ตอนที่ 7: ผู้ปกป้องสาวงาม
หรานจิงเลือกสั่งอาหารสไตล์โฮมเมดที่เป็นเอกลักษณ์อยู่สองสามอย่าง จากนั้น เธอก็ถามคำถามกับเสี่ยวเฉิงมากมาย ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังนั่งทานอาหารอยู่นั้น สายตาของผู้ชายทุกคนที่อยู่รอบตัวก็จับจ้องไปที่เสี่ยวเฉิง จุดประสงค์ของหรานจิงไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย เธอเพียงแค่ต้องการให้เสี่ยวเฉิงเห็นและรับรู้ว่าผู้หญิงสวยเช่นเธอนั้นโด่งดังและมีค่ามากแค่ไหนในสังคมยุคนี้
เธอเป็นคนเก่งของแผนกสอบสวนคดีอาญาและเป็นคนที่เพื่อนร่วมงานชายทุกคนอยากจะคุยด้วย
เสี่ยงเฉิงเคยพูดว่าเขาไม่สนใจความงามของเธอเลยสักนิด เพราะแบบนั้น เธอจึงพาเขามาที่นี่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอน่าดึงดูดแค่ไหนสำหรับคนอื่น หรานจิงคิดว่านี่จะเป็นการทำให้เสี่ยวเฉิงหลงเสน่ห์ถ้าทั้งสองต้องอยู่ด้วยกันในอนาคต
เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงจะรู้สึกไม่ปลอดภัย ทั้งเรื่องที่ทั้งสองเผชิญหน้ากันเมื่อเช้าและเรื่องที่เธอไม่สามารถเอาชนะเสี่ยวเฉิงได้เลย ถ้าเธอไม่ทำเช่นนี้ มันก็คงจะสายเกินไป
“หรานจิง… อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนี้เป็นแฟนเธอ!” ในตอนนั้นเอง ผู้ชายคนหนึ่งที่มีรอยบากและสวมเสื้อกั๊กหนังสีเขียวเดินมาล้อมโต๊ะพร้อมเพื่อนร่วมงานอีกสามคน
“แน่นอนว่าไม่ อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระหน่อยเลยน่าหลี่ต้าจวง” เธอตอบกลับ
หลี่ต้าจวงรีบพูดขึ้นทันที “ถ้าหมอนี่ไม่ใช่แฟนเธอ แล้วทำไมมันถึงนั่งรถมาด้วยกัน? ทำไมมันถึงมานั่งทานข้าวกับเธอด้วยล่ะ?”
จากนั้นเขาก็นั่งลงและมองไปที่เสี่ยวเฉิง “ไง! แกชื่ออะไร?”
“เสี่ยวเฉิง” หรานจิงตอบแทน
หลี่ต้าจวงรู้สึกโกรธมากกว่าเดิม “ผมกำลังถามเขาอยู่นะ ทำไมเธอต้องตอบแทนด้วยล่ะ? หมอนี่มันเป็นใครกัน?”
“ฉันเสี่ยวเฉิง เราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด” เสี่ยวเฉิงตอบกลับ
ทันใดนั้น หลี่ต้าจวงจึงตัดสินใจที่จะทำการสอบสวน “แกทำอาชีพอะไร?”
หลี่ต้าจวงรู้สึกโกรธมาก แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะไปทำร้ายผู้ชายคนอื่นแบบสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่มีข้อมูลอะไรเลย
เสี่ยวเฉิงพลันขมวดคิ้ว และทันทีที่เขาเห็นแสงแห่งความเจ้าเล่ห์ในดวงตาของหรานจิง เขาก็รู้สึกว่าไม่อยากจะเอาตัวเองเข้าไปเป็นปัญหา เสี่ยวเฉิงวางตะเกียบลงทันที “โทษที ฉันไม่ใช่อาชญากร บางทีนายก็ถามมากไปนะ ฉันอิ่มแล้วด้วย ยังไงก็ขอตัวก่อน…”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปส่ง” หรานจิงพูดขึ้น
“ไปส่งเขา? ไปส่งหมอนี่?” หลี่ต้าจวงพลันตะโกนออกมาและมองไปยังเสี่ยวเฉิงอย่างไม่สบอารมณ์ “แกไปให้พ้นเลยนะ!”
“นายทำบ้าอะไรน่ะ?!” หรานจิงตะโกนทันที “เสี่ยวเฉิงเป็นเพื่อนร่วมห้องฉันเอง ก็แค่ชวนเขามาเลี้ยงข้าว ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย?”
ช่างเป็นสาวน้อยเจ้าเล่ห์อะไรเช่นนี้… ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย แค่คำว่า “เพื่อนร่วมห้อง” คำเดียวก็ทำให้หลี่ต้าจวงหัวร้อนจนแทบจะระเบิดได้แล้ว
“เพื่อนร่วมห้อง?”
ไม่ใช่เพียงแค่หลี่ต้าจวงเท่านั้น แต่คนอื่นก็ตกตะลึงเช่นกัน
ตอนนี้เขาควรทำอย่างไรดี?
หลี่ต้าจวงรู้สึกกังวล หญิงสาวที่เขาตามจีบมานานไปนอนร่วมกับผู้ชายแปลกหน้าคนอื่นได้ยังไงกัน?
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?!
“ไม่ได้นะ!” หลี่ต้าจวงคัดค้านเสียงดัง “จะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะหาห้องเดี่ยวในเมืองซ่างเฉิงอยู่ไม่ได้เลย? แล้วสุดท้ายก็ต้องมานอนกับคนแปลกหน้าแบบนี้”
“ไม่ใช่เรื่องของนาย!” หรานจิงขมวดคิ้ว “อีกอย่าง รู้ไหมล่ะว่ามันอยู่ที่ไหน? คอนโดสุดหรูชั้นสูงสุดยังไงล่ะ! ค่าเช่าคนเดียวก็เฉียดหนึ่งหมื่นหยวนต่อเดือนแล้ว! ถ้าจะไม่ให้ฉันอยู่ฟรี นายจะมาช่วยจ่ายค่าคอนโดไหมล่ะ?”
เอิ่ม…
หลี่ต้าจวงพูดไม่ออก เมื่อพูดถึงเงิน ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย ไม่ใช่ว่าหลี่ต้าจวงจะจ่ายค่าคอนโดให้หรานจิงไม่ได้… แต่ถ้าทำเช่นนั้น เขาก็ต้องอดข้าวไปหลายมื้อเลย นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในเมืองซ่างเฉิงก็สูงไม่น้อยเลยด้วย