บทที่ 168
ด้วยเหตุผลข้างต้น ถังหยินจึงไม่กล้าสู้แบบตรง ๆ และเลือกที่จะหลบด้วยวิชาตัวเบาแทน
ทว่าการใช้วิชาเช่นนี้เพื่อหลบการโจมตีต้องใช้พลังงานมากพอควร ผิดกับเจ้ามังกรที่ดูเหมือนจะมีพลังงานที่ไม่สิ้นสุด ดังนั้นตอนนี้เขาจึงมีแค่ 2 ทางเลือก คือหนีออกไปจากที่นี่หรือสังหารเจ้ามังกรตัวนี้ซะ !
ถังหยินไม่คิดที่จะหนีอยู่แล้ว สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ในตำนานแบบนี้ถ้าเขากินมันได้จะได้พลังที่มากมายขนาดไหนกัน ?
เมื่อเห็นว่ามันกำลังพุ่งเข้าใส่เขา ชายหนุ่มก็เปลี่ยนท่าที ไม่คิดหลบ และเลือกที่จะยืนตั้งรับอย่างเต็มใจ ! ซึ่งเมื่อมังกรเห็นแบบนี้ มันก็ยิ่งพุ่งทะยานเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมอ้าปากกว้าง !!!
มันงับเข้าใส่ที่กลางลำตัว ทำให้เคียวหลุดจากมือของเขาไป และเมื่อเห็นถังหยินพยายามจะเข้าไปคว้ามันกลับมา เจ้ามังกรก็พลันสะบัดมันออกไปอีก
เคร้ง !
เคียวปักลงไปในดินและกลับกลายเป็นดาบธรรมดา 2 เล่ม ทำให้ในตอนนี้ถังหยินตกอยู่ในอันตราย เพราะเขาไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลย และเจ้ามังกรก็ไม่รอช้า มันเงยหน้าอ้าปากกว้าง ก่อนทำการกลืนเขาลงไป !
แม่งเอ้ย ! ถังหยินสบถด่าพร้อมกับไหลเข้าไปในท้องของมัน
ไม่มีเวลาให้เขาพร่ำบ่นอะไรทั้งนั้น เขากำลังจะขาดอากาศตาย ชายหนุ่มพิงร่างของตัวเองไว้กับกำแพงเนื้อที่มีน้ำเหนียว ๆ ที่ค่อย ๆ กัดกินเกราะปราณของไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าหากเขาไม่หนีออกไปในเร็ว ๆ นี้ล่ะก็ มีหวังได้ตายเพราะขาดอากาศไม่ก็โดนย่อยก่อนแน่ !!!
ฉับพลันนั้นเอง ถังหยินก็พลันมีความคิดสุดบรรเจิดผุดวาบขึ้นมาในหัว จริงอยู่ที่เกล็ดของมันแข็งแกร่งทนทาน แต่นั่นจะใช่กับอวัยวะภายในของมันด้วยหรือเปล่านะ ? ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลองใช้ไฟเผาน้ำย่อยดู หากแต่มันก็ถูกดับไปในทันที
ถังหยินเริ่มหวาดกลัวมากขึ้นเมื่อเห็นว่าไฟใช้ไม่ได้ผล แบบนี้เขาคงไม่มีทางหนีรอดออกไปแล้ว
ชายหนุ่มจึงเลือกใช้เกราะปราณคลุมไปทั่วนิ้วมือ ก่อนใช้มันขูดรอบ ๆ กำแพงเนื้อเพื่อหวังจะออกไป ทว่ามันก็เหนียวทนทานเกินกว่าที่เขาจะทำอะไรได้
อากาศข้างในก็เริ่มจะหมดลงแล้ว เช่นเดียวกับพละกำลังของถังหยิน และยิ่งไปกว่านั้นก็คือเกราะของเขาที่กำลังถูกหลอมละลายไปด้วย
ตอนนี้ถังหยินมีแค่ทางเดียว คือต้องใช้วิชาไฟสีดำขั้นต่อไปให้ได้ ไม่งั้นแล้วเขาจะต้องตายในท้องมังกรแน่ !
ชีวิตของเขาในตอนนี้แขวนอยู่บนเส้นด้าย และมันก็มีแค่ทางเดียวเท่านั้น !!!
ด้วยพละกำลังสุดท้ายของเขา ชายหนุ่มกู่ร้องออกมา ก่อนที่ไฟในมือจะถูกจุดติดขึ้นและแตกออก เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นสีดำให้กลายเป็นสีน้ำเงินที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ถังหยินไม่รู้ว่าเขาปล่อยพลังไปมากขนาดไหนในช่วงเวลานี้ ทว่าเขาก็ไม่สนใจแล้ว ดังนั้นจึงบีบอัดพลังทั้งหมดลงไปในนั้น ก่อนจะใช้ฝ่ามือแนบเข้ากับกับกระเพาะของมัน
น้ำย่อยที่ถูกสัมผัสกับลูกไฟก็เริ่มระเหย
เจ้ามังกรกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เช่นเดียวกับผิวของชายหนุ่มที่เริ่มร้อนและผิวกลายเป็นสีแดง ในเวลานี้ถังหยินรู้สึกราวกับว่าได้เป็นหนึ่งเดียวกับมันชั่วคราว ทำให้เขาสามารถรับรู้ความรู้สึกทั้งหมดที่มันเคยผ่านมาในชีวิตได้
นี่คือวิชา เผาไหม้วิญญาณ ขั้นที่ 2 ของเพลิงสีดำ
ที่ทำให้เขาสามารถดูดกลืนพลังปราณได้เต็มที่จากสิ่งมีชีวิตทุกชนิดเพื่อมาให้เขาใช้งานเองได้
ตู้ม !
ร่างของมังกรสั่นสะท้าน ก่อนที่มันจะล้มลงแล้วหยุดนิ่ง ทั่วทั้งถ้ำเงียบกริบไม่ไหวติง มีเพียงแค่ช่วงท้องของมังกรเท่านั้นที่ยังขยับอยู่
ไม่มีใครรู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่พวกสัตว์ร้ายตอนแรกก็ได้กลับเข้ามาล้อมซากของมังกรเอาไว้แล้ว ก่อนที่พวกมันจะค่อย ๆ คลานเข้าไปหาอย่างช้า ๆ
พวกมันเข้าไปอย่างระมัดระวัง เมื่อพบว่ามังกรตัวนี้ไม่ขยับแล้วมันจึงขู่คำรามอยู่อย่างนั้น จากนั้นก็มีอีกหนึ่งตัวเข้าไปใกล้แล้วฉีกซากของมังกรตัวนี้ออกมา
แต่ทันใดนั้น ท้องของมังกรก็พลันบวมแล้วระเบิดออกมาพร้อมกับถังหยินในชุดเกราะที่เดินออกมา
ตอนนี้เกราะของชายหนุ่มเปลี่ยนไปมาก ด้านนอกสุดมีบางสิ่งที่เหมือนกับเกล็ดอยู่ และที่ปลายนิ้วมือกับนิ้วเท้าก็มีกรงเล็บยื่นออกมา
พวกสัตว์ร้ายไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะมันตาบอด ทว่ามันก็สัมผัสได้ถึงอันตราย จึงหนีกระเจิงไปในพลัน
พลังปราณจำนวนมหาศาลจากมังกรทำให้ระดับของถังหยินเข้าสู่ระดับปราณเทพเจ้าในทันที และเมื่อผสานปราณของเขารวมกับปราณของสัตว์ร้าย มันก็ทำให้เกราะปราณของเขาเปลี่ยนไปเหมือนกับปีศาจที่เขากลืนกิน พร้อมกันนั้นชายหนุ่มก็ยังได้รับพลังในการมองเห็นในที่มืดจากมังกรตัวนี้ จนทำให้ในขณะนี้นั้นตัวเขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งโดยรอบได้อย่างชัดเจน
ถังหยินมองไปรอบ ๆ แล้วยื่นมือออกไป จากนั้นไฟสีน้ำเงินก็พลันลอยออกมาจากมือของเขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
พวกปีศาจหวาดกลัวจนต้องรีบมุดหัวหนีไปตามรูเล็ก ๆ ในถ้ำ
ด้วยพลังที่เพิ่มมากขึ้น ถังหยินจึงคิดอยากจะทดสอบใช้ดูเสียหน่อย ว่าแล้วเขาก็เดินไปหยิบดาบขึ้นมา ทำการรวมให้มันกลายเป็นเคียว และออกเดินสำรวจโดยรอบ
ถ้ำใต้ดินซับซ้อนเหมือนกับเขาวงกตขนาดใหญ่ ถ้าหากอยากจะสำรวจมันให้ละเอียดคงต้องกินเวลาหลายเดือน และแม้แต่พวกสัตว์ประหลาดเองก็ไม่สามารถสำรวจจนทั่วได้เลย
ถังหยินไล่ตามพวกสัตว์ร้ายไปสักพัก ก่อนที่จะใช้พลังเผาไหม้วิญญาณพวกมัน
ไม่มีใครรู้ว่าเขาเพิ่มพลังไปขนาดไหน แต่เขานั้นสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าประสาทสัมผัสของตนดีขึ้นกว่าเดิมมาก
หลังจากสำรวจอยู่นาน ในที่สุดเขาก็กลับมาที่เดิม ก่อนหันมองไปยังซากของมังกรด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เพราะเขาได้กินปราณของมันมา และการทิ้งมันไว้ที่นี่ก็จะกลายเป็นอาหารสัตว์อื่นซึ่งจะเป็นการเสียของ ดังนั้นชายหนุ่มจึงเผามันเสีย
ทำให้พลังปราณทั้งหมดของมันถูกดูดกลืนเข้าไปจนหมดเหลือแค่เกล็ด
หลังจากจัดการมันเรียบร้อยแล้ว ถังหยินก็สูดลมหายใจแล้วเดินออกไปจากถ้ำนี้
เขาได้รับความทรงจำของมังกรตัวนี้มา ดังนั้นจึงคุ้นเคยและใช้ทางลัดเพื่อประหยัดเวลาในการหาทางออกได้
ทั้งยังแวะเวียนเก็บของแวววาวที่คิดว่ามีค่ากลับไป ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่ามีอะไรที่เป็นเพชรพลอยบ้าง แต่ชายหนุ่มก็ยังเก็บไปเพื่อให้ฟานหมินตีราคาให้
ถังหยินรีบปีนกลับขึ้นไปทางเดิมอย่างรวดเร็วด้วยการใช้ดาบทั้ง 2 เล่มในมือปีนป่ายไปตามกำแพง ควบคู่ไปกับการกระโดดที่สูงขึ้นกว่าเดิมมาก
เมื่อถังหยินออกมาข้างนอก มันก็มืดแล้ว ก่อนตามมาด้วยเสียงประหลาดที่ดังขึ้นจะที่ไหนก็ไม่อาจทราบได้
ทว่าในเวลานี้เขาไม่สนใจพวกมดแมลงเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว และสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดก็คือหาทางออกไปจากที่นี่ !