มู่ซีซีนั่งรถเมล์และรถเมล์ขับวนไปในหลากหลายเส้นทาง สุดท้ายจี้หลิงชวนและมู่อวี๋เฟยก็ได้มาถึงโรงแรมจุนยี่เป็นเวลานานแล้ว
มู่ซีซีแทบจะวิ่งเข้าไปด้านใน
ทันทีที่เข้ามาถึงประตูของโรงแรม มู่ซีซีเห็นมู่อวี๋เฟยยืนอยู่ด้านข้าง เธอสวมชุดเดรสสีแดงดูเซ็กซี่และงดงาม บนใบหน้านั้นมีเมคอัพละเอียดอ่อนและประณีต รวมถึงรอยยิ้มที่ตรึงตราตรึงใจ
เมื่อทั้งสองสบสายตากัน มู่ซีซีเห็นว่ามู่อวี๋เฟยมองเธอด้วยแววตารังเกียจและในแววตานั้นเต็มไปด้วยการดูถูกและเหยียดหยาม
มู่ซีซีอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ยังไม่ทันที่มู่ซีซีจะพูดอะไร มู่อวี๋เฟยก็ก้าวเท้าเข้ามาหาเธอ
จากนั้นเธอก็หยุดนิ่งตรงหน้าของมู่ซีซี หลังจากที่เธอมองมู่ซีซีตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตารังเกียจและดูถูก ริมฝีปากของเธอเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมาและจ้องมองไปยังมู่ซีซีพร้อมกับพูดเน้นย้ำทีละประโยคอย่างไม่เกรงใจว่า “มู่ซีซี วันนี้เป็นวันอะไร? แกแต่งตัวแบบนี้มาได้อย่างไร? แกจงใจทำให้ตระกูลมู่ของเราอับอายขายขี้หน้างั้นเหรอ?!”
เมื่อได้ยินคำพูดของมู่อวี๋เฟย มู่ซีซีขมวดคิ้วแน่น เธอก้มมองดูสิ่งที่เธอกำลังสวมอยู่ กระโปรงสีขาวยาวถึงเข่ารองเท้าคัชชูสีดำสนิทแบบคลาสสิก แม้ว่าจะไม่ได้สวมชุดหรูหราแบรนด์ไฮเอนด์เหมือนกับที่มู่อวี๋เฟยสวมใส่ แต่มู่ซีซีไม่ได้รู้สึกว่าการสวมชุดแบบนี้จะทำอะไรให้ตระกูลมู่อับอาย
จริงสิ อันที่จริงแล้วมู่อวี๋เฟยเพียงแค่มองดูมู่ซีซีก็รู้สึกไม่สบอารมณ์แล้ว หล่อนก็แค่หาความผิดมาระบายใส่เธอก็เท่านั้น!
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ทำให้มู่อวี๋เฟยรู้สึกไม่สบอารมณ์มากยิ่งขึ้นก็คือการแต่งตัวที่สะดุดตาเป็นพิเศษของเธอในวันนี้ แต่เห็นได้ชัดว่ามู่ซีซีไม่ได้ตั้งใจแต่งตัวขนาดนั้นแต่เธอกลับยังงดงาม สวยเสียกว่าตอนที่เธอตั้งใจแต่งตัวอีกต่างหาก ในวันนี้เธอดูสะดุดตากว่าวันไหนๆ เมื่อครู่ที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยกัน สายตาของทุกคนล้วนแต่ให้ความสนใจกับมู่ซีซี
นิ้วมือทั้งสิบนิ้วของเธอกำแน่นด้วยความขุ่นเคือง มู่อวี๋เฟยกัดริมฝีปากแน่น การกระทำนี้สามารถระงับความโกรธที่กำลังแผดเผาอยู่ภายในใจของเธอ
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะระเบิดอารมณ์ เธอต้องอดทน!
มู่ซีซีที่ยืนด้านข้าง ขมวดคิ้วแน่นเมื่อมองไปยังใบหน้าที่น่าเกลียดของมู่อวี๋เฟย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมู่ซีซีคิดผิดไปหรือไม่ มู่ซีซีรู้สึกมาตลอดว่าในวันนี้มีบางอย่างที่ไม่ปกติกับมู่อวี๋เฟย
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ถูกวางยาครั้งก่อน มู่ซีซีก็เลิกยุ่งกับมู่อวี๋เฟย หลักการที่มู่ซีซียึดถือมาโดยตลอดก็คือดีมาดีตอบ ร้ายมาร้ายกลับ เธอจะไม่ทำร้ายใคร แต่หากใครทำร้ายเธอ เธอจะให้คนคนนั้นชดใช้ให้เธออย่างสาสม
ทันทีที่ได้ยินคำพูดเหยียดหยามของมู่อวี๋เฟย มู่ซีซีจ้องมองดวงตาที่ลุ่มลึกของมู่อวี๋เฟยอย่างไม่เกรงกลัว “มู่อวี๋เฟย วันนี้ฉันมาแสดงความยินดีในวันเกิดของพ่อฉัน ไม่ได้มาแข่งเปรียบเทียบความสวยกับใคร”
หลังจากพูดจบ มู่ซีซีก็ไม่สนใจการแสดงออกที่น่าเกลียดบนใบหน้าของมู่อวี๋เฟย เธอถือของขวัญวันเกิดที่เตรียมให้พ่อและเดินเข้าไปด้านในห้องจัดงานเลี้ยง
มู่อวี๋เฟยหันศีรษะจ้องไปที่แผ่นหลังของมู่ซีซีด้วยสีหน้าและแววตาที่มืดมน เล็บของเธอแทงเข้าไปในฝ่ามือแต่เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ ภายในใจของเธอกลับรู้สึกเย้ยหยัน มู่ซีซี ตอนนี้ฉันให้แกได้ภาคภูมิใจและทะนงตนไปซักระยะ วันนี้ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่! ฉันจะต้องให้แกมีชีวิตเหมือนดั่งคนที่ตายไปแล้ว! ให้แกคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับฉัน!! แกรอวันนั้นได้เลย!
หลังจากพูดจบ มู่อวี๋เฟยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและต่อสายหาหรูหรูเพื่อนสาวสุดที่รักของเธอในทันที “หรูหรู พวกเธอถึงกันหรือยัง?”
“ถึงแล้ว ถึงแล้ว อีกเดี๋ยวพวกฉันเข้าไป” ทันทีที่พูดจบ สายโทรศัพท์ก็ตัดไป
มู่อวี๋เฟยยืนอยู่หน้าประตูและรออยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวสามคนแต่งตัวหรูหราบนใบหน้ามีงานเมคอัพละเอียดอ่อน รุ่นราวคราวเดียวกับมู่อวี๋เฟยเดินถือโทรศัพท์เข้ามาภายในงาน
ครอบครัวเด็กสาวเหล่านี้ร่ำรวยกว่าคนธรรมดาทั่วไป แต่ไม่สามารถเทียบได้กับยักษ์ใหญ่ของสังคมชั้นสูงในเมืองหรง และในตอนนี้ก็ไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลมู่ดังนั้นเด็กสาวเหล่านี้จึงเยินยอมู่อวี๋เฟย
หญิงสาวที่มีชื่อว่าหรูหรู ทันทีที่เห็นมู่อวี๋เฟยเธอก็ถลาเข้ามาจับมือมู่อวี๋เฟยอย่างสนิทสนมพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าว “พี่อวี๋เฟย พวกเราไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม?”
มู่อวี๋เฟยไม่ตอบเธอ จากนั้นเธอก็ดึงมือหรูหรูเข้าไปในมุมด้านข้างที่ไม่มีใครผ่านไปผ่านมา
รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอหายไปในทันที เธอจ้องมองหรูหรูและเพื่อนสาวเหล่านั้นด้วยสีหน้าที่น่าเกลียดและมัวหมอง
หรูหรูและเด็กสาวเหล่านั้นมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นพวกเธอต่างมองหน้ากันและยื้นเจื่อนๆให้กันและกัน พวกเธอมีอาการประหลาดใจเล็กน้อยและมองมู่อวี๋เฟยอย่างระมัดระวัง
หรูหรูผู้กล้าหาญจ้องมองไปทางมู่อวี๋เฟยและถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “พี่อวี๋เฟย เป็นอะไรไป?”
“เธอยังจำสิ่งที่ฉันบอกเธอทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ได้หรือเปล่า?” น้ำเสียงของมู่อวี๋เฟยเบาลงแต่กลับหนักแน่น
“จำได้สิพี่ พี่อวี๋เฟยวางใจได้ พวกเราร่วมมือกับพี่แน่นอนอยู่แล้ว!” หรูหรูตบหน้าอกของตัวเองเพื่อตอบรับ
มู่อวี๋เฟยพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีมาก หากว่าเรื่องในวันนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ฉันจะตบรางวัลอย่างงามให้พวกเธอ ไปเถอะ เข้าไปด้านในกัน”
ขณะเธอพูด เธอหันหลังกลับและเดินออกไป จากนั้นหรูหรูและเพื่อนๆของเธอก็เดินตามออกไป
ในอีกด้านหนึ่ง มู่ซีซีที่เดินเข้าไปภายในงานเลี้ยง เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ มู่ซีซีคาดไม่ถึงเลยว่าในวันเกิดอายุครบ50ปี พ่อของเธอจะเชิญชวนผู้คนมามากมายขนาดนี้และหลายคนในงานเลี้ยงนี้ล้วนแต่มีหน้ามีตาในสังคมกันทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้บุคคลเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่ตระกูลมู่ไม่อาจเชิญชวนมาได้ เกรงว่าอาจเป็นเพราะเห็นแก่หน้าของจี้หลิงชวนจึงได้มาร่วมงานเลี้ยง
ในระยะไม่ไกลนัก มู่ซีซีเห็นจี้หลิงชวนกำลังถูกผู้คนชั้นสูงรายล้อม เหมือนกับว่าพวกเขากำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่ ภายในใจของเธอรู้สึกโล่งใจ
เธอรีบละสายตาจากนั้นเธอถือของขวัญและเดินไปหาพ่อมู่เพื่อมอบของขวัญให้แก่เขา
วันนี้พ่อมู่ดูอารมณ์ดี ใบหน้าของเขาดูสดใส ข้างกายของเขาคือแม่มู่ที่สวมเครื่องเพชร เมื่อทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันดูแล้วช่างเหมาะสม
“พ่อ สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะคะ ขอให้พ่อมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อายุยืนนาน” มู่ซีซีจ้องมองไปยังพ่อของเธอและกล่าวอย่างจริงใจ จากนั้นเธอก็มอบของขวัญให้พ่อของเธอด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย
มู่ซีซีไม่ได้มีเงินมากมายที่จะซื้อของขวัญราคาแพง เธอใช้เวลาเกือบสองปีในการประหยัดเงินและเก็บออมเงินจากงานพาร์ทไทม์ของเธอ เธอเก็บออมเงินได้มากกว่า10,000หยวนและซื้อนาฬิกาให้กับพ่อของเธอ
ทันทีที่สิ้นเสียงของมู่ซีซี พ่อมู่กำลังจะเอื้อมมือมารับของขวัญ แต่ยังไม่ทันที่พ่อมู่จะสัมผัสของขวัญชิ้นนั้น แม่มู่ที่อยู่ด้านข้างนั้นรวดเร็วกว่าพ่อมู่ เธอแย่งพ่อมู่รับของขวัญและแกะกระดาษห่อของขวัญออกในทันที
แม่มู่เหลือบมองนาฬิกาที่ถูกแกะออกจากห่อของขวัญ แววตาแห่งการดูถูกฉายผ่านในแววตาของเธอ สิ่งของที่แม่มู่ชอบที่สุดก็คือสิ่งของเครื่องใช้ฟุ่มเฟือยเหล่านี้ ดังนั้นเมื่อได้มองเพียงแค่วินาทีเดียวแม่มู่ก็รู้ได้ในทันทีเลยว่านาฬิกาที่มู่ซีซีซื้อมานั้นเป็นสินค้าราคาถูก
เธอไม่ไว้หน้ามู่ซีซีเลยแม้แต่น้อย เธอพูดประชดประชันออกมาว่า “โอ้ ให้นาฬิกางั้นเหรอ?”
ขณะที่แม่มู่พูด แววตาของแม่มู่นั้นทิ่มแทงมู่ซีซี “เท่าไหร่เหรอ? ราคาไม่ได้เกิน20,000หยวนใช่ไหม! ให้ของกระจอกๆ ราคาถูกแบบนี้ แกอยากทำให้พ่อของแกอับอายขายหน้าคนอื่นงั้นเหรอ?”
รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 66 ความอับอาย
Posted by ? Views, Released on October 20, 2021
, รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ
ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี
Recommended Series
Comment
Facebook Comment