บทที่ 260
บทที่ 260
ถังหยินหมดความอดทนที่จะรอแล้วจึงพูดขึ้น “มาดูพลังทำลายล้างของหน้าไม้นี่กันดีกว่า !”
“แน่นอนขอรับ” ซวนหวางรับคำ รีบโบกมือเรียกให้พวกทหาร 5 นายช่วยกันดึงรั้งสายออกมาจนทำให้เกิดเสียงดัง
จากนั้นซวนหวางก็เอาลูกศรที่แหลมคมออกมา 3 เล่มจากรถม้า เพื่อให้พวกทหารเอามันไปวางไว้บนรางคันศรของมัน ก่อนจะเล็งไปยังต้นไม้ใหญ่ แล้วก็เหนี่ยวไกในพลัน !!!
ศรทั้งสามพุ่งออกไปพร้อมกันปักทะลุต้นไม้ขนาดใหญ่ได้อย่างพร้อมเพรียง ซึ่งพลังทำลายล้างของมันก็รุนแรงมากเสียจนแทบจะไม่มีอะไรขวางกั้นมันได้
“หา ?” ในระยะที่ไกลขนาดนั้นต้นไม้ใหญ่ยังทะลุได้ แล้วจะนับประสาอะไรกับชุดเกราะของทหารธรรมดากับชุดเกราะปราณของผู้ฝึกยุทธ์ !
หน้าไม้ทลายกำแพงทำหน้าที่ได้สมกับชื่อของมัน ลองนึกสภาพลูกศรที่ถูกยิงออกจากรางไปยังแนวรบของศัตรูสิ ว่าจะทำให้อีกฝ่ายปั่นป่วนและเสียรูปขบวนไปมากขนาดไหน
ถังหยินมองผลงานของมันด้วยสายตาปลาบปลื้ม ก่อนจะนึงถึงปัญหาเรื่องขนาดที่ทำให้ยากต่อการขนย้าย และหลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เขาก็หันไปบอกกับซวนหวางว่า “ท่านซวน ลองทดสอบหน้าไม้ทลายเมืองดูบ้าง !”
นักประดิษฐ์ผู้นั้นรับคำแล้วยิ้มให้เขา “นายท่าน ข้าว่าการใช้ต้นไม้ทดสอบไม่สามารถแสดงถึงผลลัพธ์ของมันได้อย่างแท้จริง”
“ทำไมเล่า ?”
“พลังทำลายของมันรุนแรงเกินไป ต้นไม้พวกนี้ไม่อาจต้านรับได้ไหวเป็นแน่ ดังนั้นจึงควรใช้อย่างอื่น”
“ถ้างั้นท่านซวนคิดว่าข้าควรจะใช้อะไรดี ?”
“ใช้ภูเขาไม่ก็หินก้อนใหญ่ ๆ เถอะขอรับ”
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะพร้อมใจกันคิดว่าซวนหวางมั่นใจในตัวเองเกินไปแล้ว เพราะต่อให้หน้าไม้นี้จะทรงอำนาจแค่ไหน มันก็คงไม่อาจยิงทะลุก้อนหินใหญ่ได้ !
ซึ่งเมื่อถังหยินได้ยินแบบนั้น เขาก็พลันพูดถามกลับไปในทันทีด้วยสีหน้าไม่เชื่อใจ “ท่านซวนหมายถึงจะให้ยิงใส่ก้อนหินใหญ่หรือพวกภูเขางั้นหรือ ?”
“ถูกต้องขอรับ” ซวนหวางยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ
ถังหยินที่เห็นท่าทีแบบนั้น เขาก็หันไปบอกพวกทหารที่อยู่รอบ ๆ ในทันที “ดึงสายรั้งมันออกมา !”
“ช้าก่อน !” ซวนหวางร้องห้ามเอาไว้ “หน้าไม้ทลายเมืองนั้นจริง ๆ แล้วไม่ควรใช้คนดึงสายรั้ง แต่ควรจะใช้ม้า !”
ถังหยินตะลึงได้ไม่นาน ก่อนจะรีบร้องสั่งให้พวกทหารเอาม้ามาจัดให้ตามคำขอ พร้อมกับย้อนนึกถึงตอนที่ซวนหวางร้องขอให้เอาม้ามาด้วยอีกตัวเมื่อตอนนั้น !!
ซวนหวางไม่รอช้า สั่งให้ทหารพาม้าทั้ง 5 ไปคล้องกับเชือกที่เตรียมไว้ในทันที
กึก กึก กึก ! เมื่อม้าทั้งห้าถูกลงแส้ พวกมันก็พากันเดินไปข้างหน้าจนทำให้สายรั้งธนูง้างออกจนสุด ก่อนที่ซวนหวางจะอาศัยจังหวะนั้นในการใส่ลูกศรเข้าไป
ซึ่งศรครานี้มันก็หนามากกว่าศรอื่นทั้งหมด ด้วยมันมีขนาดเท่ากับท่อนซุงขนาดใหญ่ที่ต้องใช้คนหลายคนแบก
พวกทหารพากันวุ่นวายอยู่กับการวางลูกศรในตำแหน่งที่ถูกต้อง และเมื่อซวนหวางเข้ามาตรวจดูความเรียบร้อย เขาก็พลันส่งสัญญาณให้กับถังหยิน “นายท่าน ที่ท่านต้องทำก็เพียงแค่ตัดเชือก แล้วทุกอย่างก็จะดำเนินการเองขอรับ !”
ถังหยินเดินเข้ามา แล้วก้มมองเชือกตามที่อีกฝ่ายบอก ก่อนที่เขาจะโบกคมดาบในมือเพื่อตัดมันออกให้ขาดเป็นสองส่วน
ทันทีที่เชือกขาด ศรที่อยู่บนรางก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมันเข้าถึงเป้าหมาย ปักเข้าใส่ก้อนหินใหญ่นั่น !!!
โครม !
เสียงกระแทกดังสนั่นออกมา ด้วยศรได้ปักเข้าไปในก้อนหินจนแตกกระจายและทำให้พื้นรอบ ๆ สั่นไหว
ทุกคนตะลึงจนพูดไม่ออก พากันอ้าปากค้างอย่างพร้อมเพรียง ด้วยพลังของหน้าไม้ทลายเมืองนี้รุนแรงกว่าหน้าไม้ทลายกำแพงนับ 100 เท่า ! และพลังขนาดนี้นั้น มันก็สามารถทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าได้อย่างง่ายดาย !!!
ถ้าหากในระหว่างตีเมืองพวกฝั่งตั้งรับเอาแต่หลบอยู่ในแนวป้องกัน งั้นแล้วฝั่งผู้รุกรานก็แค่ใช้หน้าไม้นี้ยิงทำลายฐานที่มั่นนั่นเสีย !
ถังหยินที่ได้สติก็มองไปรอบๆ “พวกเจ้าทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ?”
พวกแม่ทัพและกุนซือต่างก็ตัวสั่นแล้วมองหน้ากัน “ข้าบอกได้เพียงยอดเยี่ยม !”
เหลียงฉีเดินเข้ามาก้มหัวให้ถังหยิน “ถ้าหากเราให้แม่ทัพหยวนยู่เข้าไปโจมตีเมืองพร้อมกับหน้าไม้พวกนี้ งั้นแล้วไม่ว่าอีกฝ่ายจะตั้งรับยังไงก็ไม่น่ากังวลอีกต่อไป !”
เขาไม่กล้าขอมันตรง ๆ จึงได้แต่พูดอ้อมค้อมเพื่อให้ได้มันมา
ถังหยินเองก็เข้าใจดี ดังนั้นจึงได้มอบหน้าไม้ทั้ง 2 คันนี้ให้กับพวกเขา “ท่านซวนผลิตหน้าไม้ทลายกำแพงและหน้าไม้ทลายเมืองออกมามากเท่าไหร่แล้ว ?”
เขาชูออกมา 3 นิ้ว
“อย่างละสาม ?”
“รวมทั้งหมดนี่คือ 3 คันขอรับ !”
ถังหยินรู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะจำนวนของมันน้อยมาก ชนิดที่ว่าต่อให้มอบแก่เหลียงฉีก็ยังไม่อาจเพิ่มประสิทธิภาพการรบได้มากนัก
“ถ้าในเวลา 1 เดือน ข้าให้กำลังคนและวัตถุดิบทั้งหมดที่มี เจ้าจะสร้างมันขึ้นมาได้กี่คัน ?” ถังหยินเอ่ยถาม
“ถ้าเป็นแบบนั้นข้าว่าน่าจะได้ประมาณ 30 คัน”
“แล้วถ้าสร้างหน้าไม้ธรรมดาด้วยเล่า ?”
“หน้าไม้พวกนั้นทำได้ง่ายมากนายท่าน ขอแค่มีลูกมือข้าก็สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ 3 พันคันต่อเดือนแล้ว“
ถังหยินพยักหน้าให้ “ถ้างั้นข้าจะให้เวลาเจ้า 1 เดือนในการสร้างหน้าไม้ทั้ง 3 พันคันกับหน้าไม้ทลายกำแพงอีก 30 คัน และถ้าหากทำสำเร็จ ข้าก็จะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม !”
ซวนหวางก้มหัวให้ทันที “ข้าน้อยจะทำให้ดีที่สุด” จริง ๆ แล้วเขาไม่สนใจรางวัลอะไรนั่นหรอก เพราะตราบเท่าที่ถังหยินให้ทุนทรัพย์กับเขาในการวิจัยต่อไปก็เพียงพอแล้ว !!!
ถังหยินคำนวณเอาไว้แล้วว่าการเดินทางไปเมืองดูกีจะต้องใช้เวลาราว ๆ 1 เดือน และเมื่อกลับมา ของเหล่านี้ก็จะเสร็จสิ้นพอดี
ในขณะเดียวกัน ชัวน่าที่เห็นการทดสอบทั้งหมดก็ชักจะเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะเพียงแค่ความแหลมคมของลูกธนู มันก็มากเกินพอแล้วที่จะทะลวงเกราะของทหารม้าเกราะหนัก จนทำให้พวกเขากลายเป็นดั่งเป้านิ่งในสนามรบ !!!
ทว่ามันก็ยังนับเป็นโชคดี ที่ทั้ง 2 ดินแดนมีความสัมพันธ์อันดีกันอยู่จนไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องสู้รบกัน !!!
และหลังจากทดสอบเสร็จสิ้นแล้ว ถังหยินก็กลับมาที่เมืองเพื่อจัดการเรื่องส่งกำลังคนให้กับซวนหวางในทันที
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ชายหนุ่มก็ได้จัดตั้งหน่วยยุทโธปกรณ์สงครามขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อผลิตของพวกนี้ !!!
วันต่อมา ถังหยินและชัวน่าก็ได้ออกเดินทางไปยังรัฐดูกีพร้อมกับสามพี่น้องตระกูลฉางกวง เช่นเดียวกับหน่วยลับของชายหนุ่มที่ตามมาติด ๆ และพวกขุนนางเบสซ่าอีก 5 คน
พวกเขาวางแผนว่าจะเดินทางผ่านภูเขาที่มีแม่น้ำขวางกั้นเอาไว้ ก่อนจะมุ่งตรงไปยังกวนหนานและเทียนหยวนเพื่อขึ้นไปทางเหนืออันเป็นชายแดนติดกับเบสซ่า แล้วจากนั้นจึงทำการมุ่งหน้าไปยังรัฐดูกี ซึ่งมันก็ถือได้ว่าเป็นการเดินทางที่ไกลยิ่ง ! แต่ด้วยมีม้าของพวกโมอยู่ มันก็ทำให้การเคลื่อนขบวนเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่ง !!
ถังหยินเดินทางตลอดคืน และใช้เวลาเพียง 4 วันเท่านั้นก่อนที่จะถึงชายแดน
ซึ่งก็ต้องขอบคุณชัวน่าที่ทำให้พวกเขาสามารถพกอาวุธและเดินทางผ่านไปได้โดยไม่เจอเข้ากับปัญหาใด
และยิ่งพวกเขาเดินทางเข้าไปลึกเท่าไหร่ มันก็ยิ่งร้อนขึ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับต้นหญ้าที่เริ่มหาไม่ได้แล้ว และแทนที่ด้วยเม็ดทรายมากมายสุดลูกหูลูกตาแทน