ตอนที่ 52: พวกเราจะยอมถอนตัว
ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเฉิงก็พลันเดินผ่านชายเสื้อคลุมและก้าวเท้าข้ามสมาชิกแต่ละคนของแก๊งเต่าดำที่นอนนิ่งสลบไป เขาพลันเดินตรงไปยังชายกล้ามโตที่กำลังสำลักเลือดของตัวเองออกมา ชายที่อ้างว่าเป็นคนกระทืบเจ้าหน้าที่หวัง…
ถึงแม้ชายกล้ามโตจะเห็นว่าเสี่ยวเฉิงกำลังเดินเข้ามาใกล้ แต่เขาเองก็ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นยืนและก้าวเท้าวิ่งอีกต่อไป
ทั้งนี้ แรงกดดันที่พร่างพรายออกมาจากตัวเสี่ยวเฉิงนั้นก็ทำให้ชายกล้ามโตรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย
“คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยศกระจ้อยร่อยจะทำอะไรไม่ได้หรือยังไงกัน?” ทว่า เสี่ยวเฉิงพลันหยุดเดิน เขามองไปยังสมาชิกทุกคนของแก๊งเต่าดำที่กำลังนอนโอดครวญอยู่บนพื้นถนนอย่างน่าสังเวชพร้อมกับตะโกนขึ้นมา “ขอทิ้งท้ายไว้หน่อยก็แล้วกันนะ ถ้าพวกนายทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายแต่แรก ก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้หรอก ยังไงก็เถอะ ถ้ายังมีครั้งหน้าอีก ถ้าพวกนายยังไม่หยุดตามรังควานฉันอีก สาบานเลยว่าฉันจะกลับมาที่นี่และหักกระดูกพวกนายเล่นอีกแน่”
ทันทีที่พูดจบ เสี่ยวเฉิงก็ยกตัวชายกล้ามโตขึ้นมาและลากตัวไป
แต่ทว่า ในตอนนั้นเอง ภายใต้แสงไฟสลัวริมถนน เงาของบุคคลทั้งสามก็พลันปรากฏขึ้นตรงหน้าเสี่ยวเฉิงทันที
“ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้”
ทันทีที่เสี่ยวเฉิงเงยหน้าขึ้น เขาก็พลันเห็นชายร่างสูงและกำยำสามคนเดินตรงมา
ชายกล้ามโตที่ถูกเสี่ยวเฉิงยกขึ้นมาพลันเผยท่าทีสุดดีใจออกมาทันที “ท่านครับ! ไอ้บัดซบนี่มันเข้ามาเหยียบถิ่นของเรา แถมยังจะลากตัวผมไปเข้าคุกด้วยครับ”
ชายกล้ามโตพลันสลัดมือของเสี่ยวเฉิงออกไปพร้อมกับวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังชายกำยำทั้งสาม เขาเผยท่าทีสุดดีใจราวกับได้พบเจอผู้ช่วยชีวิตของตนและไม่รู้สึกกลัวอีกต่อไป
ทั้งสามสวมชุดกีฬาและมีรอยบาดแผลฉกรรจ์ บางที พวกเขาอาจจะไม่ต้องการโชว์เรือนร่างให้ใครเห็นก็เป็นได้
“แกเป็นคนแรกเลยนะที่กล้ามาเหยียบถิ่นของแก๊งเต่าดำ แถมยังเอาชนะคนพวกนี้ได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น แกกล้าที่มาจะที่นี่คนเดียว…” ชายคนหนึ่งพลันกล่าวคำพูดอย่างใจเย็น
ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเฉิงพลันมองไปยังทั้งสามและกล่าวคำพูดอย่างจริงจังออกมา “คืนนี้ฉันจะเอาตัวไอ้หมอนั่นไปด้วย”
“แต่ละประเทศต่างก็มีกฎหมาย แต่ละครอบครัวต่างก็มีกฎระเบียบ แก๊งเต่าดำเองก็ไม่ต่างกัน ไม่ต้องเสียเวลามาลงโทษชายคนนี้หรอก แค่คืนนี้คืนเดียว แกก็ไล่กระทืบคนของเราไปเยอะแล้ว อันที่จริง ถ้าไม่ได้สั่งสอนแกสักหน่อย มันก็คงจะไม่ใช่สไตล์ของแก๊งเต่าดำอย่างพวกเราน่ะสิ”
เสี่ยวเฉิงพลันพยักหน้า “ถ้าแบบนั้น ฉันเองก็จะขอพูดแบบเดียวกัน ยังไงก็เถอะ คืนนี้ฉันจะยอมถอดเครื่องแบบออกแล้วสู้กับพวกนายแบบคนธรรมดาก็ได้”
ทั้งสามคนเลิกคิ้วทันที “แกแน่ใจแล้วรึ?”
ทว่า เสี่ยวเฉิงในตอนนี้ก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะตอบกลับไป เขาพลันถอดเครื่องแบบและโยนเข้าไปในรถกระบะทันที ระหว่างที่เหลือเพียงแค่ชุดเสื้อกลามและกางเกงขายาว เสี่ยวเฉิงก็พลันกล่าวคำพูดกับทั้งสามคนตรงหน้า “งั้นถ้าคืนนี้ไม่มีใครล้มฉันได้… ในอนาคตก็ช่วยเปลี่ยนสันดานตัวเองหน่อยก็แล้วกัน”
ในตอนนั้นเอง ใบหน้าของทั้งสามพลันมืดลงทันที “รอนับเวลาตายของตัวเองได้เลย!”
“เอาสิ!” เสี่ยวเฉิงไม่ได้สนใจหรือกลัวเลยสักนิด “ถ้าคืนนี้ฉันไม่รอดกลับไปก็ไม่เป็นไร ฉันยอมรับชะตากรรมของตัวเอง แต่ถ้าฉันยังยืนหยัดอยู่ได้ พวกแกก็คงไม่ต่างอะไรกับเศษสวะไร้ค่าไร้ประโยชน์หรอก! กลับไปนั่งเล่นเกมมาเฟียออนไลน์ที่บ้านแทนที่จะออกมาทำให้ตัวเองเสียหน้าจะดีกว่า!”
“ได้เลย!” ทั้งสามกล่าวด้วยเสียงเข้ม “ถ้าแกมีชีวิตรอดผ่านคืนนี้ไปได้ แก๊งเต่าดำก็จะไม่ไปยุ่งวุ่นวายอะไรด้วยอีก!”
“ยังไม่หมดแค่นั้น ฉันต้องการตัวไอ้เวรระยำนั่นไปด้วย” เสี่ยวเฉิงพลันชี้ไปยังชายกล้ามโตที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง
ทั้งสามพลันเผยเสียงหัวเราะออกมาทันใด “งั้นก็มาดูกันว่าแกจะได้อะไรกลับไป!”
เมื่อทั้งสามพูดจบ พวกเขาก็พุ่งตัวเข้าใส่เสี่ยวเฉิงทันที ชายคนหนึ่งกวาดขาไปด้านล่างเพื่อที่จะเตะตัดขา แต่ทว่า เสี่ยวเฉิงก็สามารถกระโดดหลบได้อย่างง่ายดาย จากนั้นไม่นาน ชายอีกคนก็พลันเหวี่ยงหมัดตรงไปที่ใบหน้าของเสี่ยวเฉิงทันที แต่แล้ว เสี่ยวเฉิงก็พลันหลบหมัดนั้นได้ด้วยการเอนร่างกายส่วนบนไปทางขวาอย่างรวดเร็ว และทันทีที่ฝ่าเท้าของทั้งสามกำลังจะพุ่งเข้าไปปะทะกลางหน้าอก เสี่ยวเฉิงก็รีบยกมือสองข้างขึ้นมาตั้งการ์ดเอาไว้ ถึงกระนั้น แรงเตะอันทรงพลังจากอีกฝ่ายก็ทำให้เสี่ยวเฉิงต้องถอยหลังไปประมาณสองถึงสามก้าว
“รนหาที่ตายเองนะไอ้หนุ่มน้อย ยังไงเสีย ถ้าแกอยู่รอดได้จนถึงพรุ่งนี้ พวกเราจะยอมถอนตัวออกจากกองกำลังของแก๊งเต่าดำเลย!” ด้วยความที่ทั้งสามช่วยกันสู้จนสามารถถีบเสี่ยวเฉิงกระเด็นไปได้สองสามก้าว พวกเขาจึงพลันคิดว่าตัวเองต้องชนะแน่และกล่าวคำพูดอวดดีออกมา