บทที่ 385
บทที่ 385
หลังจากมองเห็นกองทัพของพวกหนิงที่ผสมกับพวกเปิง อู่กวนก็ตะลึงแล้วคิดว่ามันแปลกมาก ว่ากันตามตรงเมืองหวังไม่น่าจะมีกองกำลังเยอะขนาดนี้ เขาครุ่นคิดก่อนบอกจ้านหู “กลับกันก่อนเถอะ”
“อะไรล่ะ ? จะกลับแล้วหรือ ?” จ้านหูมองเขาด้วยความผิดหวัง
“กลับไปจุดซุ่มโจมตีต่างหาก” อู่กวนถอยกลับพร้อมกับพูด “นายท่านสั่งไว้ว่าไม่ว่าศัตรูจะมากแค่ไหนก็ให้เข้าโจมตีได้เลย”
จ้านหูพยักหน้าให้แล้วตามอีกฝ่ายไปทันที นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาร่วมมือกัน ทั้งสองเคยร่วมงานกันมาก่อนตอนลอบเข้าเมืองหยานมาแล้ว
เมื่อพวกเขาถอยกลับไปยังจุดซุ่มโจมตีแล้ว พวกทหารที่ซ่อนตัวอยู่ก็เห็นแม่ทัพที่กลับมาเริ่มพูดคุยอะไรบางอย่างกัน
อู่กวนมองพวกเขาแล้วพูด “พวกมันอยู่ใกล้กับเรามาก พวกเจ้าจงฟังคำสั่งแล้วตามข้าออกไปทันที เข้าใจไหม ?”
“รับทราบท่านแม่ทัพ !” พวกทหารพูดอย่างพร้อมเพรียง
อู่กวนคลานออกไปชะโงกหน้าดูลาดเลา
หลังจากผ่านไปสักพักกองทัพผสมของพวกหนิงและพวกเปิงก็มาถึงเส้นทางหลัก และเพราะทหารศัตรูมีมากเกินไป จึงทำให้อู่กวนต้องรอจังหวะที่เหมาะสม แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่าในกองทัพอีกฝ่ายมีชาวบ้านผสมอยู่ด้วย
อู่กวนไม่รู้ว่าซ่งเทียนกำลังเคลื่อนทัพลงไปทางใต้และคิดว่าอีกฝ่ายจัดฉากให้ดูเหมือนว่าจะมีกองทัพมากมาย เขาหัวเราะในใจแล้วหันไปส่งสัญญาณกับทุกคนให้เตรียมพร้อมการโจมตี
เมื่อเห็นสัญญาณ พวกแม่ทัพนายกองและทหารก็พากันจับอาวุธในมือ ก่อนที่อู่กวนจะสูดหายใจแล้วพยักหน้าให้จ้านหู
อู่กวนไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาชักดาบออกมาแล้วตะโกนลั่น “ตามข้ามา !”
“โอ้ว !”
อู่กวนและจ้านหูพุ่งตัวออกไปข้างหน้า พร้อมกับกองทัพอีก 5 หมื่นนายที่พุ่งออกไปพร้อมเสียงตะโกนปลุกใจ
การซุ่มโจมตีที่ไม่คาดคิดนี่ทำให้พวกหนิงและพวกเปิงทำอะไรไม่ถูกโดยเฉพาะพวกเปิงที่ยืนนิ่งอยู่นาน
เมื่อพวกหนิงเห็นว่าอีกฝ่ายใส่หมวกสีดำ พวกเขาก็รู้แล้วว่าถูกซุ่มโจมตี พวกแม่ทัพจึงสั่งให้จัดตั้งรูปขบวนเตรียมรบทันที พวกทหารแนวหน้าสุดถือหอก และแนวหลังก็ใช้ธนูเตรียมยิงใส่พวกที่กำลังพุ่งเข้ามา
ฟิ้ว ! ห่าฝนธนูมากมายพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วย้อยลงมาใส่พวกทหารของอู่กวน
อู่กวนและจ้านหูที่อยู่หน้าสุดใช้เกราะปราณป้องกันเอาไว้ได้
ก่อนที่จ้านหูจะคำรามลั่นออกมาแล้วใช้ค้อนพุ่งออกไปพลางใช้วิชายุทธ์ของตัวเอง
คลื่นปราณกระจายเข้าใส่ลูกธนูที่อยู่บนฟ้า เข้าทำลายมันจนหมดสิ้น และแม้จะมีบางส่วนเหลืออยู่ แต่มันก็ไม่สามารถทำอันตรายพวกเขาได้อีก ก่อนที่ทั้งสองจะได้มุ่งหน้าต่อ
ตำแหน่งของพวกเขาอยู่ใกล้ และด้วยความเร็วที่มากเกินจะหยุดได้ เลยทำให้พวกหนิงไม่สามารถเตรียมลูกธนูชุดใหม่ได้ทันเวลา
อู่กวนตะโกนออกมา “ฆ่ามัน !”
เพียงพริบตาพวกทหารก็ถูกฟันขาดครึ่งไป 5 คน พวกเขาตัวขาดเป็นชิ้น ๆ ทั้งเครื่องใน แขน ขา หัว กระจายไปทั่วบริเวณ
“หา ?”
จ้านหูเหวี่ยงค้อนยักษ์ออกไป ทำให้พวกทหารที่อยู่ด้านหน้าถูกทุบจนกระดูกหักไม่เหลือชิ้นดี
การโจมตีของจ้านหูทำให้เกิดความวุ่นวายมาก ส่วนอู่กวนที่เข้ามาใกล้ก็ทำให้พวกหนิงทำอะไรไม่ถูก ด้วยพลังปราณของเขามีไม่น้อยไปกว่าจ้านหูเลย และแม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่า แต่ดาบในมือของเขาก็รวดเร็วและทรงพลังเป็นอย่างมาก
พวกเขาฝ่าทะลวงกองทหารเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้พวกหนิงไม่สามารถยิงธนูได้แล้ว ….จนไม่นานนักพวกอู่กวนก็เข้ามาถึงกองทัพหลัก
กองทัพหนิงและเปิงไม่มีทหารมากมายคอยสนับสนุนการป้องกันที่มากพอ ดังนั้นพวกชาวเมืองที่ตามซ่งเทียนมาเมื่อเห็นทหารเหล่านี้ที่กำลังพุ่งเข้ามาก็พากันกรีดร้องแล้ววิ่งหนีหายไป ทำให้การเคลื่อนไหวของกองทัพวุ่นวายยิ่ง
ยิ่งวุ่นวายมากเท่าไหร่กองทัพเทียนหยวนก็ยิ่งได้ใจมากเท่านั้น กองทัพของอู่กวนและลูกน้องเขาสามารถตีแนวรบของพวกเปิงให้กระเจิงไป “ลองรับการโจมตีของข้าดู !
แม่ทัพหนิงที่มีดาบปราณพุ่งเข้ามาหาอู่กวนและจ้านหู โดยไม่รอช้าจ้านหูก็เหวี่ยงค้อนไปข้างหน้าทำให้อีกฝ่ายต้องผงะ
และเมื่อม้าของอีกฝ่ายถอยหลบกลับมา จ้านหูก็ไม่รอช้า เปลี่ยนการโจมตีเป็นกระแทกเข้าใส่ที่ซี่โครงของแม่ทัพหนิงอย่างไว
ก๊อง !
แม่ทัพหนิงตะลึง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรวดเร็วและมีพละกำลังได้ขนาดนี้ จึงได้แต่ยกดาบขึ้นมาปัดป้องเอาไว้
เคร้ง ! ค้อนของจ้านหูปะทะเข้ากับดาบจนทำให้หม่าเฮิงและแม่ทัพคนอื่นกระเด็นออกไปไกลและร่วงลงบนพื้นพร้อมกัน
“ตายเสีย !”
จ้านหูหัวเราะออกมา ก่อนที่จะยกค้อนขึ้นมองหาคู่ต่อสู้คนใหม่ ทว่าแม่ทัพหนิงผู้นั้นกลับลุกขึ้นมาจากพื้น ทำการปัดฝุ่นบนร่างกายตัวเอง จนจ้านหูตะลึงและคิดว่าชายคนนี้รับมือไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้ว
เมื่อแม่ทัพหนิงสะบัดฝุ่นออก เขาก็พลันจับดาบยกชูขึ้นชี้ไปยังจ้านหู “เร็วเข้าทุกคน !”
จ้านหูตะลึง เขาต่อสู้มาหลายศึก แต่ก็ไม่เคยคนที่ฟื้นตัวเองได้เร็วขนาดนี้
“ข้าคือจ้านหู เจ้าเป็นใคร ?” เขาถาม
“จ้านอู่ตี้ !”
“เจ้าคือจ้านอู่ตี้งั้นหรือ ?” จ้านหูยิ้มออกมาแล้วเหวี่ยงค้อน “วันนี้แหละข้าจะเด็ดหัวของเจ้าออกไปให้นายท่าน !”
จ้านอู่ตี้โกรธจัดที่อีกฝ่ายคิดว่าเขาจะถูกจัดการโดยง่าย จึงได้หัวเราะออกมา “งั้นข้าก็จะตัดหัวหมารับใช้เช่นเจ้าด้วย !”
ทั้งสองเข้าปะทะกันอีกครั้ง
ดาบเล่มใหญ่และค้อนปะทะกันหลายครั้งอย่างไม่หยุดหย่อน เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ จนปราณกดดันที่ปล่อยออกมาทำให้พวกทหารหนีกระเจิงไปรอบ ๆ …ในรัศมีรอบตัวพวกเขาแทบจะกลายเป็นสุญญากาศที่มีฝุ่นและทรายกระเด็นตลอดเวลา
จ้านอู่ตี้มีพลังที่มากกว่าจ้านหู แต่พละกำลังกลับน้อยกว่า ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถใช้กำลังเข้าต่อสู้ได้และหันมาพึ่งพลังปราณแทน แต่จ้านหูเองก็มีทักษะการต่อสู้ที่เหนือกว่าอู่ตี้เช่นกัน
อู่กวนกำลังจะเข้าไปช่วยจ้านหูอยู่แล้ว แต่เขาก็เห็นธงของพวกซ่งเทียนอยู่ไม่ไกลออกไป และแม้ว่าอู่กวนจะบ้าดีเดือด แต่เขาก็ไม่ใช่คนงี่เง่า หลังจากวิเคราะห์สถานการณ์แล้วก็รู้ได้ทันที ว่ากองทัพที่มีประชาชนพร้อมด้วยชนชั้นสูงมากมายนี่มันไม่ใช่กองทัพ แต่เป็นเพราะว่าซ่งเทียนยอมปล่อยเมืองหวังแล้วหนีไปยังเมืองเฟ่ย !!!
คิดได้แบบนั้นเขาก็ตะโกนบอกจ้านหู “ข้าจะไปจับแม่ทัพศัตรู !” จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าไปหาพวกเปิงทันที
ตอนแรกมีแต่พวกทหารหนิงที่ขวางทางเขา แต่เมื่อเข้าไปลึกขึ้นก็จะพบกับทหารเปิงมากมาย ซึ่งเมื่อเทียบกับพวกหนิงแล้ว พวกเปิงถือว่ากระจอกอ่อนแอมาก พวกเขาถูกสังหารตายไประหว่างทางมากมาย และทำให้ความเร็วในการตีฝ่าของอู่กวนมากขึ้นเรื่อย ๆ