ตอนที่ 46: หัวใจของฉันเป็นของคนอื่นไปแล้ว
อันที่จริง เสี่ยวเฉิงเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่างานแจกลายเซ็นของคนดังจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับเขาแล้ว มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าทั่วทั้งพื้นที่บริเวณนี้จะมีแต่ผู้คนพลุกพล่านเต็มไปหมด แฟนคลับแต่ละคนต่างก็กำลังยืนรอลายเซ็นจากหลินจื้อซือ
นอกจากนั้น เสี่ยวเฉิงเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าภายในเวลาแค่สามปี หลินจื้อซือจะสามารถพิชิตใจกลุ่มแฟนคลับได้มากมายขนาดนี้ได้ ในตอนแรก เสี่ยวเฉิงคิดเพียงแค่ว่าเธอคงจะรู้สึกไม่สบายใจหากต้องใช้ชีวิตร่วมกับตนที่เมืองหวาเซี่ย เขาไม่คิดเลยว่าหลินจื้อซือจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานมากกว่าที่เคยเป็นอยู่ หากไม่มีพิธีสมรส เธออาจจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้หรือเปล่า?
ทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมารวมตัวกันอยู่ด้านหลังเวที ผู้จัดการของบริษัทจัดงานก็พลันเดินเข้ามา “เร็วเข้า! รถของหลินจื้อซือใกล้จะถึงแล้ว รีบไปคุ้มกันเธอเลย”
ก้นของเสี่ยวเฉิงยังไม่ทันได้แตะพื้นเลย เขาก็ต้องถูกเรียกตัวไปปฏิบัติหน้าที่เสียแล้ว
เสี่ยวเฉิงพลันเผยหน้ามุ่ยและถามขึ้นด้วยความสับสน “แฟนคลับพวกนี้บ้าไปแล้วหรือยังไงกัน?”
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่มาจากหน่วยอื่นพลันหัวเราะและตอบกลับ “อ่า อัลบั้มที่สามของหลินจื้อซือดังมากเลยล่ะ มันเป็นอัลบั้มที่ดังตั้งแต่ก่อนจะได้วางจำหน่ายเสียอีก แล้วอีกอย่าง เธอเองก็แทบจะไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้มานานแล้วด้วย”
อันที่จริง เสี่ยวเฉิงพลันรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย ครั้นอดีต เสี่ยวเฉิงเคยอยู่แต่ในกองทัพจนแทบจะไม่ได้ออกมาทำอะไรนอกค่ายทหารเลย แต่ตอนนี้ การได้เห็นผู้คนมากหน้าหลายตารู้สึกชื่นชอบภรรยาของตนก็ทำให้เขารู้สึกขมขื่นจนมิอาจพรรณนาได้
หลังจากนั้นไม่นาน รถของหลินจื้อซือก็ขับตรงมา เหล่าบรรดาแฟนคลับที่เห็นต่างก็พลันเบิกตากว้างและส่งเสียงกรี๊ดพร้อมกับวิ่งตาม แต่โชคยังดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยควบคุมความเรียบร้อยทั้งหมดเอาไว้ได้
ถึงอย่างไร ดูเหมือนว่าบรรดาแฟนคลับจะเริ่มตะโกนเสียงดังและเบียดเสียดกันเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเองก็มิอาจควบคุมฝูงชนได้ทั้งหมด ทันทีที่ผู้กองเห็นเช่นนั้น เขาก็พลันตกใจและรีบตะโกนเรียกเสี่ยวเฉิงที่กำลังยืนนิ่งอยู่ทันที “ทำไมนายเอาแต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นล่ะ ไปคุ้มกันคุณหลินจื้อซือเร็วเข้า!”
ทันใดนั้นเอง หญิงสาวที่สวมรองเท้าส้นสูงสีแดงก็พลันเดินลงมาจากรถ ท้ายที่สุดแล้ว หลินจื้อซือก็ออกมาปรากฏตัวต่อสายตาของสาธารณชน เธอสวมแว่นกันแดดและสองมือก็ถือชุดสีส้มเข้มเอาไว้อยู่ ทั้งนี้ การปรากฏตัวของเธอนั้นสามารถเรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนคลับได้อย่างทันที
ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเฉิงก็วิ่งเข้ามาจากทางด้านหลังของเวทีแจกลายเซ็นและคุ้มกันเธอเอาไว้ บรรดาแฟนคลับทุกคนต่างก็พยายามเบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อที่จะได้เข้าใกล้หลินจื้อซือ นั่นทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนคุมอยู่ทั้งสองฝั่งข้างเวทีเกือบล้มลง
ระหว่างที่กำลังเดินก้มหัว หลินจื้อซือก็พลันยกแขนอันบอบบางและขาวนวลดุจหิมะขึ้นพร้อมโบกมือให้กับเหล่าแฟนคลับ
“หลินจื้อซือ!”
“เจ้าหญิงหิมะของฉัน!”
ฝูงชนต่างพากันตะโกนเรียกชื่อเธอ
ทั้งนี้ แฟนคลับหลายต่อหลายคนก็พยายามยื่นมือเข้ามาสัมผัสเธอ และด้วยเหตุนั้น เครื่องแบบของเสี่ยวเฉิงก็เต็มไปด้วยรอยรอยขีดข่วนที่มาจากมือของบรรดาแฟนคลับทั้งสองข้างทาง ในตอนนี้ เสี่ยวเฉิงเองก็กำลังทำตัวเป็นเหมือนเกราะกำบังให้กับหลินจื้อซืออยู่
ในตอนนั้นเอง หลินจื้อซือที่หลบฝูงชนอยู่ด้านหลังก็พลันจำเสี่ยวเฉิงได้ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็แกล้งกล่าวคำตำหนิออกมา “ถ้าพวกแฟนคลับพุ่งเข้ามาแตะเนื้อต้องตัวฉันได้ ฉันจะไปฟ้องหัวหน้านายแน่”
เสี่ยวเฉิงพลันกลอกตา “นี่แกล้งกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย? อีกอย่าง มีตั้งหลายที่ให้จัดงานแจกลายเซ็น แล้วทำไมต้องเลือกเมืองซ่างด้วยล่ะ? ยังไงก็เถอะ ขอบคุณเธอมากเลยนะ ตอนนี้ทั้งหน้าอกแล้วก็ชุดฉันมีแต่รอยขีดข่วนเต็มไปหมดแล้วเนี่ย”
หลินจื้อซือพลันเผยเสียงหัวเราะออกมา “ก็ได้ งั้นฉันจะไปบอกคนจัดงานให้ยกเลิกแจกลายเซ็น แล้วก็จะบอกด้วยว่าชายที่ชื่อเสี่ยวเฉิงไม่ต้องการให้ฉันมาจัดงานที่นี่…”
เสี่ยวเฉิงพลันขมวดคิ้ว “ให้ตายเถอะ พูดไม่ออกเลย”
ทันทีที่พาหลินจื้อซือไปอยู่หลังเวทีได้แล้ว เสี่ยวเฉิงก็พลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากนั้นไม่นาน เขารีบถอดเครื่องแบบออกทันที ท้ายที่สุดแล้ว หน้าอกของเสี่ยวเฉิงก็เต็มไปด้วยรอยถลอกและแดงไปหมด
ไม่นานนัก ทั้งช่างแต่งหน้าและช่างทำผมก็พลันวิ่งเข้ามาและโบกมือให้เสี่ยวเฉิง “คุณไปได้แล้วแหละค่ะ หน้าที่ของคุณเสร็จแล้ว”
ทันทีที่พูดจบ พวกเขาก็พาชายหนุ่มสุภาพบุรุษคนหนึ่งเข้ามาและเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวของหลินจื้อซือ
ทันทีที่เสี่ยวเฉิงหันกลับไป เขาก็พลันเหลือบไปเห็นผู้ช่วยสาวของหลินจื้อซือ ผู้ช่วยแลงค์!