ตอนที่ 84: ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว 2
“ยังไงก็เถอะ ตอนนี้ผมขอไปสะสางธุระอีกเมืองก่อนก็แล้วกัน” ผู้อํานวยการพลันหัวเราะและจากไป ถึงกระนั้น ก็ดูเหมือนว่าผู้อํานวยการจะมีความสุขไม่น้อย
หรานจิงพลันยืนอยู่ที่เดิมอย่างตกตะลึง เธอไม่ได้ทําอะไรเลยจริง ๆ แต่เธอกลับจะได้รับรางวัลใหญ่จากผู้อํานวยการอย่างนั้นหรือ?
ทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ หรานจิงก็พลันตระหนักได้ว่าเสี่ยวเฉิงเป็นคนที่มีนิสัยเหมือนเดิมตั้งแต่ต้น
ผู้ชายคนนี้เริ่มทําตัวลึกลับขึ้นเรื่อย ๆ
ในตอนนี้ ภายในห้องผู้ปวยเหลือเพียงแค่เซินเหยาและเสี่ยวเฉิงเท่านั้น เธอพลันลุกขึ้นและเดินตรงมาแตะที่แขนของเสี่ยวเฉิง “เลิกแกล้งทําเป็นหลับได้แล้วน่าตาบ้า! ตื่นสิ! ฉันรู้นะว่านายนอนไม่หลับ…”
“อ่า คงงั้นมั้ง” เสี่ยวเฉิงพลันหรีตาข้างหนึ่งและกล่าวคําพูดออกมา
“นายหลับไปตั้งนานแล้วนะ น่าจะกระปรี้กระเปร่าแล้วสิ” เซินเหยาพลันกลอกตามองไปยังเสี่ยวเฉิง
“แล้วเธอมาที่นี่เพื่อดูแลฉัน หรือมาเพื่อทรมานฉันกันล่ะเนี่ย? แถมยังไม่อยากให้ฉันนอนอีกจะให้อยู่คุยเป็นเพื่อนหรือยังไงกัน?” เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ
“ก่อนอื่น.. บอกฉันมาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่แรก? แล้วฉันจะให้นายนอน” เซินเหยาต้องการรู้เรื่องราวทั้งหมดอย่างเร่งด่วน “นายทําได้ยังไงกัน? ดูเหมือนว่านายจะรู้รายละเอียดภารกิจของพวกนักฆ่าทั้งหมดเลยนะ แถมยังรู้ซึ้งถึงแรงจูงใจและของคนพวกนั้นอีกด้วย นั่นมันน่าทึ่งมากเลยนะ!”
เสี่ยวเฉิงพลันขําแห้งออกมา “ไม่ต้องชมฉันขนาดนั้นก็ได้ ก็คนมันมีความเก่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วน่ะสิ”
อันที่จริง เสี่ยวเฉิงไม่รู้ว่าจะอธิบายออกมายังไง เขาจึงรีบกลบกลื่อนและเบี่ยงประเด็น
แต่ทว่า เซินเหยาเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหลอกล่อได้ง่ายขนาดนั้น เธอพลันขมวดคิ้วและกล่าวคําพูดออกมาอีกครั้ง “นายจะไม่บอกฉันงั้นเหรอ? ถ้านายไม่ยอมบอก ฉันจะขโมยเงินพนันทั้งหมดของนายไปใช้เองแน่”
ให้ตายเถอะ! เธอคิดจะเล่นสกปรกอีกแล้ว!
ไม่ช้า เสี่ยวเฉิงก็ชี้นิ้วไปที่ดวงตาทั้งสองข้างและกล่าวคําพูดขึ้น “ก็เพราะสายตาคู่นี้ยังไงล่ะ มันสามารถมองทะลุเห็นทุกสิ่งอย่าง นักฆ่าพวกนั้นหนีจากสายตาของฉันไปไม่ได้หรอก”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เซินเหยาก็พลันจ้องไปยังดวงตาของเสี่ยวเฉิงอยู่สักพัก “นายปัญญาอ่อนหรือเปล่าเนี่ย?” เธอเผยยิ้ม “ถ้านายไม่ยอมบอกความจริง ก็ไม่เป็น งั้นอย่าหวังว่าจะได้เงินคืนก็แล้วกัน!”
เสี่ยวเฉิงไม่รู้ว่าตนควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี “ไม่เอาน่า ฉันบอกไปแล้วไง แต่เธอกลับไม่เชื่อเองนี่”
“ยังไงก็เถอะ ถ้านายไม่อยากบอก ก็ไม่ต้องบอก” หลังจากนั้น ทันทีที่ตระหนักว่าตัวเองได้อยู่ ในห้องกับเสี่ยวเฉิงแบบสองต่อสอง เซินเหยาก็พลันเปลี่ยนเรื่องคุย “ว่าแต่… นายมีแฟนหรือยังล่ะ?”
“ถามทําไมกัน?” เสี่ยวเฉิงพลันมองไปยังเซินเหยาอย่างระแวง
“นายจะทําหน้าตาแบบนั้นไปทําไมกัน? ฉันไม่ได้จะปล้ำนายสักหน่อย!” เซินเหยาพลันจ้องมอง “ถ้านายไม่มี ฉันก็ว่าจะหาใครสักคนให้นายเอง”
“ไม่เป็นไร” เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ
เซินเหยาพลันรู้สึกกังวล “ยังไม่ทันบอกเลยว่าใคร แต่นายกลับปฏิเสธฉันก่อนแล้วเนี่ยนะ?”
“ไม่เป็นไร เรื่องนี้ฉันขอผ่านก่อนดีกว่า”
“แต่เธอสวยจริง ๆ นะ”
เสี่ยวเฉิงพลันส่ายหัว
” แถมเธอรวยด้วยนะ ถ้าได้คบกับเธอ นายจะกลายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดไปเลยล่ะ”
เสี่ยวเฉิงพลันส่ายหัวอีกครั้ง
“หุ่นเธอก็ดี แถมฉันว่าเธอน่าจะเข้ากับนายได้ด้วย”
เสี่ยวเฉิงส่ายหัวอีกครั้ง
ทันใดนั้น เป็นเหยาก็พลันเบิกตากว้าง “แถมเธอยังซิงอยู่ด้วยนะ!”
เสี่ยวเฉิงพลันครุ่นคิดอยู่สักพักและส่ายหัว “ ขอผ่านก่อนก็แล้วกัน”
ทันใดนั้น เป็นเหยาก็พลันตะโกนถามขึ้นมา “เสี่ยวเฉิง! นี่นายเป็นเกย์หรือเปล่าเนี่ย?! ไม่รู้จักความรักหรือยังไงกัน? อีตาบ้าเอ๊ย!”
“ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้วนะ” เสี่ยวเฉิงพลันกล่าวอย่างแผ่วเบา
ทันใดนั้น ใบหน้าของเซินเหยาก็พลันซีดลง เธอเผยแววตาที่ดูจะผิดหวังเล็กน้อยออกมา
ห้องเงียบพลันไปทันที
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เซินเหยาก็พลันรู้สึกขมขื่น แต่เธอก็ยังคงแสร้งว่าไม่เป็นไร “น่าเสียดายจังเลยนะ ลูกพี่ลูกน้องของฉันเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งเลยด้วยสิ ฉันก็แค่อยากให้นายกับเธอได้คบกัน เพราะฉันเองก็คิดว่านายก็เป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งเลยล่ะ แต่ถ้านายพูดออกมาแบบนั้น ก็ไม่เป็นไร”
ทันที่ที่พูดจบ เซินเหยาก็พลันรู้สึกเจ็บแปลบในใจ
“งั้นถ้านายมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ทําไมไม่ไปบอกเธอคนนั้นตรง ๆ เลยล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงพลันเผยยิ้มออกมาอย่างขมขึ้น “เพราะฉันคิดว่าตัวเองในตอนนี้ยังไม่คู่ควรกับเธอน่ะสิ”