ไม่ว่ากำปั้นและลูกเตะของเสี่ยวเฉิงจะพุ่งไปทางไหน เสียงกระดูกหักก็พลันดังลั่นอยู่ร่ำไป แค่หมัดของเสี่ยวเฉิงอย่างเดียวก็สามารถส่งใครสักคนลอยกระเด็นออกไปได้แล้ว
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งก็พลันกระโดดเกาะหลังและพยายามที่จะบีบคอของเสี่ยวเฉิงให้ตาย แต่ภายในเสี้ยววินาที เสี่ยวเฉิงก็พลันคว้าแขนของชายคนนั้นและเหวี่ยงเขาลงบนพื้นพร้อมกับซัดหน้าไปหนึ่งที ชายอันธพาลพลันจมูกหักและกรามเบี้ยวจนต้องร้องตะโกนโอดครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด
หลังจากนั้นไม่นาน ชายอีกเจ็ดคนก็พลันกระโดดเข้าไปหาเสี่ยวเฉิงที่กำลังนั่งคุกเข่าข้างเดียว เสี่ยวเฉิงก็พลันรีบลุกขึ้นยืนและคำรามเสียงดังออกมา ใครก็ตามที่พุ่งตัวเข้าไปหาเสี่ยวเฉิงก็พลันถูกถีบจนกระเด็นออกไปหมด
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งที่ถือท่อนเหล็กก็พลันพุ่งเข้ามาหาเสี่ยวเฉิงจากทางด้านหลัง ทว่า เสี่ยวเฉิงก็พลันยกแขนขึ้นมากันเอาไว้จนทำให้ท่อนเหล็กเสียรูปทรง
เสี่ยวเฉิงพลันขมวดคิ้วและรู้สึกถึงความเจ็บปวด จากนั้นไม่นาน เขาก็คว้าท่อนเหล็กและโยนมันทิ้งไป ทว่า ชายอันธพาลที่ถือท่อนเหล็กเองก็ลอยออกไปนอกเวทีพร้อมกับท่อนเหล็กด้วย
หลังจากนั้น เสี่ยวเฉิงก็พลันเตะสกัดขาชายอีกสามคนที่พุ่งเข้ามา ทั้งสามพลันตะโกนออกมาอย่างน่าเวทนาและล้มลงไปนอนกับพื้นพร้อมกับกระดูกขาที่หักในทันที
ถึงอย่างไร เสี่ยวเฉิงก็ดูจะสะใจไม่น้อยที่ได้เห็นอันธพาลตรงหน้านอนจมกองเลือด
ทั้งนี้ เหล่าอันธพาลของแก๊งเต่าดำแต่ละคนต่างก็เป็นกลุ่มอาชญากรที่ทำลายทั้งชีวิตของผู้คนมาแล้วนับไม่ถ้วน พวกเขาก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้ง ผู้คนในเมืองทุกคนก็ทนกับพวกเขามานานมากเกินพอแล้ว
และด้วยความที่เสี่ยวเฉิงได้รับโอกาสในวันนี้ เขาจึงไม่รังเกียจที่จะคว้ามันมาเพื่อสั่งสอนบทเรียนสุดหฤโหดให้แก่พวกแก๊งเต่าดำทุกคน เช่นเดียวกับวิธีการที่เสี่ยวเฉิงมักจะทำตอนยังอยู่ในกองทัพ ใครก็ตามที่ใช้เหตุผล เขาก็จะคุยดีด้วย แต่ถ้าใครอยากจะใช้กำลัง เสี่ยวเฉิงเองก็พร้อมที่จะโต้กลับด้วยการใช้กำลังเช่นกัน!
มาดูเถอะว่าใครจะโหดกว่ากัน?!
ภายในเวลาเพียงสิบนาที ความวุ่นวายในสนามกีฬาก็ใกล้จะจบลงแล้ว รอบตัวเสี่ยวเฉิงพลันมีแต่พวกอันธพาลที่กำลังนอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดและหมดสติอยู่หลายร้อยคน นอกจากนี้ เหล่าอันธพาลของแก๊งเต่าดำที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของเวทีก็พลันจ้องมองมายังเสี่ยวเฉิงด้วยความโกรธ และความกลัวด้วย… แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะกลัวกันมากกว่า
ถึงกระนั้น ทั้งใบหน้าและร่างกายของเสี่ยวเฉิงก็พลันเปื้อนเลือดเช่นกัน และเลือดเหล่านั้นต่างก็มาจากพวกอันธพาลที่นอนรวมกันอยู่บนพื้น ไม่นานนัก เสี่ยวเฉิงก็พลันกล่าวคำพูดด้วยเสียงหอบหนักกับเหล่าอันธพาลที่เหลืออยู่ “ไม่เอาน่า เข้ามาสิ! พวกนายไม่ชอบใช้กำลังหรือยังไงกัน?! พวกนายไม่สนกฎหมายกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือยังไง?! ยังไงก็เถอะ สำหรับวันนี้ เรามาซัดกันแบบไม่ต้องสนกฎหมายเถอะ! แล้วก็อย่าวิ่งหนีกลับบ้านไปนั่งร้องไห้กับแม่ตัวเองด้วยล่ะ!”
ทว่า อีกฝ่ายเองก็พลันหวาดกลัวเสี่ยวเฉิงไม่น้อย ทุกคนต่างก็อยากจะพุ่งเข้าใส่ แต่พวกเขาก็กลับใจไม่กล้าพอ ทุกคนพลันมองหน้ากันและเริ่มรู้สึกถึงความกังวล
และสำหรับตอนนี้ ตำรวจหน่วยพิเศษชุดใหญ่ก็พลันกรูกันเข้ามาล้อมสนามกีฬาเอาไว้หมดแล้ว ทุกคนมีอาวุธปืนครบมือพร้อมกับเล็งเป้าไปยังพวกอันธพาลของแก๊งเต่าดำ
“วางอาวุธลงเดี๋ยวนี้!” หรานจิงพลันตะโกน
อันที่จริง ดูเหมือนว่าพวกเหล่าอันธพาลจะไม่กล้าพุ่งเข้ามาโจมตีเสี่ยวเฉิงเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ พวกอันธพาลตรงหน้าเองก็ไม่ต่างอะไรกับชายหนุ่มเลือดร้อนที่ชอบการต่อสู้ เมื่อคิดถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหากพุ่งเข้าไปหาเสี่ยวเฉิงแล้ว พวกเขาก็พลันลังเล อีกอย่าง พวกเขาเองก็กลัวเสี่ยวเฉิงอยู่แล้วด้วย ถึงแม้มันจะมีคำว่าศักดิ์ศรีค้ำคอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็เถอะ
ทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะยอมแพ้ เสี่ยวเฉิงก็พลันรู้สึกได้ถึงพลังงานที่กำลังจะหมดลง เขาพลันนั่งคุกเข่าพร้อมกับอ้าปากกว้างและหอบหนัก
แต่ทว่า ทันทีที่เสี่ยวเฉิงล้มลงท่ามกลางผู้คนมากมาย ปรมาจารย์หยานก็พลันเอื้อมมือไปหยิบมีดสั้นจากอันธพาลคนหนึ่งที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่ขึ้นมาและพุ่งตรงไปยังเสี่ยวเฉิง หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พลันใช้พละกำลังเฮือกสุดท้ายแทงมีดสั้นเข้าไปที่เสี่ยวเฉิงทันที!
“เสี่ยวเฉิง! ระวัง!” หลินจื้อซือและเซินเหยาที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็รีบตะโกนเสียงดังขึ้นมา
ทว่า เสี่ยวเฉิงในตอนนี้ก็พลันรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจมากเกินไป… ในระหว่างเขาหันกลับมา ปรมาจารย์หยานก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว เสี่ยวเฉิงพลันรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกอยู่ตรงกลางท้อง และในตอนนี้ มีดสั้นก็ได้เสียบลึกเข้าไปในตัวของเสี่ยวเฉิงเรียบร้อยแล้ว
ชึก!
ทันใดนั้น หรานจิงก็พลันลั่นไกไปยังเวทีทันที ปรมาจารย์หยานพลันล้มลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมเผยยิ้ม “ตายไปพร้อมกับแก๊งเต่าดำเสียเถอะ…”
หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาที เสี่ยวเฉิงก็พลันตัวแข็งทื่อและไม่สามารถขยับตัวได้
ไม่นานนัก เสี่ยวเฉิงก็พลันทิ้งตัวลงไปบนพื้น เขามองไปยังเพดานของสนามกีฬาพร้อมกับหมดสติไป…
***