รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 202 จี้หลิงชวนอยู่ที่นั่น?

นายหญิงจี้ได้ฟังคำพูดที่ตรงไปตรงมาของมู่ซีซี เธอสบสายตากับแม่บ้านจาง ทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
นายหญิงจี้ยิ้มและพูด “โอเค ดีๆ ฉันจะไม่หัวเราะเยาะซีซีของเราอย่างแน่นอน”
แม่บ้านจางพูดอีกว่า “คุณหนูตั้งใจศึกษาอย่างจริงจัง จะต้องทำออกมาดีอย่างแน่นอน”
แม่บ้านจางค่อนข้างมั่นใจในตัวมู่ซีซี แต่มู่ซีซีนั้นไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย….ก่อนหน้านี้เธอเคยทำอาหารมื้อค่ำให้กับจี้หลิงชวน ภาพฉากในตอนนั้นค่อยๆปรากฏชัดเจนขึ้นมา มู่ซีซีนั้นรู้สึกว่าตัวเธอเองทำอาหารไม่อร่อย…
แต่ครั้งนี้มู่ซีซีตั้งใจและจริงจังเป็นอย่างมาก เตรียมการอย่างเต็มที่ ทำตามขั้นตอนที่แม่บ้านจางบอกอย่างจริงจัง
เหนือความคาดหมาย ครั้งนี้มู่ซีซีทำอาหารออกมาไม่เลวเลย ตอนนำปลานึ่งออกมานั้นเพียงแค่ชำเลืองมองก็ดูน่าทานมาก
มู่ซีซีรู้สึกโล่งใจ จากนั้นเธอก็ทำอาหารอีกสองสามอย่าง
โดยที่เธอไม่รู้ตัว มู่ซีซีก็ได้จัดเตรียมอาหารทุกอย่างจนเสร็จ หลังจากเสิร์ฟอาหารทุกอย่างลงบนโต๊ะแล้ว ตอนนั้นเองมู่ซีซีก็รู้สึกประหลาดใจ จากจิตใต้สำนึกของเธอ เธอได้ทำอาหารที่จี้หลิงชวนชอบถึงสองอย่าง ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานและผัดผักกุ้ง ส่วนอาหารอย่างอื่นนั้นเป็นอาหารที่นายหญิงจี้โปรดปราน
จี้หลิงชวนเพิ่งกลับมาจากทำงาน เขาได้กลิ่นหอมลอยอบอวลอยู่ภายในบ้าน เขาหันไปมองทางห้องอาหารโดยไม่รู้ตัว จี้หลิงชวนเห็นว่าคุณย่ากำลังยิ้มและมองดูโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารมากมายพร้อมกับเอ่ยชมมู่ซีซีอย่างไม่หยุดหย่อน “ซีซีของเรานี่เก่งมากจริงๆ ทำอาหารได้ยอดเยี่ยมมาก!”
ใบหน้าของมู่ซีซีอดไม่ได้ที่จะแดงก่ำด้วยคำชมจากนายหญิงจี้ เธอรีบพูดอย่างเขินอายว่า “คุณย่า เปล่าเลย…ทั้งหมดนี่เป็นเพราะว่าการสอนที่ดีของแม่บ้านจาง…”
ครั้งนี้จริงๆแล้วเป็นเพราะแม่บ้านจางสอนดีจริงๆ หากไม่ใช่เพราะทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมและการสอนที่ต้องอดทนของแม่บ้านจาง มู่ซีซีเองก็คงไม่มีความมั่นใจที่จะทำผลงานได้ดีเช่นนี้
จี้หลิงชวนฟังการสนทนาระหว่างคุณย่าของเขาและมู่ซีซี สีหน้าที่เยือกเย็นและดุดันของเขาก็ดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่ามู่ซีซีนั้นได้เข้าครัวลงมือทำอาหารอีกครั้ง
ขณะที่ครุ่นคิด ในความคิดของเขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพฉากที่มู่ซีซีนั้นได้ลงมือเข้าครัวด้วยตัวเธอเอง อาหารของเธอนั้นไม่เพียงแต่ไม่น่าทาน รสชาติก็ใช้ไม่ได้เช่นกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเมื่อจี้หลิงชวนเห็นว่าอาหารที่มู่ซีซีทำให้เขานั้นล้วนแต่เป็นอาหารจานโปรดของเขา คนมากเรื่องอย่างจี้หลิงชวนก็ทานอาหารทั้งหมดที่มู่ซีซีทำและเขาคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น…
ในตอนนี้เมื่อได้นึกถึง แววตาของจี้หลิงชวนก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ อืม ในตอนนั้นเขาจะต้องถูกมนต์สะกดแน่ๆ!
ขณะที่เขาคิด สายตาของเขาก็มองไปยังโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารมากมาย เมื่อมองไปยังโต๊ะนั้นสามารถเรียกได้เลยว่าเป็นมื้อค่ำที่ไม่เลว เมื่อเห็นว่ามีซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานและผัดผักกุ้งที่เขาชอบ จี้หลิงชวนนิ่งงันไปชั่วครู่ เมื่อเขารู้สึกตัวอีกครั้ง ในแววตาของเขาก็เกิดความประหลาดใจ
ในช่วงเวลาต่อมา ริมฝีปากของจี้หลิงชวนก็เผยรอยยิ้มอย่างอดไม่ได้ มีความอยากลิ้มลองที่ไม่สามารถอธิบายได้ปรากฎขึ้นภายในหัวใจของเขา
ขณะที่เขาคิด เขาเองก็อยากจะทำเช่นนั้น จากนั้นเขาก้าวเท้าเข้าไปในห้องครัว
จี้หลิงชวนเดินไปด้านหลังของคุณย่าและมู่ซีซี เห็นได้ชัดว่าทั้งคุณย่าและมู่ซีซีต่างก็คุยกันอย่างมีความสุขและทั้งสองคนนั้นก็ยังไม่มีใครพบว่าจี้หลิงชวนได้กลับมาแล้ว
จี้หลิงชวนรู้สึกว่าเขาถูกเพิกเฉย มุมปากของเขากระตุกอย่างหมดคำจะพูด ในที่สุดเขาก็เม้มริมฝีปากและกระแอมออกมา “อะแฮ่ม! แค่กๆ”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น นายหญิงจี้และมู่ซีซีก็หันศีรษะกลับมาและมองไปทางจี้หลิงชวน เมื่อเผชิญแววตาที่เผยรอยยิ้มของจี้หลิงชวน ร่างกายของมู่ซีซีนั้นแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว รอยยิ้มอันแสนหวานบนใบหน้าของเธอพลันหายไปในทันที เธอยืนนิ่งงันและทำอะไรไม่ถูก จากนั้นเธอละสายตาออกไปด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่กล้าแม้แต่จะชำเลืองมองไปทางจี้หลิงชวน
นายหญิงจี้นั้นไม่พบความผิดปกติระหว่างจี้หลิงชวนและมู่ซีซี เมื่อเห็นหลานชายของเธอกลับมา นายหญิงจี้ก็กวักมือเรียกจี้หลิงชวนอย่างดีใจ “หลิงชวนวันนี้กลับมาแล้วเหรอ รีบมานี่สิ ซีซีทำมื้อค่ำเสร็จพอดีเลย มาทานข้าวด้วยกัน”
นายหญิงจี้พูดพลางจับมือของมู่ซีซีด้วยความรักใคร่เอ็นดูและนั่งลงบนเก้าอี้
จี้หลิงชวนที่อยู่ด้านข้างเมื่อเห็นดังนั้นเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ตรงกันข้ามกับมู่ซีซี
แม่บ้านจางตักข้าวให้ทุกคนเรียบร้อย มู่ซีซีกลัวว่าตัวเธอนั้นจะทำอาหารออกมารสชาติแย่ เธอจึงชิมอาหารในทุกๆจาน เมื่อชิมแล้วและแน่ใจว่ารสชาตินั้นไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นเธอจึงโล่งใจ
เมื่เห็นนายหญิงจี้คีบปลานึ่งไปทาน มู่ซีซีมองไปที่นายหญิงจี้ด้วยสีหน้ากังวลและถามเธออย่างระแวดระวัง “คุณย่า เป็นอย่างไรบ้าง? รสชาติใช้ได้ไหมคะ?”
“อืม ใช้ได้เลย” นายหญิงจี้ลองลิ้มรสจากนั้นเธอก็พยักหน้าให้กับมู่ซีซี
ในตอนนั้นมู่ซีซีรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก สายตาของเธออดไม่ได้ที่จะค่อยๆชำเลืองมองจี้หลิงชวนที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม
ช่างบังเอิญ ทันทีที่มู่ซีซีชำเลืองมอง เธอก็เห็นแววตาที่ยากจะหยั่งรู้ได้ของจี้หลิงชวนในทันที
เมื่อทั้งสองสบสายตากัน มู่ซีซีรู้สึกกระวนกระวายและกลับมารู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว เธอรีบก้มหน้าก้มตาทานอาหารด้วยท่าทางที่หวาดหวั่นและสายตาของเธอก็ไม่กล้าที่จะชำเลืองมองเขาอีกเลย
กฎดั้งเดิมก็คือในขณะรับประทานอาหารนั้นห้ามพูดหรือส่งเสียงใด เมื่ออยู่บนโต๊ะอาหารนายหญิงจี้นั้นไม่พูดอะไรมากนัก มู่ซีซีไม่อาจหลบเลี่ยงจี้หลิงชวนได้เลย เธอเองก็ไม่มีอะไรจะพูด
มื้อค่ำจบลงด้วยความเงียบ
“คุณย่า หนูขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะคะ” ทันทีที่มู่ซีซีทานอาหารเสร็จ เธอก็หาข้ออ้างที่จะหลบหนี
นายหญิงจี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างเมื่อได้ยินคำพูดของมู่ซีซีเธอก็พยักหน้า “ซีซี ช่วงนี้ให้หนูอยู่ในห้องรับรองแขกไปก่อน รออีกหนึ่งอาทิตย์ห้องก็รีโนเวทเสร็จแล้ว ทันทีที่ห้องเสร็จ หนูก็ย้ายเข้าไปได้เลย”
นายหญิงจี้ให้ผู้คนใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทันทีที่ตกแต่งเสร็จก็สามารถย้ายเข้าได้ทันที
“ค่ะ โอเคค่ะคุณย่า” ขณะที่พูด มู่ซีซีก็โบกมือให้กับนายหญิงจี้และรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน กลับไปยังห้องนอนของเธอ
แม่บ้านจางกำลังยุ่งกับการทำความสะอาดในครัว ขณะนั้นในห้องรับแขกก็เหลือเพียงนายหญิงจี้และจี้หลิงชวน
เมื่อจี้หลิงชวนได้ยินในสิ่งที่คุณย่าเขาพูดเมื่อครู่นี้ เขามองดูคุณย่าด้วยความสงสัยและถามว่า “ย่าครับ ห้องที่รีโนเวทคือห้องไหนเหรอ?”
“ก็รีโนเวทห้องให้ซีซีไง! ตอนนี้ซีซีกลับมาแล้ว จะให้เธอไปพักอยู่ด้านนอกก็กระไรอยู่ ย่าก็ไม่สบายใจด้วย ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปซีซีก็จะอยู่กับย่าที่นี่ ห้องก่อนหน้านี้ที่ย่าเคยอยู่ ย่าก็จะรีโนเวทให้กับซีซี”
เมื่อได้ยินสิ่งที่คุณย่าพูด จี้หลิงชวนขมวดคิ้วโดยที่ไม่รู้ตัว
ตอนนี้มู่ซีซีพักอยู่ในบ้านใหญ่ นั่นก็หมายความว่าจะไม่กลับไปอยู่ที่คฤหาสน์กับเขาแล้วงั้นหรือ?!
ขณะที่เขาคิด เสียงของนายหญิงจี้ก็ดังขึ้นในโสตประสาทของเขาว่า “หลิงชวน ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว คืนนี้จะนอนค้างที่นี่หรือว่าจะกลับบ้านตัวเอง?”

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset