่ตาลงครึ่งหนึ่งและเห็นสไตลิสต์หลายคนเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องใบใหญ่
มู่ซีซีเป็นเหมือนตุ๊กตาที่ถูกคนดึงขึ้นมาให้นั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แต่งหน้าและทำทรงผม และสุดท้ายก็สวมชุดแต่งงานที่สวยงาม
มู่ซีซีถูกคนอื่นพลิกตัวไปมา จนความง่วงนอนของเธอค่อย ๆ หายไป และดวงตาของเธอก็ชัดเจนขึ้น เธอมองไปที่ลั่วเสี่ยวชิงที่อยู่ข้าง ๆ
เมื่อลั่วเสี่ยวชิงเห็นมู่ซีซีที่อยู่ตรงหน้าก็ถอนหายใจอย่างจริงใจ：“ว้าว！ซีซี วันนี้เธอสวยมากจริง ๆ ！！！”
เพื่อนเจ้าสาวอีกสองคนที่มู่ซีซีไม่คุ้นเคยก็มองไปที่มู่ซีซีและพูดว่า：“ใช่ พี่สะใภ้ พี่สวยมากเลย เหมาะสมกับพี่หลิงชวนมาก”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินที่สองสามคนพูดแล้ว แก้มของเธอก็แดงและยิ้มอย่างเขินอาย เธออดไม่ได้ที่จะหันไปมองตัวเองในกระจก
เมื่อมองแวบแรก มู่ซีซีก็ตกตะลึงตัวเองเช่นกัน
มู่ซีซีไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองจะสวยได้ขนาดนี้ ชุดแต่งงานสีขาวราวหิมะ การแต่งหน้าเพอร์เฟกต์และสวยงามไร้ที่ติบนใบหน้าของมู่ซีซี ดูมีมิติและมีเสน่ห์ มีผ้าคลุมสีขาวบนศีรษะ ผมที่ยาวถึงเอวถูกดัดให้เป็นลอนเล็กน้อย และร่วงลงมาที่แก้มทั้งสองข้างของมู่ซีซี
ประโยคที่ว่าเป็นเจ้าสาวแล้วสวยที่สุดคือเรื่องจริง
ไม่สามารถอธิบายได้ มู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะตั้งตารอ
ไม่นานก็ใกล้จะถึงเวลาที่เจ้าบ่าวจะมารับเจ้าสาวแล้ว ในขณะที่มู่ซีซีกำลังรออย่างใจจดใจจ่อ เสียงที่ไพเราะของจี้หลิงชวนก็ดังมาจากประตูห้องของโรงแรมที่ปิดอยู่：“มู่ซีซี ผมมารับคุณแล้ว”
เพียงแค่ประโยคง่าย ๆ ที่ไม่ธรรมดา แต่เมื่อมู่ซีซีได้ยินก็ทำให้ดวงตาที่สวยงามของมู่ซีซีเป็นประกายและแดงอย่างแปลกประหลาด
จี้หลิงชวนมารับเธอด้วยตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงลั่วเสี่ยวชิงเลย แม้แต่เพื่อนเจ้าสาวอีกสองคนที่เป็นญาติของจี้หลิงชวนก็ไม่กล้าที่จะขวางจี้หลิงชวนที่อยู่ข้างนอกประตู
ในทันทีที่เสียงของจี้หลิงชวนจบลง ลั่วเสี่ยวชิงและเพื่อนเจ้าสาวอีกสองคนของเธอก็รีบผลักประตูเพื่อต้อนรับจี้หลิงชวน
ด้านหลังของจี้หลิงชวนคือเพื่อนเจ้าบ่าวทั้งสามคน มีลู่เฉิงฮ่าว เวินจิ่ง และซูอวี่โม่
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่เฉิงฮ่าวได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว
ในเมืองหรง จี้หลิงชวนน่าจะเป็นคนเดียวที่สามารถเชิญทั้งสามคนนี้มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวได้！
ทั้งสี่คนล้วนแต่เป็นคุณชายที่เย่อหยิ่งและมีฐานะสูงส่ง
จี้หลิงชวนเย็นชาและไร้อารมณ์ เหมือนกับดอกไม้อันสูงส่ง ทุกคนสามารถมองได้แต่เอื้อมไม่ถึง
ลู่เฉิงฮ่าวเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราว เป็นเพลย์บอย เปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ก็ยังมีผู้หญิงมารอคิวอีกนับไม่ถ้วน
เวินจิ่งสุภาพอ่อนโยนสูงส่งสง่างามดุจหยกอันล้ำค่าดุจเจ้าชาย และมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนอยู่เสมอ ทำให้รู้สึกสบายราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ
ซูอวี่โม่เป็นทหาร เนื่องจากอยู่ในกองทัพตลอด ผิวของเขาจึงมีสุขภาพดีและเป็นสีข้าวสาลี เขามีรูปร่างสูงและใบหน้าคมเหมือนแกะสลักขึ้นอย่างประณีต เขาเต็มไปด้วยแรงดึงดูด เป็นผู้ชายที่มีจิตใจแข็งแกร่ง ออร่าที่ออกมาจากตัวเขาดูมีพลัง ทั้งเย็นชาทั้งแข็งแกร่งทั้งเคร่งขรึม！
คนสี่คนนี้มีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาเป็นพี่น้องกันที่สามารถพบกันในชีวิตและความตาย
ทั้งสี่คนแต่ละคนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และความหล่อเหลานั้นยากที่จะแยกออกมาได้ว่าใครหล่อกว่ากัน แต่จากที่มองเห็นได้คือจี้หลิงชวนเป็นอันดับที่หนึ่ง
จี้หลิงชวนในชุดสีดำดูหล่อราวกับเดินออกจากภาพวาด
ดวงตาทั้งสี่ประสานกัน เมื่อจี้หลิงชวนเห็นมู่ซีซีก็ตกตะลึงเช่นกัน