ตอนที่ 10: คนสามประเภทที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วย
หลี่ต้าจวงรู้สึกโกรธไม่น้อยที่ชกเสี่ยวเฉิงไม่โดนเลยสักหมัด และทันทีที่เขาเห็นเสี่ยวเฉิงกวักมือท้าทาย มันก็ยิ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้นไปอีก
ทันทีที่ตะโกนโห่ร้องออกมาด้วยโทสะ เขาก็รีบพุ่งเข้าและเหวี่ยงหมัดใส่เสี่ยวเฉิงอย่างเต็มกำลัง เสี่ยวเฉิงรีบก้มหลบและกำหมัดแน่น จากนั้น เขาก็พุ่งหมัดลูกแรกตรงเข้าไปที่ท้องของหลี่ต้าจวงอย่างสุดแรง
ความเจ็บปวดนั้นทำให้ของเหลวในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาในลำคอจนหลี่ต้าจวงแทบจะอาเจียนออกมา
หลี่ต้าจวงรีบก้าวถอย เขาลูบท้องด้วยความอับอาย จากนั้นก็เหวี่ยงลูกเตะสุดแรงไปข้างหน้า ทว่า เสี่ยวเฉิงเองก็รีบยกเข่าขึ้นและสกัดการโจมตีเอาไว้ เขาก้มหัวและก้าวมาข้างหน้าพร้อมกับต่อยเข้าไปที่ท้องของหลี่ต้าจวงอีกครั้ง
เฮือก!
ทันใดนั้น ของเหลวที่สะสมอยู่ในลำคอของหลี่ต้าจวงพลันพุ่งออกมาในที่สุด
เขารีบเช็ดปากพร้อมเผยท่าทีที่เต็มไปด้วยความบ้าดีเดือด หลี่ต้าจวงรีบซัดหมัดกลับไปที่เสี่ยวเฉิง ทว่า ด้วยความว่องไว้ของเสี่ยวเฉิง เขาก็สกัดการโจมตีนั้นได้อีกครั้ง เสี่ยวเฉิงพลันหลบไปทางซ้ายและหลบไปทางขวาพร้อมพุ่งหมัดไปยังหน้าท้องของหลี่ต้าจวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
เฮือก!
คราวนี้ เขาอ้วกออกมาเป็นเลือด ลี่ต้าจวงเผยท่าทีราวกับว่านี่เป็นความเจ็บปวดที่เจ็บที่สุดที่เคยประสบพบเจอมา เขาถอยหลังกลับไปสองสามก้าว ทว่า เสี่ยวเฉิงก็รีบพุ่งเข้ามาต่อยตรงกลางท้องของเขาอีกครั้ง! มันเป็นการเหวี่ยงและพุ่งหมัดที่ว่องไวราวกับปีศาจ เทียบได้เลยว่าเสี่ยวเฉิงปล่อยหมัดไปที่หน้าท้องของหลี่ต้าจวงประมาณสี่หมัดต่อหนึ่งวินาที!
ท้ายที่สุด หลี่ต้าจวงก็ล้มลง แขนและขาของเขากระแทกกับพื้นเวทีจนเกิดเสียงดังลั่น ทุกคนที่เห็นเช่นนั้นรีบวิ่งขึ้นมาบนเวที หลี่ต้าจวงสู้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้นเอง หลี่ต้าจวงก็เงยหน้ามองไปที่เสี่ยวเฉิงพร้อมกล่าวคำพูดสุดดูถูกออกมา “แก… ต่อยเป็นแค่ท้องหรือยังไงกัน?!”
“อ่า ลืมบอกไป… ก็ฉันรู้อยู่ไม่กี่อย่างเองนี่” คำพูดของเสี่ยวเฉิงนั้นทำให้หลี่ต้าจวงพูดอะไรไม่ออก
ในตอนนั้นเอง หรานจิงพลันมองไปยังหลี่ต้าจวงที่ปากเต็มไปด้วยเลือด “นายไหวไหม?”
หลี่ต้าจวงคุกเข่าลงและพยายามไม่อาเจียนออกมา ระหว่างนั้น เพื่อนทั้งสองก็รีบวิ่งขึ้นมาบนเวทีเพื่อมาช่วย
ทันทีที่เสี่ยวเฉิงเห็นว่าตัวปัญหาถูกสั่งสอนแล้ว เขาก็พร้อมที่จะเดินออกไปจากยิม
เพื่อนร่วมงานทั้งสองยังคงตบหลังหลี่ต้าจวงเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก “ดูนี่สิ… นายเอาแต่อยากอวดดี เป็นยังไงล่ะ? สุดท้ายก็เป็นฝ่ายที่โดนยำเละเสียเอง”
เพื่อนร่วมงานอีกคนที่ยังคงตบหลังหลี่ต้าจวงอยู่ข้างกายพลันถอนหายใจ “นายทำสำเร็จแล้วเพื่อน เหมือนตัวร้ายปากดีในหนังที่ถูกพระเอกกระทืบเลย”
“พอแล้วได้ อย่าพูดให้เขารู้สึกแย่ไปกว่านี้เลย แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว รีบพาเขาไปโรงพยาบาลก่อนเร็วเข้า!”
หลี่ต้าจวงเผยร่างกายสั่นสะท้าน ความรู้สึกของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธและความเจ็บปวด “คิดว่าฉันโกรธเพราะแพ้งั้นเหรอ? ฉันโกรธที่แตะตัวไอ้บัดซบนั่นไม่ได้เลยต่างหากล่ะ! ทำไมกัน?! ทำไมถึงต่อยมันไม่โดนเลยสักหมัด?! ทำไม?! ความรู้สึกนั้น… มันแย่ยิ่งกว่าโดนวัวกระทิงพุ่งเข้าใส่เสียอีก! ฉันไม่เคยต้องเจ็บตัวขนาดนี้มาก่อน… อึก! อยากจะบ้าตาย!”
เพื่อนร่วมงานทั้งสองมองไปยังหรานจิงด้วยท่าทีที่แปลกไป “นี่… หรานจิง เธอแน่ใจว่าว่าบัตรประจำตัวตำรวจของไอ้หมอนั่นไม่ใช่ของปลอม?”
หรานจิงที่ยังคงตกตะลึงกับผลลัพธ์ตรงหน้าก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะตอบกลับไปอย่างไร
จากนั้น เธอจึงกล่าวคำพูดออกมา “เขาคงเบื้องหลังแหละ… แค่ได้เห็นฝีมือในการประกอบปืนแล้วก็ความแม่นยำในการยิง ชายคนนั้นต้องไม่ใช่แค่คนธรรมดาแน่”
…