ทันทีที่เห็นท่าที่ของเสี่ยวเฉิง เปลือกตาของอู๋ห่าวก็พลันสั่นเล็กน้อย
ให้ตายเถอะ! อีกหมัดหนึ่งงั้นรึ?!
ทว่า อู๋ห่าวเองก็พลันอวดดีไปตั้งแต่แรกแล้ว เขาในตอนนี้ทำเพียงแค่หายใจเข้าและยืนหยัดเช่นเดิมเท่านั้น
“เข้ามาเลย!”
คราวนี้ ทันทีที่เสี่ยวเฉิงปล่อยหมัด เสียง “ฟิ้ว” ของแรงต้านอากาศก็พลันดังไปถึงหูของอู๋ห่าว นั่นทำให้รูม่านตาของเขาขยายใหญ่ขึ้นในทันใด
ทันทีที่ได้ยินเสียง “ตุบ” อู๋ห่าวก็พลันหรี่ตาลง
ทันทีที่หมัดของเสี่ยวเฉิงกระแทกลงบนหน้าท้อง อู๋ห่าวก็พลันรู้สึกราวกับเวลานั้นยาวนานนับทศวรรษ ความเจ็บปวดที่ได้รับเมื่อครู่ทำให้เขานึกถึงความทุกข์และความยากลำบากที่เคยประสบมาตลอดช่วงชีวิต… หลังจากอดทนและอดกลั้นจนความเจ็บปวดคลายลง อู๋ห่าวก็พลันรู้สึกเหนื่อยกับการมีชีวิตอยู่ขึ้นมาทันใด เขารู้สึกราวกับตัวเองกำลังถูกวัวกระทิงยักษ์พุ่งเข้าใส่เลย…
“ร้อยเอกอู๋… ดูเหมือนว่าคิ้วคุณจะกระตุกหน่อยนะ” หวังหยิงเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนหน้าของอู๋ห่าว
ในตอนนี้ ไม่ว่าอู๋ห่าวอยากจะสบถออกมามากแค่ไหน เขาก็ทำได้เพียงแค่บ่นพึมพำในใจเท่านั้น
ทันทีที่เสี่ยวเฉิงดึงกำปั้นออก หยานเหว่ยก็พลันมองไปยังหน้าท้องของอู๋ห่าว จากที่ตอนแรกมันเป็นแค่รอยช้ำ แต่ตอนนี้มันกลับบวมเป่งขึ้นมาแล้ว… ทันใดนั้น อู๋ห่าวก็พลันกลืนน้ำลายดัง “อึก”
ให้ตายเถอะ!
อันที่จริง หยานเหว่ยในตอนนี้ก็เริ่มจะเป็นห่วงอู๋ห่าวที่ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้ว…
ทว่า ไม่ถึงเสี้ยววินาที เลือดกำเดาก็พลันไหลออกมาจากรูจมูกของอู๋ห่าว
หวังหยิงพลันตกใจ “จะ-หมูกคุณ… มีเลือดไหลออกมาด้วย!”
อู๋ห่าวพลันแตะจมูกของตนทันที บัดซบ! เลือดกำเดากำลังไหลอยู่จริงด้วย!
“เอ่อ… เมื่อเช้าฉันกินของเผ็ดเยอะไปหน่อยน่ะ มันก็เลยอาจจะทำให้เลือดกำเดาไหลได้ ไม่มีอะไรหรอกน่า อ่า แล้วก็เสี่ยวเฉิง… เลิกเสียเวลากันเถอะ! จัดเต็มมาเลย! ครั้งนี้ฉันขอหมัดที่นายคิดว่าโหดที่สุด!” อู๋ห่าวกล่าว
“จัดเต็ม?” เสี่ยวเฉิงพลันลังเล “ผมยังไม่ได้ทดสอบพละกำลังของตัวเองเลยนะ หลังจากที่ต่อยเครื่องไดนาโมมิเตอร์ครั้งที่แล้วแตกกระจาย ผมก็ยังไม่รู้ตัวเลขหมัดสุดท้ายของตัวเองเลย… เอ่อ… ผมกลัวว่าคุณจะได้รับบาดเจ็บเข้าน่ะสิ”
อย่างที่หยานเหว่ยคิด อู๋ห่าวแสร้งทำเป็นเข้มแข็งมาจนสุดทาง ไม่ช้า อู๋หาวก็พลันกล่าวคำพูดออกมา “นายเพิ่งจะต่อยฉันมาแค่สามครั้งเองนะ แล้วนอกเหนือจากการขมวดคิ้ว ฉันเผยท่าทีอะไรอย่างอื่นออกมาให้เห็นอีกไหมล่ะ? ฉันให้นายซัดหมัดมาก็เพื่อที่จะได้พิสูจน์ตัวเองนะ อย่ามาลีลาหน่อยเลย!”
“ก็ได้ งั้นผมจะใช้แรงแค่ครึ่งเดียวก็แล้วกัน อันที่จริง ผมกลัวว่าถ้าใส่ไปเต็มเหนี่ยว คุณอาจตายได้น่ะ” เสี่ยวเฉิงพลันกล่าวคำพูด “ยังไงก็เถอะ ร้อยเอก… เตรียมตัวนะ!”
ครึ่งหนึ่งของพละกำลังตัวเอง? เขายังกลัวว่าหมัดของตัวเองจะฆ่าฉัน?
อู๋ห่าวพลันพึมพำกับตัวเองในใจกับตัวเอง “สำหรับวันนี้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร… ฉันก็จะขอรับหมัดครั้งสุดท้ายของนายด้วยศักดิ์ศรีทั้งหมดที่มี!”
ทั้งนี้ หยานเหว่ยเองก็รู้จักคู่หูของตัวเองเป็นอย่างดี แต่เขาไม่เคยเห็นอู๋ห่าวจริงจังขนาดนี้มาก่อนเลย อู๋ห่าวในตอนนี้พลันเผยท่าทีราวกับกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังยังไงยังงั้น เขาไม่เคยใช้เวลานานขนาดนี้ในการกักเก็บพลังลมปราณมาก่อนเลยด้วยซ้ำ… หลังจากที่เห็นว่าอู๋ห่าวเหงื่อท่วมอยู่ตลอดเวลา หยานเหว่ยก็รับรู้ได้ทันทีว่าอู๋ห่าวทนความเจ็บปวดจากหมัดที่สองของเสี่ยวเฉิงไม่ไหวเลยด้วยซ้ำ
หลังจากที่พับแขนเสื้อขึ้นจนเผยให้เห็นกล้ามแขน เสี่ยวเฉิงก็พลันคลายนิ้วทั้งห้าและกำหมัดอย่างรวดเร็ว ไม่ช้า เขาก็พลันก้าวถอยไปประมาณห้าเมตร
อู๋ห่าวพลันกลืนน้ำลายอย่างประหม่า ทันทีที่เห็นเสี่ยวเฉิงพุ่งหมัดเข้ามา อู๋ห่าวก็พลันรู้สึกเสียใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เพิ่งจะพูดออกไปก่อนหน้านี้
ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากกลับบ้านไปหาแม่ พร้อมกับนั่งทานอาหารจานโปรดที่แม่ชอบเตรียมไว้ให้อยู่เสมอ…
เดี๋ยวสิ! ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้ออกมากันนะ?
อู๋ห่าวพลันตระหนักถึงบางอย่างในระหว่างที่กำปั้นของเสี่ยวเฉิงกระแทกลงบนกล้ามเนื้อหน้าท้องของตัวเอง พลังลมปราณบ้าบออะไรกัน? ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวจะช่วยอะไรได้? ทั้งหมดนั้นไร้ประโยชน์สิ้นดี… ในตอนนี้ ทั้งร่างของอู๋ห่าวพลันกระเด็นออกไปและลอยขึ้นฟ้า ความรู้สึกต่อต้านแรงโน้มถ่วงทำให้เขาพลันคิดว่าตัวเองจะได้ไปอยู่บนสวรรค์จริง ๆ แล้ว อู๋ห่าวในตอนนี้พลันลอยอยู่กลางอากาศพร้อมเลือดสีแดงสดที่พุ่งออกมาจากปาก เลือดจากปากพลันสาดกระเซ็นออกมาเป็นเส้นโค้งสีแดงสุดสมบูรณ์แบบ…
ทันใดนั้นเอง ทั้งหวังหยิงและหยานเหว่ยก็พลันอ้าปากค้างในระหว่างที่มองดูอู๋ห่าวลอยละล่องอยู่กลางอากาศ
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น หยานเหว่ยก็คงจะไม่มีวันลืมภาพส่วนโค้งสีแดงสดตรงหน้าได้แน่!