รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 22 ผู้มาเยือนที่ไม่ดี

มู่ซีซีกำลังจะพูดบางสิ่ง แต่ทางด้านแม่มู่ก็พูดขัดจังหวะเธอเสียก่อน แม่มู่แสดงสีหน้าที่ภาคภูมิใจและหันหน้ามองพ่อมู่และมู่ซีซี “นี่ต้องขอบคุณมู่อวี๋เฟยของเรา จะต้องเป็นอวี๋เฟยที่เข้าไปพูดคุยกับคุณชายจี้ ไม่เช่นนั้นคุณชายจี้จะมอบเงินตั้งมากมายมหาศาลให้แก่เราได้อย่างไร” แม่มู่กล่าวอย่างปิติยินดี สีหน้าของเธอยิ้มดั่งดอกไม้ผลิบาน
ทางด้านพ่อมู่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเมื่อได้ฟังแม่มู่กล่าวแล้ว เขาก็พยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ อย่างไรก็ตามในตอนนี้ในสายตาของคนในบ้านมู่อวี๋เฟยก็คือภรรยาของจี้หลิงชวน ใครก็ไม่สามารถคิดได้ว่าเหตุผลที่แท้จริงนั้นเป็นเพราะมู่ซีซี
“อย่างไรก็ตามครั้งนี้คุณชายจี้ช่วยบริษัทของเราไว้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะพูดอย่างไรพวกเราก็ต้องแสดงความขอบคุณต่อเขา” ทันใดนั้นคุณพ่อมู่ก็พูดออกมา หลังจากที่เขาพูด เขาก็ครุ่นคิดและมองไปยังแม่มู่พร้อมกับกล่าวว่า “ใช่แล้ว คุณให้มู่อวี๋เฟยโทรหาเขา เชิญคุณชายจี้มาทานข้าวที่บ้านของเรากัน”
เมื่อมู่ซีซีได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเธอก็เต้นตึกตักในทันที เธอมองดูพ่อมู่ที่กำลังพูดและเธอกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้ความคิดนี้หายไปจากพ่อมู่ แม่มู่ที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นทันทีและรีบกล่าวตอบรับ “เป็นความคิดที่ดี! ฉันจะให้มู่อวี๋เฟยของเราโทรไปหาเขาเดี๋ยวนี้!”
ในตอนนี้แม่มู่ต้องการที่ปฏิบัติต่อลูกเขยอย่างดี
โดยที่ไม่ให้โอกาสมู่ซีซีได้กล่าวอะไรออกมา แม่มู่จึงหยิบโทรศัพท์และกดหมายเลขของมู่อวี๋เฟยจากนั้นก็เดินออกไป
“อวี๋เฟย ต้องขอบใจลูกของแม่มาก ตอนนี้บริษัทของพวกเราได้รับการแก้ไขปัญหาแล้ว ที่แท้ก็เป็นเพราะความเข้าใจผิด ตอนนี้ไม่เพียงแต่บริษัทของเราจะดีเท่านั้น แต่ยังดีขึ้นกว่าเก่าอีกด้วย ใช่แล้ว อวี๋เฟย พวกเราอยากจะชวนคุณชายจี้มาทานข้าวเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ หนูรีบไปคุยกับคุณชายจี้เร็วเข้า” แม่มู่คุยโทรศัพท์และพูดจาด้วยรอยยิ้มสดใส
มู่อวี๋เฟยที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ เมื่อได้ยินเช่นนั้นกลับรู้สึกสับสนขึ้น เมื่อคืนเธออยู่ที่บ้าน ทำอาหารด้วยตัวเองและรอให้จี้หลิงชวนกลับจากเลิกงาน แต่กระทั่งรุ่งเช้ามู่อวี๋เฟยก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของจี้หลิงชวน มู่อวี๋เฟยนั่งรออยู่บนโซฟาตลอดทั้งคืนก็ไม่เห็นว่าจี้หลิงชวนกลับบ้าน เธอคิดว่าเธอจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการปิดบริษัทของเธอในวันนี้ แต่กลับไม่คาดคิดว่าเรื่องราวต่างๆจะพลิกผัน
แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูเหมือนว่าบริษัทของบ้านเธอจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
เป็นคุณชายจี้ที่แสดงความใส่ใจต่อเธอและแสดงความเมตตาต่อลูกน้องในบริษัทของเธอ เมื่อคิดได้เช่นนั้น มู่อวี๋เฟยก็ยิ้มกว้างในทันที เธอตอบรับโดยไม่ลังเลใจ “ได้ แม่ ฉันเข้าใจแล้ว รอฉันโทรหาจี้หลิงชวนและบอกเรื่องนี้กับเขา”
หลังจากวางสายแล้ว มู่อวี๋เฟยก็กดโทรศัพท์โทรหาจี้หลิงชวนอย่างดีอกดีใจ
หลังจากรอสายอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายแล้วสายก็ตัดไปอย่างอัตโนมัติ จี้หลิงชวนไม่รับสายของเธอ สีหน้าของมู่อวี๋เฟยที่ดีอกดีใจกก็กลายเป็นแข็งทื่อในทันที
อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากของตนเอง เธอกดหมายเลขโทรศัพท์ของจี้หลิงชวนและพยายามโทรหาเขาอีกครั้ง
โทรศัพท์ดังขึ้นครู่หนึ่งและในที่สุดก็สามารถติดต่อได้
ทันทีที่ติดต่อได้ มู่อวี๋เฟยก็รีบกล่าวทันทีว่า “คุณชายจี้ ฉันเอง! มู่อวี๋เฟย!”
เมื่อสิ้นเสียงของมู่อวี๋เฟย ปลายสายโทรศัพท์ก็มีเสียงที่เย็นชาของจี้หลิงชวนดังขึ้น “มีอะไร?”
มู่อวี๋เฟยไม่ได้สังเกตเห็นความเฉยเมยและความเหินห่างในน้ำเสียงของจี้หลิงชวน เธอกล่าวอย่างดีใจว่า “คุณชายจี้ พ่อและแม่ของฉันอยากชวนคุณไปทานอาหารที่บ้านเพื่อแสดงความขอบคุณ คืนนี้คุณมีเวลาว่างไหม?”
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของมู่อวี๋เฟย เขาคิดจะปฏิเสธ แต่ในสมองของเขาจู่ๆก็ปรากฎใบหน้าที่งดงามของมู่ซีซี
มุมปากของจี้หลิงชวนกระตุกโดยไม่ทราบสาเหตุ และทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนความคิด “เอาสิ ช่วงบ่ายเดี๋ยวผมจะเข้าไปรับคุณ”
เมื่อมู่อวี๋เฟยได้ยินคำตอบรับของจี้หลิงชวน เธอก็รีบกล่าวผ่านทางโทรศัพท์ด้วยความดีใจ “ได้เลยคุณชายจี้ ฉันจะรอไปพร้อมกับคุณ….”
มู่อวี๋เฟยยังไม่ทันกล่าวจบ เธอกลับได้ยินเสียงโทรศัพท์ตัดและดัง ตู๊ด ตู๊ด รอยยิ้มของมู่อวี๋เฟยแข็งทื่อในทันที
หลังจากที่เธอนิ่งงันไปและฟื้นคืนสติ เธอก็ปลอบใจตัวเอง จะต้องเป็นเพราะว่าคุณชายจี้กำลังยุ่ง ดังนั้นเขาจึงต้องรีบตัดสายเธอ
ไม่เป็นไร แม้ว่าในตอนนี้คุณชายจี้จะไม่ชอบเธอ แต่สักวันหนึ่ง เธอจะทำให้คุณชายจี้ตกหลุมรักเธอ!
เมื่อคิดได้ดังนั้นมู่อวี๋เฟยจึงรีบโทรศัพท์กลับไปหาแม่ของเธอและกล่าวอย่างดีใจ “แม่ คืนนี้จัดเตรียมอาหารให้พร้อม ฉันกับคุณชายจี้จะเข้าไปทานข้าววันนี้”
ทางด้านแม่มู่หลังจากที่วางสายจากมู่อวี๋เฟยแล้ว เธอจ้องมองไปยังพ่อมู่อย่างภาคภูมิใจ “ตามู่ พวกเราน่ะวันนี้ไม่ต้องไปบริษัทหรอก เดี๋ยววันนี้ช่วงบ่ายอวี๋เฟยและคุณชายจี้จะมาทานข้าวที่บ้านเรา พวกเราน่ะเตรียมต้อนรับพวกเขาเถอะ”
เมื่อพ่อมู่ได้ยินเขาก็ทำสีหน้าตึงเครียดพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยจากนั้นก็รีบเดินตามแม่มู่ไปและเรียกสาวใช้ให้เริ่มทำความสะอาดและจัดบ้านให้เป็นระเบียบ
มู่ซีซีจ้องมองพ่อมู่และแม่มู่ที่เริ่มทำงานวุ่นวาย เธออดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ภายในใจของเธอมีความตื่นตระหนกที่ไม่สามารถอธิบายได้ คนที่สูงส่งอย่างจี้หลิงชวนจะยอมลดตัวลงและตอบตกลงมาทานข้าวที่บ้านเธอได้อย่างไร?
จิตใจของมู่ซีซีนั้นไม่สงบเลย เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อมู่ แม่มู่และมู่อวี๋เฟย มู่ซีซีกลัวว่าความสัมพันธ์ของเธอและจี้หลิงชวนจะถูกจับได้
ในขณะที่เธอกำลังคิด มู่ซีซีก็ได้เดินก้าวเท้าเข้าไปหาพ่อมู่และขมวดคิ้วแน่น “พ่อ อีกเดี๋ยวหนูต้องไปโรงเรียนอีกครั้ง คืนนี้ไม่ได้กลับมาทานข้าวด้วย”
“ทำไมไม่กลับมาทานข้าวล่ะ? คืนนี้พี่แกกับพี่เขยแกมาที่บ้านนะ!”
มู่ซีซีกัดฟันและกล่าวอธิบายว่า “พ่อ หนูอาจจะต้องอยู่ที่โรงเรียนจนดึกมาก เดี๋ยวหนูหาอะไรกินที่โรงเรียนก็ได้”
พ่อมู่ยังไม่ทันจะกล่าวอะไร แม่มู่ที่ได้ยินก็เดินเข้ามาหา เธอเหลือบมองมู่ซีซีด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ตามู่ คุณจะไปสนใจอะไรเธอ ตอนนี้เธอโตเป็นสาว ปีกกล้าขาแข็งแล้ว บ้านนี้จะกลับหรือไม่กลับก็ได้แล้ว!”
มู่ซีซีกำกระเป๋าข้างกายไว้แน่นและกล่าวว่า “พ่อ หนูต้องไปโรงเรียนแล้ว”
หลังจากมู่ซีซีพูดจบ เธอก็ไม่ได้รอคำตอบจากพวกเขา เธอรีบหันศีรษะกลับมาและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
มู่ซีซีกลับไปยังโรงเรียน ในช่วงบ่ายมีคลาสเรียน2วิชา ทั้งสองวิชานี้มู่ซีซีไม่มีกะจิตกะใจที่จะเรียนเลย เมื่อได้ยินเสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น มู่ซีซีก็เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเธอก็รับรู้ได้ว่าเป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว
ณ เวลานี้ จี้หลิงชวนและมู่อวี๋เฟยทั้งสองคนน่าจะมาถึงบ้านของเธอแล้วและอาจกำลังทานอาหารเย็นกันอยู่
มู่ซีซีนั้นเดาไม่ผิดเลย ทางด้านบ้านมู่ รถของจี้หลิงชวนจอดอยู่บริเวณหน้าคฤหาสน์ตระกูลมู่
จี้หลิงชวนและมู่อวี๋เฟยต่างลงจากรถ แม้ว่าจะเป็นการแต่งงานปลอม แต่เพื่อป้องกันไม่ให้คุณย่าของเขาจับได้ จี้หลิงชวนจึงต้องแสดงบทบาทให้ดี นอกจากนี้เขายังให้ผู้ช่วยฟางเซิ่งซื้อของขวัญมากมายสำหรับผู้อาวุโสทั้งสองแห่งตระกูลมู่อีกด้วย
เมื่อจี้หลิงชวนเมื่อลงจากรถ จิตใต้สำนึกของเขาก็บังคับให้สายตาของเขาก็ชำเลืองมองไปยังผู้คนในตระกูลมู่ และเขาก็ไม่พบร่างของคนที่เขาต้องการจะพบ
สายตาของเขาจมลึกในทันใด อุณหภูมิรอบกายเขาก็เย็นลงในทันที

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset