ตอนที่ 8: นักแม่นปืนกับความแม่นยำ
หรานจิงสัมผัสได้ถึงออร่าแห่งความโกรธของทั้งสอง เธอรู้ดีว่าทั้งคู่มาจากสายงานเดียวกัน มันจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรมากนัก “ทั้งสองคน… หยุดได้แล้ว!”
หลี่ต้าจวงหันกลับมา “ฉันบอกแล้วไงว่าจะปกป้องเธอเอง เธอปฏิเสธรักฉันได้ แต่เธอปฏิเสธสิ่งที่ฉันเต็มใจที่จะทำเพื่อเธอไม่ได้หรอก”
หรานจิงพูดอะไรไม่ออก
จากนั้น หลี่ต้าจวงก็มองไปยังเสี่ยวเฉิง “แกอ่อนแอกว่าฉันแน่นอนในเรื่องความแข็งแกร่ง แล้วก็ในการต่อสู้ ตำรวจกระจ้อยร่อยอย่างแกคงเอาชนะฉันไม่ได้แน่ ไหนจะเรื่องทักษะทางวิชาชีพอย่างอื่นด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้แกมีข้อแก้ตัวต่อความพ่ายแพ้ มาแข่งในเรื่องทักษะพื้นฐานที่เราทั้งคู่มีประสบการณ์เหมือนกันดีกว่า!“
“แล้วอะไรล่ะ?” เสี่ยวเฉิงกล่าว
“การประกอบปืน” หลี่ต้าจวงพูดขึ้น
จากนั้น เขาก็หยิบปืนพกออกมาจากซองหนังข้างเอว “ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ การรู้วิธีประกอบปืนถือเป็นทักษะพื้นฐานที่ทุกคนต้องได้เรียนรู้มาแล้ว ปืนเป็นส่วนหนึ่งของเรา และเราจะแข่งขันกันว่าใครรู้จักปืนของตัวเองดีกว่ากัน”
ไม่ช้า เสี่ยวเฉิงก็รู้สึกอึดอัดใจ เขายังไม่ได้รับใบอนุญาตปืนแล้วก็อาวุธปืนเลยด้วยซ้ำ…
“ฉันไม่มี…” เสี่ยวเฉิงตอบกลับ
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องแข่งกัน!” หรานจิงพูดแทรกขึ้นมา “เขาไม่ได้พกปืนด้วยซ้ำ ความสามารถของเขาคงไม่เท่าสมาชิกหน่วยสวาทอย่างนายหรอก นี่เป็นการแข่งขันที่ไร้สาระสิ้นดี!“
จากนั้น หรานจิงก็เดินไปดึงเสี่ยวเฉิงออกมา
หลี่ต้าจวงรู้ดีว่าเขาไม่สามารถต่อต้านคำพูดของหรานจิงได้ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดประชดเสี่ยวเฉิงด้วยความรังเกียจ “งั้นนายก็คงจะไม่ได้แข่งกับฉันอีกต่อไปแล้วแหละ ก็คงเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังผู้หญิงอยู่แบบนั้น หรานจิง ถ้าเธอชอบผู้ชายแบบนี้ ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน เขามันไร้ประโยชน์ ไม่แปลกใจเลยที่มันเป็นได้แค่ตำรวจภูมิภาค ไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับพวกเรา”
หรานจิงขมวดคิ้ว “หลี่ต้าจวง อย่ามาทำตัวทุเรศแถวนี้! พวกเราทุกคนก็เป็นตำรวจ มันต่างกันตรงไหน?!“
เสี่ยวเฉิงเองก็ไม่ได้อยากจะมีปัญหา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ตอบโต้กลับหากมีคนมาทำให้เขาต้องอับอายแบบนี้ เขาอาจจะไม่ใช่เสี่ยวเฉิงคนเดียวที่ทำให้กองทัพต้องพบเจอกับความโกลาหลก็ได้
แม้ว่าของเหลวทางพันธุกรรมบัดซบนั่นจะทำให้ความแข็งแกร่งของเสี่ยวเฉิงลดลง แต่พลังระดับ C ของเสี่ยวเฉิงก็มากเกินพอแล้วที่จะจัดการกับเจ้าหน้าที่ระดับ D อย่างหลี่ต้าจวง
เสี่ยวเฉิงหันกลับมาและจ้องมองไปยังหลี่ต้าจวง ทั้งสองเป็นคนที่ค่อนข้างสูง ถึงอย่างไร เสี่ยวเฉิงเองก็ไม่สะทกสะท้านกับการเผชิญหน้าสมาชิกหน่วยสวาทเลยแม้แต่น้อย “ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตำรวจหน่วยพิเศษจะเก่งแค่ไหน อยากจะแข่งอะไรก็เอาเลย ใครหนีจะถือว่าเป็นพวกกระจอก!”
หลี่ต้าจวงขยับเข้าไปใกล้กับใบหน้าของเสี่ยวเฉิง “แน่จริงก็เอาสิ”
“เสี่ยวเฉิง อย่าไปยั่วเขา… หน่วยสวาทมันคนละระดับกับพวกเรา” หรานจิงกล่าว
เสี่ยวเฉิงไม่ได้สนใจที่เธอพูด เขาเดินตามหลี่ต้าจวงไปยังสนามฝึกฝนภายในอาคารกรมสอบสวน ภายในนั้นมีอุปกรณ์การฝึกซ้อมทุกชนิดรวมทั้งเวทีชกมวยและสนามยิงปืน
ทั้งสองมาถึงที่โต๊ะทำงาน หลี่ต้าจวงหยิบปืนพกของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งออกมาและยื่นให้เสี่ยวเฉิง จากนั้น ทั้งสองก็เริ่มถอดชิ้นส่วนปืนออก ทันใดนั้น หลี่ต้าจวงก็กล่าวคำพูดขึ้น “ทันทีที่ฉันพูดว่าเริ่ม… มาดูกันว่าใครจะประกอบปืนได้เร็วที่สุด แล้วเราก็ต้องหมุนตัวไปยิงเป้าหมายในระยะสามสิบเมตร เราไม่ได้จะแข่งกันประกอบปืนอย่างเดียว แต่เรายังแข่งว่าใครเป็นนักแม่นปืนด้วย!“
หรานจิงพลันบ่นออกมา “ไม่ยุติธรรมเลย หลี่ต้าจวง นายมาจากหน่วยสวาทนะ! นายฝึกเรื่องแบบนี้มาเป็นร้อยครั้งได้แล้วมั้ง แค่นี้เสี่ยวเฉิงก็เสียเปรียบแล้ว!”
“ก็เขาเป็นคนบอกเองนี่ว่าใครหนีจะถือว่าเป็นพวกกระจอก!” เขามองไปยังเสี่ยวเฉิงและเผยยิ้มเยาะเย้ย
เสี่ยวเฉิงมองกลับไปพร้อมกล่าวคำพูดออกมา “ถ้าฉันแพ้ นายจะแค่ให้ฉันขอโทษหรานจิงใช่ไหม?”
“ไม่ใช่แค่นั้นสิ ฉันอยากให้นายอยู่ห่างจากเธอด้วย!”
“แล้วถ้านายเป็นฝ่ายแพ้ล่ะ?” เสี่ยวเฉิงถาม