รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 281 ถูกไล่ออกแล้ว

จี้หลิงชวนพึงพอใจ ในขณะนั้นเขาก็ไม่ได้คิดจะกลั่นแกล้งมู่ซีซี เขาค่อยๆวางมู่ซีซีลงบนเตียงใหญ่อย่างเบามือจากนั้นเขาก็ค่อยๆเอนกายนอนลงข้างกายมู่ซีซี เขากอดมู่ซีซีไว้แน่นและเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมๆกับเธอ
ในขณะนั้น ณ โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ในช่วงบ่ายชูเหยาเพิ่งฟื้นคืนสติจากอาการโคม่า แม้แต่อาหารเย็นก็ยังลงไม่ถึงท้องของเธอ เธอลืมตารอกระทั่งเวลาเที่ยงคืนแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของจี้หลิงชวน ในตอนนั้นสีหน้าของชูเหยาก็แปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าโกรธเคือง
ป้าหลี่ที่อยู่ด้านข้างและคอยดูแลเธอมองเห็นสีหน้าที่น่าเกลียดของชูเหยา เธอจึงเอ่ยเบาๆอย่างระแวดระวังว่า “คุณหนูชู ตอนนี้ดึกมากแล้ว คุณนอนพักสักหน่อยไหม?”
เมื่อชูเหยาได้ยินเสียงของป้าหลี่ราวกับว่าเธอนั้นได้สติกลับคืนมา เธอจ้องมองป้าหลี่ด้วยแววตาที่ว่างเปล่าและถามอย่างไม่รู้ตัวว่า “ป้าหลี่ ตลอดทั้งวันนี้จี้หลิงชวนยังไม่มาหาฉันเลยหรือ?”
ป้าหลี่มองชูเหยาด้วยสีหน้าลังเล สุดท้ายเธอก็ตอบด้วยความสัตย์จริงว่า “คุณชูเหยา วันนี้คุณชายจี้มาส่งคุณที่โรงพยาบาลจากนั้นเขาก็เรียกให้ฉันมาดูแลคุณและเขาก็จากไป…”
ทันทีที่เสียงของป้าหลี่สิ้นสุดลง ดวงตาของชูเหยาจมลึกลงไป เธอไม่เอื้อนเอ่ยวาจาใดๆใช้มือของเธอพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียง แววตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยหมอกแห่งความทุกข์ โดยที่ไม่รอให้ป้าหลี่ได้สติ ในวินาทีถัดมา สีหน้าของชูเหยานั้นโกรธเกรี้ยว เธอเหยียดมือออกมาและปัดดอกไม้และผลไม้ทั้งหมดที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงลงไปบนพื้น
ป้าหลี่ตกใจจนรีบก้าวเท้าถอยหลังพร้อมกับจ้องมองชูเหยาและเอ่ยว่า “คุณชูเหยา คุณใจเย็นก่อน หมอบอกว่าร่างกายของคุณยังไม่แข็งแรงดีนัก คุณอย่าใส่อารมณ์เลย….”
“ไสหัวออกไป! ออกไปให้พ้นหน้าฉัน!” ชูเหยาโกรธเป็นอย่างมาก เธอชี้นิ้วไปทางประตูของห้องพักผู้ป่วยและตะโกนใส่หน้าป้าหลี่อย่างไร้ซึ่งความสุภาพ
ป้าหลี่ตกใจมาก เธอก้าวเท้าถอยหลังออกจากห้องพักผู้ป่วยอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเธอเห็นว่าเธอไม่สามารถเกลี้ยกล่อมชูเหยาได้
ชูเหยาอาละอาดอยู่ภายในห้องพักผู้ป่วย สิ่งนี้สามารถบรรเทาความโกรธเคืองที่อยู่ภายในใจของเธอออกไปได้บ้าง
เธอนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ทันทีที่ฟ้าสว่างในวันรุ่งขึ้น ชูเหยาก็เปิดผ้านวมออกและลงจากเตียง ป้าหลี่ที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจึงผลักประตูห้องพักผู้ป่วยเข้ามา
สีหน้าของชูเหยาในตอนนี้เป็นปกติแล้ว เมื่อเหลือบมองป้าหลี่และออกคำสั่งว่า “ป้าหลี่ ไปหยิบกระจกให้ฉันหน่อย!”
“ได้ค่ะ คุณชูเหยา” ป้าหลี่ไม่กล้าขัดคำสั่ง เธอจึงรีบตอบรับ หลังจากที่ออกจากห้องพักผู้ป่วยได้ไม่นานนัก ป้าหลี่ก็เข้ามาพร้อมกับกระจก
ชูเหยานั่งพักผ่อนอยู่บนโซฟาด้านข้าง เธอหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางออกมาจากกระเป๋า จากนั้นเธอก็รับกระจกในมือของป้าหลี่
เมื่อคืนนี้ชูเหยานอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ในตอนนี้แม้เธอจะยังไม่ส่องกระจกแต่เธอก็สามารถคาดเดาได้ว่าใบหน้าของเธอในตอนนี้จะต้องน่าเกลียดอย่างแน่นอน
ในขณะที่ครุ่นคิด สายตาของชูเหยาจ้องมองไปยังใบหน้าของตนเองในกระจก เพียงแค่ชำเลืองมอง ร่างกายของเธอก็ตกตะลึงในทันที!
ภาพสะท้อนในกระจกนั้นสะท้อนภาพใบหน้าที่ขาวนวลของเธอและบนใบหน้าของเธอนั้นมีรอยกรีดและรอยเลือดทั่วใบหน้า
จากนั้นชูเหยาก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานนี้ใบหน้าของเธอถูกทำร้าย!
เมื่อเธอครุ่นคิด ในขณะนั้นชูเหยาก็กรีดร้องออกมาพร้อมกับเขวี้ยงกระจกลงบนพื้น
เธอชี้นิ้วไปทางป้าหลี่ที่อยู่ด้านข้างและพูดอย่างรวดเร็วว่า “รีบไปเลย! ไปเรียกหมอมาพบฉัน! ฉันต้องการพบหมอ!!!”
ป้าหลี่ตกใจกับท่าทางของชูเหยาเป็นอย่างมาก เธอรีบพยักหน้าและก้าวเท้าออกไปด้านนอกพร้อมกับเรียกให้หมอเข้ามา
ทันทีที่หมอสวมเสื้อกาวน์เข้ามา ชูเหยารีบคว้าแขนเสื้อของหมอไว้อย่างร้อนรนและชี้ไปที่รอยเลือดบนใบหน้าของเธออย่างรวดเร็วและพูดว่า “หมอ! รอยบนใบหน้าของฉันจะหายได้อย่างไร?!! ฉันต้องการให้หมอกำจัดรอยแผลบนใบหน้าของฉันให้มันหายไป!!!”
หมอคนนั้นตื่นตระหนกกับท่าทีร้อนรนของชูเหยา เมื่อได้ฟังชูเหยาพูดจบจากนั้นหมอก็เข้าใจและรีบพูดว่า “คุณอย่าเพิ่งเป็นกังวล รอยพวกนี้สามารถทำให้หายได้ เพียงแค่คุณต้องทายาเช้า-เย็นในทุกๆวัน รอยแผลเหล่านี้ก็สามารถหายได้”
เมื่อชูเหยาได้ยินหมอพูดว่ารอยแผลเหล่านั้นสามารถรักษาให้หายได้ เธอก็โล่งใจ
หลังจากที่หมอจากไปแล้ว ชูเหยาค่อยๆเอื้อมมือมาสัมผัสรอยแผลบนใบหน้าของเธออย่างระมัดระวังพร้อมกับกัดริมฝีปากของตัวเองไว้อย่างรุนแรง
ต้องโทษนังมู่ซีซีสารเลวนั่น! ทั้งหมดเป็นเพราะความผิดนังนั่นคนเดียว!
ใช่แล้ว! แล้วก็จี้หลิงชวน! บางทีจี้หลิงชวนในตอนนี้อาจจะได้ฟังเรื่องราวและเชื่อนังมู่ซีซีนั่นไปแล้วก็เป็นได้
เธอจะต้องไปเจอจี้หลิงชวนและอธิบายให้เขาได้ฟังจากปากของเธอ!
ขณะครุ่นคิด ชูเหยาก็จงใจไม่แต่งหน้า เธอจงใจทำให้ตัวเองดูซีดเซียวและน่าสมเพช ทันทีที่แต่งตัวเสร็จ เธอเรียกคนขับรถและให้ไปส่งเธอที่บริษัทจี้ซือ
วันนี้เป็นวันทำงาน ตอนนี้จี้หลิงชวนจะต้องอยู่ในบริษัทอย่างแน่นอน
หนึ่งชั่วโมงถัดมา รถของชูเหยาก็ได้ขับมาถึงประตูใหญ่ของบริษัทจี้ซือ
ทันทีที่รถหยุดนิ่ง ชูเหยาก็แทบจะทนรอไม่ไหวที่จะลงจากรถ เธอรีบเปิดประตูรถในทันใด
เพียงไม่กี่ก้าว เธอก็เดินมาถึงประตูใหญ่ของบริษัทจี้ซือ ยังไม่ทันทีชูเหยาจะก้าวเข้าไปด้านใน บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่สองคนก็ยื่นมือออกมาและขวางทางชูเหยาไว้
ฝีเท้าของชูเหยาจึงต้องหยุดลง เธอขมวดคิ้วแน่นจ้องมองบอดี้การ์ดทั้งสองด้วยแววตาไม่พอใจ เธอกัดริมฝีปากและพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “ออกไป! แกสองคนจะมาขวางฉันทำไม? ฉันเป็นพนักงานของบริษัทจี้ซือ!!!”
ขณะที่เธอพูด เธอก็หยิบบัตรพนักงานของตัวเองออกมาและโชว์ให้กับบอดี้การ์ด “เบิกตาของพวกแกดูซะให้ชัดเจน! หากว่ายังกล้าขวางทางเดินฉัน พวกแกก็อย่ามาว่าฉันว่าฉันไม่เกรงใจพวกแกก็แล้วกัน!”
เมื่อพูดจบ ชูเหยาจะก้าวเท้าเข้าไปภายในห้องโถงใหญ่ แต่สุดท้ายแล้วชูเหยาก้าวเท้าไปได้เพียงครึ่ง เธอก็ถูกบอดี้การ์ดขวางทางไว้เช่นเดิม
เดิมทีอารมณ์ของชูเหยานั้นก็แย่อยู่แล้ว ในขณะนี้สีหน้าของเธอก็ยิ่งดูไม่สบอารมณ์มากยิ่งขึ้น
“ไม่ใช่ว่าฉันพูดกับพวกแกไปอย่างชัดเจนแล้วหรอกหรือ? พวกแกสองคนจะมาขวางทางฉันหาอะไร!!!!”
เมื่อสิ้นเสียงของชูเหยา บอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่ทั้งสองก็ยังคงขวางทางเอาไว้และพูดกับชูเหยาอย่างเฉยเมยว่า “คุณชู ก่อนหน้านี้คุณเป็นพนักงานของบริษัทจี้ซือ คุณก็สามารถเข้าไปได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว คุณถูกคุณชายจี้ไล่ออกแล้ว ดังนั้นในตอนนี้คุณไม่สามารถเข้าไปด้านในได้”
เมื่อชูเหยาได้ยินในสิ่งที่บอดี้การ์ดพูด ร่างกายของเธอก็นิ่งงันอยู่กับที่ จากนั้นประมาณสิบวินาทีถัดมาเธอจึงได้สติ เธอมองบอดี้การ์ดด้วยแววตาที่ไม่อยากจะเชื่อและถามว่า “แกพูดว่าอะไรนะ? ฉันถูกไล่ออกเหรอ แกกำลังพูดจาตลกอะไรของแก?!!! ฉันจะถูกไล่ออกได้อย่างไร!”
บอดี้การ์ดชี้ไปยังเครื่องสแกนบัตรพนักงานที่อยู่ด้านข้างและพูดกับชูเหยาว่า “คุณชู หากคุณไม่เชื่อคุณก็ลองไปสแกนบัตรดูได้”
ชูเหยาถือบัตรพนักงานของเธอไว้แน่นพร้อมกับก้าวเท้าไปยังเครื่องสแกนบัตร เธอวางบัตรของเธอลงบนเครื่องสแกน ก่อนหน้านี้หากเธอวางบัตรลงบนเครื่องสแกน เครื่องสแกนก็จะส่งเสียง ติ๊งต่อง จากนั้นข้อมูลตำแหน่งของชูเหยาก็จะปรากฎบนหน้าจอของเครื่องสแกน แต่วันนี้จอแสดงผลของเครื่องกลับว่างเปล่า

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset