ทั้งชิเหวินปินและคู่หูต่างก็ผงะและตกใจไม่น้อย แม้แต่หวังหยิงจอมเย็นชาก็ไม่สามารถระงับความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในจิตใจได้
“ถ้ามือปืนเอาแต่พึ่งศูนย์เล็งมากไป พวกเขาก็จะฆ่าใครไม่ได้เลย เพราะแบบนั้นแหละ พวกมือปืนถึงจำเป็นต้องพึ่งประสาทสัมผัสในการระบุทิศทางลมแล้วก็แรงต้านอากาศ ไหนจะต้องคำนวณการเคลื่อนไหวของเป้าหมายอีก ยังไงก็เถอะ ใช้สมองคิดบ้างก็ดีนะ” เสี่ยวเฉิงยังไม่ได้ถอดผ้าปิดตาออก เขาพลันชี้นิ้วไปที่หัวพร้อมกล่าวคำพูด
บางทีมันอาจจะฟังเหมือนเป็นเรื่องโกหกไร้สาระ แต่เสี่ยวเฉิงก็พลันเผยท่าทีซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือออกมา
ชิเหวินปินพลันกัดฟันทันที และในระหว่างนั้น เขาก็พลันล้วงไฟแช็กออกมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมโยนออกไปโดยแสร้งว่ามันเป็นจานร่อน แต่ทว่า เสี่ยวเฉิงเองก็ไม่ได้ขยับหรือลั่นไกออกไปเลย เขาเพียงแค่หันมาพูดด้วยน้ำเสียงสุดแผ่วเบาเท่านั้น “นี่เราอยู่บนชั้นสามนะ ถ้านายเผลอขว้างอะไรลงไป เดี๋ยวก็ไปโดนหัวคนอื่นเข้าหรอก”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ลูกตาของชิเหวินปินและคู่หูก็แทบจะหลุดออกมาจากเบ้าด้วยความตกใจ เขารู้ได้ยังไงกัน?! ผ้าปิดตานั่นของปลอมหรือเปล่า?! หรือชายคนนี้สามารถมองทะลุผ้าได้ใช่ไหม?
ระหว่างที่คู่หูของชิเหวินปินกำลังจะถามขึ้นมาว่า “นายรู้ได้ยังไงกัน?” จานร่อนก็พลันพุ่งออกมาทันใด ภายในเสี้ยววินาที เสี่ยวเฉิงก็พลันลั่นไกออกไปสามนัด
คะแนนบนจอแสดงผลเปลี่ยนเป็นสี่แต้มในทันที!
“ให้ตายเถอะ! นายแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าหมอนั่นมองอะไรไม่เห็นเลยน่ะ?” คู่หูของชิเหวินปินพลันหันไปมองและกระซิบ เขารู้สึกราวกับผ้าปิดตาไม่ได้ปิดกั้นการมองเห็นของเสี่ยวเฉิงเลยแม้แต่น้อย
“เป็นไปไม่ได้! ผ้าปิดตามีตั้งสามชั้นเชียวนะ ฉันไปเอามาจากห้องทำงานของครูหวัง ฉันเคยลองแล้วด้วย มันมองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว!”
“แล้วเหตุการณ์ตรงหน้าคืออะไรกันล่ะเนี่ย?”
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกัน นกตัวหนึ่งก็พลันกระพือปีกบินมาจากต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลนัก ภายในเสี้ยววินาที เสี่ยวเฉิงก็พลันขยับปืนและยิงไปทางนั้นทันที ไม่นานนัก นกตัวนั้นก็ตกลงมา ทั้งสามพลันผงะและตกตะลึงไม่น้อย
นี่มันความสามารถบ้าบออะไรกัน?
ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรจะสามารถเล็ดลอดจากปืนพกของเสี่ยวเฉิงไปได้ ก่อนที่ทั้งสามจะวิเคราะห์และแยกแยะทุกอย่างได้ เสี่ยวเฉิงก็พลันกล่าวคำพูดกับหวังหยิง “เอ่อ… ไอ้เจ้าเครื่องนั่นสามารถปล่อยจานร่อนออกมาหลายแผ่นพร้อมกันได้ไหม?”
หวังหยิงพลันเหงื่อตก “ได้… มันสามารถยิงออกมาได้มากสุดห้าแผ่นพร้อมกัน นายอยากลองดูหน่อยไหมล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับโดยไม่ลังเลเลยสักนิด “ลุยเลยครับ”
ทั้งชิเหวินปินและคู่หูพลันรู้สึกกากไปเลย ทั้งสองแทบจะอยากคุกเข่าคุยกับเสี่ยวเฉิงแล้วในตอนนี้
สำหรับคราวนี้ หวังหยิงพลันเดินไปยังเครื่องยิงและปรับระบบให้ยิงจานร่อนออกมาทีเดียวทั้งห้าแผ่น
อันที่จริง แม้แต่หุ่นยนต์ก็ยังไม่สามารถล็อกเป้าหมายและยิงใส่จานร่อนทั้งห้าแผ่นได้ภายในสองวินาทีเลยด้วยซ้ำ แต่ทว่า ดูเหมือนเสี่ยวเฉิงจะยิงได้สูงสุดอยู่ที่สามนัดต่อหนึ่งวินาที ถึงอย่างไร ครั้งนี้กลับต่างออกไป เพราะจานร่อนทั้งห้าจะพุ่งออกมาจากทุกทิศทาง อีกทั้ง เสี่ยวเฉิงเองก็มีเวลายิงแค่สองวินาทีเท่านั้น
“เอ่อ… ฉันว่าลองสามแผ่นก่อนดีไหม?” หวังหยิงพลันลังเล
ทว่า เสี่ยวเฉิงมาที่นี่เพื่อทดสอบขีดจำกัดและความสามารถของตน เขาจึงปฏิเสธกลับไป “ไม่เป็นไรครับ เอาห้าเลย”
ชิเหวินปินและคู่หูที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอะไรออกมา
เมื่อก่อนหน้านี้ พวกเขาไปคุยโม้โอ้อวดว่าชิเหวินปินสามารถยิงได้สามแต้มจากจานร่อนทั้งหมดสิบแผ่นได้ยังไงกัน? เพราะในตอนนี้ เสี่ยวเฉิงไม่เพียงแค่ยิงเข้าเป้าทุกนัดเท่านั้น แต่เขายังคิดจะยิงให้โดนจานร่อนทั้งห้าแผ่นในคราวเดียวอีกด้วย!
เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ทั้งสองแทบอยากจะคุกเข่ายอมแพ้…
หลังจากที่หวังหยิงกดปุ่มสตาร์ทเครื่อง เธอก็มองไปยังเสี่ยวเฉิงด้วยสายตาแห่งความประหม่าที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง