หลี่ต้าจวงกล่าวด้วยความรังเกียจ “นายคิดว่าฉันจะแพ้? อยากลองเดินไปถามคนอื่นว่าฉันเก่งขนาดไหนไหมล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงถามซ้ำอีกครั้ง “แล้วถ้านายเป็นฝ่ายแพ้ล่ะ?”
“ถ้าฉันแพ้ ฉันจะเรียกนายว่าลูกพี่เลย เอาสิ!”
เสี่ยวเฉิงเผยยิ้ม “งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า!”
เพื่อนร่วมงานสองคนข้างสองคนข้างหลี่ต้าจวงเริ่มนับถอยหลัง “สาม… สอง… หนึ่ง!”
ทันทีที่ทั้งสองนับเสร็จ เสี่ยวเฉิงก็หยิบชิ้นส่วนปืนขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้าง ในขณะที่หลี่ต้าจวงเริ่มต้นด้วยการหยิบชิ้นส่วนด้วยมือข้างเดียว หลี่ต้าจวงใช้เวลาสองวินาทีในการใส่ท่ออัดลม ในทางกลับกัน การเคลื่อนไหวโดยรวมของเสี่ยวเฉิงเองก็ไม่ได้เร็วขึ้นมากนัก แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือเสี่ยวเฉิงสามารถหยิบชิ้นส่วนอย่างน้อยสามชิ้นขึ้นมาพร้อมกันและประกอบให้เสร็จสมบูรณ์ในขั้นตอนเดียวด้วยเวลาเพียงสองวินาทีเท่านั้น! นั่นหมายความว่าภายในระยะเวลาเดียวกัน เขาไปเร็วกว่าหลี่ต้าจวงถึงสามเท่า! ทันทีที่เห็นเช่นนั้น หลี่ต้าจวงก็พลันเบิกตากว้างจนลูกตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า เขาเริ่มเร่งการเคลื่อนไหวของมือตัวเองเช่นกัน แต่ทว่า กลับน่าเสียดายที่สมาธิของเขานั้นตามมือของตัวเองไม่ทันเลย
ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงก็รีบหยิบชิ้นส่วนสามชิ้นสุดท้ายและนำมาประกอบเข้าด้วยกันจนเป็นปืนได้สำเร็จ กระสุนทั้งหกนัดถูกผลักเข้าไปในที่ใส่กระสุนอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงดัง “กึก” และด้วยการเลื่อนสไลด์ปืนพกอย่างรวดเร็ว เสี่ยวเฉิงพลันยกปืนขึ้นและเล็งไปยังเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปสามสิบเมตรและยิงจนกระสุนหมด! ทั้งหมดถูกยิงด้วยมือข้างเดียว!
ไม่ต้องพูดถึงความแม่นยำเลย เพียงแค่ขั้นตอนการประกอบปืนที่คล่องแคล่วและประสิทธิภาพของเสี่ยวเฉิงก็สามารถบอกได้แล้ว
ทว่า หลี่ต้าจวงเองก็เพิ่งจะประกอบปืนเสร็จและยิงไปที่เป้าหมายตรงหน้าหกนัดด้วยสองมือ
หลังจากยิงกระสุนไปหกนัด หลี่ต้าจวงก็เผยหน้าซีดชาจนเกือบจะเป็นสีขาว ไม่ต้องพูดถึงผลลัพธ์จากการยิงเลย เขาแพ้ตั้งแต่ขั้นตอนการประกอบปืนแล้ว ไม่ได้ใกล้เคียงความเร็วและความเชี่ยวชาญของเสี่ยวเฉิงเลยแม้แต่น้อย
ท่าทีของหลี่ต้าจวงเปลี่ยนไป เขาเพียงแต่ภาวนาให้ตัวเองยิงเป้าให้แม่นกว่าเสี่ยวเฉิงเพื่อรักษาหน้าของตัวเองได้ก็เท่านั้น
เขาหันกลับไปและพบว่าเสี่ยวเฉิงกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างโต๊ะ
หรานจิงวิ่งไปถึงเป้ากระดาษ จากนั้นก็วิ่งกลับมา
หลี่ต้าจวงที่ต้องการจะรักษาหน้าของตัวเองพลันกล่าวคำพูดขึ้น “นายดูจะมีทักษะในการประกอบปืนเหมือนกันนี่ แต่ฉันเห็นการยิงของนายแล้วก็อดขำไม่ได้เลย ยิ่งยิงเร็วเกินไป มันก็จะส่งผลต่อความแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น ถ้าอยากจะยิงให้แม่น ก็ควรถือปืนด้วยสองมือที่ระดับไหล่จะดีกว่า ฉันเห็นนายยิงของไปหกนัดด้วยมือเดียว คงดูหนังมากไปสินะ…”
เสี่ยวเฉิงไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเพียงแค่สูบบุหรี่ต่อไป
ในตอนนั้นเอง หรานจิงก็มีเป้ากระดาษอยู่ในมือแล้ว เธอมองไปยังหลี่ต้าจวงราวกับไม่อยากจะประกาศผล
“เธอไม่รู้ความเก่งของฉันหรือยังไง? บอกมาเถอะน่า” หลี่ต้าจวงกล่าวอย่างเป็นกันเอง
หรานจิงยกเป้าของหลี่ต้าจวงขึ้นและกล่าวคำพูด “หนึ่งนัดโดนวงสีแดงห้าคะแนน สามนัดโดนวงสีน้ำเงินสามคะแนน สองนัดโดนวงสีเขียวสองคะแนน คะแนนรวมคือสิบแปดคะแนน!”
อีกอย่าง เป้าหมายนั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงยี่สิบเซนติเมตรเท่านั้น การยิงเป้าหมายที่มีพื้นที่แคบขนาดนี้แล้วโดนวงสีแดงถือเป็นอะไรที่น่าทึ่งพอสมควรถ้าเขาหรือเธอสามารถยิงเข้าเป้าจากระยะสามสิบเมตรโดยอาศัยเพียงแค่การมองศูนย์เล็งเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ผลลัพธ์นี้ก็ควรค่าแก่การที่หลี่ต้าจวงจะเอามาโอ้อวดได้แล้ว ด้วยความที่เป้ากระดาษเองก็มีขนาดเท่ากับศีรษะของคน มันเทียบเท่ากับความสามารถในการยิงหัวคนหกครั้งจากระยะสามสิบเมตรเลยด้วยซ้ำ!
แต่ทว่า สำหรับเป้าของเสี่ยวเฉิง…