ราชาเหนือราชัน – ตอนที่ 114 : เจ้าควรไสหัวไป

นิยาย อ่านนิยาย


“ฮ่า ฮ่า อย่าลืมเสียล่ะ แม่สาวน้อย โปรดอย่ามากวนข้าอีก” เซี่ยงเส้าหยุนหัวเราะ

ทันใดนั้น ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เด็กหนุ่ม เมื่อพวกเขาเห็นกงฉินหยินยืนใกล้เคียงกับเขา และได้ยินคำที่เขาเรียกกงฉินหยิน สีหน้าพวกเขาต่างสับสน หากเป็นวันอื่น พวกเขาจะต้องจับเด็กหนุ่มคนนี้โยนลงแม่น้ำไปแล้ว นี่เขากล้าเรียกเทพีของเราว่าสาวน้อยหรือ? ยอมรับไม่ได้! เหล่าศิษย์ชายพยายามข่มตน และดูว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะถูกคนของสถาบันประตูธงทำร้ายหรือไม่

เซี่ยงเส้าหยุนเดินไปยังดาดฟ้าเรือ และกระโดดลงไปที่แผ่นไม้ เขาไม่ได้กระโดดไปยังแผ่นไม้กระดานของฝั่งตำหนักยุทธ์ แต่เขากลับกระโดดตรงไปที่ลาหลิวเฟิง

“คู่ต่อสู้ที่จะพ่ายแพ้กล้าแสดงท่าทีเช่นนี้กับข้าหรือ? ไปให้พ้น” เซี่ยงเส้าหยุนตะคอก เสียงของเขาดัง และน่าประทับใจ เมื่อผสมกับการเผยตัวเล็กน้อย ทำให้เกิดคลื่นเสียงทะลวงเข้าไปยังหูของลาหลิวเฟิง ทำให้จิตใจว่างเปล่าไปชั่วขณะ

ในดวงตาของเขา เซี่ยงเส้าหยุนดูราวกับเป็นมังกรกลายสภาพมา และยังดูราวกับพยัคฆ์ที่ดูดุร้าย ดูน่ากลัวยิ่ง หลังจากได้สติ เซี่ยงเส้าหยุนก็ฟาดเข้าที่หน้าของเขาแล้ว

ตู้ม!

ลาหลิวเฟิงถูกเตะตกแม่น้ำไปก่อนที่จะได้ทำอะไร ผู้คนต่างเงียบงันเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า

ศิษย์ของฝั่งตำหนักยุทธ์ต่างตะโกน “สุดยอด!”

ความพ่ายแพ้ของโม่ซู ลู่หยานฉวน และเฉินฉินทำให้พวกเขาโกรธไม่น้อย ตอนนี้ เซี่ยงเส้าหยุนได้เป็นผู้ระบายความโกรธแทนพวกเขาแล้ว หลังจากส่งลาหลิวเฟิงลงไปในแม่น้ำ เซี่ยงเส้าหยุนกระโดดไปยังแผ่นกระดานเรื่อย ๆ สร้างภาพที่ดูมีชีวิตชีวานัก จากนั้นเขาสะบัดผม และสร้างรอยยิ้มที่มีเสน่ห์บนใบหน้าอันหล่อเหลา ทำให้เหล่าศิษย์หญิงจำนวนมากต่างหลงไหล และส่งเสียงให้กำลังใจ

เซี่ยงเส้าหยุนอายุน้อยกว่าโม่ซูเล็กน้อย ทว่า กลับมีความสามารถพิเศษที่เหนือกว่า และเขาดูโดดเด่นจากผู้อื่นเมื่อเทียบกับตอนที่เขาทำตัวราวกับคนโง่ที่บ้าดีเดือด

“บ้าฉิบ! เจ้าเล่นข้าทีเผลอ! ข้าไม่ยอมรับแน่!” ลาหลิวเฟิงตะโกนหลังจากตกลงไปในน้ำ จมูกของเขาช้ำจากการโดนเซี่ยงเส้าหยุนเตะ และมีเลือดออก ทำให้เขาดูแย่ แต่ความห้าวหาญของเขายังคงน่ายกย่อง

“แน่นอน ข้าจะมอบโอกาสเจ้าอีกหน” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว ขณะแสดงท่าทีเย้ยหยัน

“ตาย!” ลาหลิวเฟิงกระโดดลงจากเรืออีกครั้ง ขณะลอยอยู่ในอากาศ เขาได้ชักอาวุธ และเหวี่ยงตรงมาที่เซี่ยงเส้าหยุน เขาพยายามจะทำให้เซี่ยงเส้าหยุนได้ลิ้มรสความเจ็บปวด

ลาหลิวเฟิงใช้พลังทั้งหมดเข้าโจมตี  ควบคู่ไปกับความได้เปรียบเรื่องความสูงจากการโจมตีจากด้านบน เขามั่นใจว่าจะสามารถสังหารเซี่ยงเส้าหยุนด้วยการฟันในครั้งเดียว แต่เมื่อดาบเข้าถึงตัวเซี่ยงเส้าหยุน เซี่ยงเส้าหยุนได้จับดาบของเขาไว้ด้วยเพียงสองนิ้ว ทำให้ผู้พบเห็นต่างร้องเสียงหลง การจับอาวุธด้วยนิ้วมือเนี่ยนะ? ช่างเป็นนิ้วที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้?

“เจ้าควรไปให้พ้นเสียตั้งแต่ตอนนี้? เซี่ยงเส้าหยุนผลักดาบ ก่อนจะผลักลาหลิวเฟิงตกลงไปในแม่น้ำอีกครั้ง ตอนนี้ ลาหลิวเฟิงช่างดูน่าอดสูกว่าเก่านัก เขาพ่ายแพ้แก่เซี่ยงเส้าหยุนถึงสองครั้ง ถือเป็นความอัปยศอย่างที่สุด

“สามคนที่ประลองก่อนหน้านี้ ข้าจะให้พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกัน ข้าจะจัดการพวกเจ้าเอง” เซี่ยงเส้าหยุนเพิกเฉยต่อลาหลิวเฟิง และเริ่มยั่วยุสถาบันประตูธงอีกครั้ง

ในขณะที่ทำเช่นนั้น เขาได้จ้องไปยังฟางฉิงเอ๋ออย่างโจ่งแจ้งด้วยสายตาที่ราวกับจะมองผ่านทะลุเสื้อผ้า และเห็นทุกสิ่งภายใน ฟางฉิงเอ๋อเป็นคนที่ค่อนข้างหัวแข็ง การถูกจ้องมองทำให้นางไม่สบายใจ ราวกับว่ามีแมลงไต่ไปทั่วทั้งร่างกาย นางจ้องกลับไปยังเด็กหนุ่มด้วยสายตาเฉียบคม ขณะพยายามบังคับให้เซี่ยงเส้าหยุนหลบสายตา แต่ก็เปล่าประโยชน์

“ไม่เลวเลย นี่ เจ้าอยากมาเป็นสาวใช้ของข้าไหม?” เซี่ยงเส้าหยุนยั่วยุอีกครั้ง ซึ่งจะได้ผล

“ไอ้เวร นี่เจ้าคิดว่าไม่มีใครในสถาบันประตูธงจะทำสิ่งใดต่อเจ้าได้งั้นหรือ?”

“โปรดอย่าห้ามข้า! ข้าจะสังหารมันเดี๋ยวนี้!”

“เขาท้าทายความตาย นี่เขาคิดจริงหรือว่าจะสามารถต่อกรกับศิษย์พี่ฟางได้? เหอะ เขาไม่เจียมตัวเอาเสียเลย”

“ใจเย็นก่อน เขาเพียงพยายามยั่วยุเรา อย่าหลงไปกับมัน บางทีเขาอาจจะมีไพ่ตายซ่อนอยู่”

“ไพ่ตายบ้านเจ้าสิ ข้าจะสังหารเขา!”

สุดท้าย มีเด็กหนุ่มจากสถาบันประตูธงที่ไม่อาจทนต่อความโกรธได้ และเข้าพึ่งเข้าใส่เซี่ยงเส้าหยุน เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวขั้นแปด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ลั่วหลินไม่ห้ามเขา ด้วยต้องการดูให้แน่ชัดว่าเด็กหนุ่มผู้เป็นศัตรูนั้นอ่อนแอจริงหรือไม่

ผู้ที่เข้ามาใหม่นั้นแข็งแกร่งกว่าลาหลิวเฟิงมาก และเขาไม่ใช่ผู้ที่ไร้หัวคิด ด้วยวางแผนกระโดดลงบนแผ่นไม้อื่น ก่อนจะเริ่มโจมตี เซี่ยงเส้าหยุนดูราวกับรู้ว่าเขาพยายามจะทำสิ่งใด ดังนั้น เขาจึงเตะน้ำ ทำให้แผ่นไม้เปลี่ยนตำแหน่ง

ซึ่งทำให้แผ่นที่จะลงบนไม้กระดานที่วางไว้ล่วงหน้าเปลี่ยนไป ทำให้เขาตกใจมาก แต่ด้วยเป็นคนที่มีความสามารถพอสมควร เขาเฉือนน้ำด้วยดาบ และใช้แรงกระแทกเพื่อตีลังกากลางอากาศ ก่อนจะยืนบนไม้กระดาน

เวลานั้น เหล่าคนจากสถาบันประตูธงได้ตะโกน “ทำได้ดีมาก!”

ตอนนั้นเอง เซี่ยงเส้าหยุนร่อนข้ามน้ำบนไม้กระดานราวกับกำลังโต้คลื่น

“ระวัง!” เหล่าศิษย์จากสถาบันประตูธงตะโกน

แต่กระนั้น มันก็สายไปเสียแล้ว เซี่ยงเส้าหยุนนั่นรวดเร็วมาก และเขาได้มาถึงตรงหน้าของเด็กหนุ่ม ก่อนจะส่งผ่ามือออก

ฝ่ามือผ่าเมฆา!

ตู้ม!

เด็กหนุ่มไม่ทันได้ตั้งตัว เขาถูกกระแทก และตกลงไปในน้ำ ทำให้ศิษย์จากสถาบันประตูธงต้องอึ้ง บางคนถึงกับตะโกน “ไร้ยางอาย! นี่ไม่ใช่การต่อสู้ เจ้าเล่นทีเผลอ!”

แม้ว่าทางตำหนักยุทธ์เองก็รู้สึกว่าเซี่ยงเส้าหยุนไร้ยางอาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขารู้สึกดีที่เซี่ยงเส้าได้ทำให้สถาบันประตูธงพ่ายแพ้ ความโกรธของพวกเขาถูกระบายไปจนหมด

“หลินหยวน ไปซะ อย่าทำผิดพลาดเชียวล่ะ” ลั่วหลินกล่าว

เด็กหนุ่มยืนไม่ไกลจากเขาก้าวออกมาด้านหน้า และกล่าว “สบายใจได้เลย ท่านรองอาจารย์ใหญ่ ข้าจะดูแลเขาอย่างดีเลยเชียว”

เขากระโดดลงจากเรือ ขณะลอยกลางอากาศ เขาได้หยิบกระบี่ และเหวี่ยงตรงไปที่เซี่ยงเส้าหยุน

“ตาย!” วิธีของหลินหยวนคือ จัดการเซี่ยงเส้าหยุนก่อนที่เขาจะทันได้ตั้งตัว หรือโจมตีด้วยทุกสิ่งที่เขามี ด้วยจะไม่ทำผิดซ้ำซากเหมือนศิษย์ทั้งสองก่อนหน้าที่ประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

我不是大魔王
Score 7.8
Status: Ongoing Released: 2019 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน เรื่องย่อ นครขอบนภา เมืองอู่ ตำหนักยุทธ์ ตำหนักยุทธ์คือสถานที่ในเมืองอู่ ที่ได้คัดเลือกผู้ฝึกยุทธ์จากต่างเมืองมาเป็นลูกศิษย์ ทุกฤดูใบไม้ผลิ จะมีการคัดเลือกลูกศิษย์หน้าใหม่ เพราะเหตุนั้น บุตรหลานและผู้เยาว์จากหลากหลายหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างก็หลั่งไหลกันมาเพื่อเข้ารับการทดสอบเข้าตำหนักยุทธ์ พวกเขาต่างมาแสวงหาซึ่งกำลัง ในปีนี้ การคัดเลือกเป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์ ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว วันนี้ได้มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่แต่งตัวราวกับบัณฑิตได้ยืนอยู่ตรงหน้าประตูหลักของตำหนักยุทธ์ อ้อนวอนขออนุญาตเพื่อให้ได้เข้าไป เด็กหนุ่มผู้นี้น่าจะมีอายุราวสิบห้าถึงสิบหกปีและมีคุณสมบัติที่ผ่านการขัดเกลามาอย่างดี เป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาเจิดจ้า ข้อบกพร่องคือร่างกายมีรูปร่างที่ผอมและเสื้อผ้าของเขาก็ขาดรุ่งริ่งราวกับผ่านพ้นอะไรมามากมาย ไม่ต่างกับบัณฑิตผู้ยากไร้ “เจ้าหนุ่ม ข้ากล่าวไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้ายังดื้อรั้นอยู่อีก? ช่วงเวลาที่ตำหนักยุทธ์ได้คัดเลือกเหล่าลูกศิษย์ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้าหากเจ้าอยากจะเข้าร่วมตำหนัก เจ้าจงรอฤดูใบไม้ผลิครั้งหน้าและจงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง” ทหารยามที่ยืนเฝ้าสังเกตการณ์ข้างหน้าตำหนักได้กล่าวต่อสักคำหนึ่งกับเด็กหนุ่มราวกับใกล้จะหมดความอดทน ทหารยามอีกคนหนึ่งเผยท่าทีดุร้ายจับจ้องประหนึ่งคมมีดไปยังเด็กหนุ่มพร้อมตะคอกใส่ “เจ้ามาที่นี่ก็สามวันแล้ว หากเจ้ายังไม่ไปให้พ้นจากตรงนี้ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือนนะ” ทหารยามทั้งสองเชี่ยวชาญในการรับมือกับบุคคลที่ไร้ยางอายที่จะคิดเข้าไปให้ได้ เด็กหนุ่มเผยรอยยิ้มเจิดจ้าและหัวเราะ พูดว่า “พี่ชายทั้งสองอย่าทำเช่นนี้เลยข้า เซี่ยงเส้าหยุนเป็นอัจฉริยะที่พบเห็นได้ในรอบร้อยปี! ตราบใดที่พวกท่านอนุญาตให้ข้าเข้าไปข้างใน ข้าก็จะได้เป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์อย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นนะ ข้ายังจะเป็นลูกศิษย์ที่เลิศล้ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของตำหนักยุทธ์! และเมื่อนั้นข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านทั้งสองเลย” “ไร้สาระ! เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะในรอบร้อยปีงั้นรึ? มองดูรูปร่างผอมบางของเจ้าก่อนไหม? ข้าเดิมพันว่าเจ้ารับหมัดของข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ!” ทหารยามเผยสายตาดุร้ายขณะที่เขาตวาดเด็กหนุ่มพร้อมปล่อยหมัดออกไป ขณะที่หมัดกำลังเข้าใกล้ เด็กหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าเซี่ยงเส้าหยุนตะโกนขึ้น “หยุดนะ” ดูเหมือนว่าเสียงร้องของเซี่ยงเส้าหยุนจะได้ผล มีพลังอำนาจบางอย่าง ราวกับว่าเขาคือบุคคลที่คนนับหมื่นจะต้องตกอยู่ภายใต้ตัวเขา ทหารยามผู้ที่มีสีหน้าดุดันเหม่อมองชั่วขณะหนึ่ง ดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดจากตัวเด็กหนุ่ม แรงกดดันมหาศาลที่อธิบายไม่ได้ที่ฉายผ่านดวงตาที่มองมา ถึงแม้ว่าทหารยามยังคงเย้ยหยันอย่างเย็นชา “กลัวแล้วงั้นรึ? งั้นก็ไสหัวไปซะไม่อย่างนั้นวันนี้จะต้องได้เห็นดีกันแน่” “นี่มันช่างน่าขัน นายน้อยผู้นี้ได้พบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใยจึงต้องหวาดกลัวด้วยเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนคิดกับตัวเอง แต่ทว่าท่าทียังคงชวนสงสารเวทนา เขาเผยรอยยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ดูสิ่งนี้สิ!” ในมือของเขาปรากฎชิ้นส่วนหินที่ส่องแสง หินก้อนนั้นดูบริสุทธิ์และไร้มลทิน ผู้ใดพบเห็นย่อมต้องตกตะลึง ทหารยามหวาดระแวงที่จะจ้องมองหินก้อนนั้น เมื่อมองให้ดี สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไปราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น เซี่ยงเส้าหยุน หัวเราะ “ฮี่ฮี่ อยากได้ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าเกิดว่าให้คุณชายคนนี้ได้เข้าสู่ตำหนัก เจ้าเศษหินนี่…” เพี๊ยะ! ก่อนที่เซี่ยงเส้าหยุนจะพูดจบ ทหารยามได้ฟาดฝ่ามือใส่เขา หินส่องแสงโดนตบหลุดไปจากมือของเซี่ยงเส้าหยุน “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ใช้หินขยะนี่มาติดสินบนข้า! ข้าคิดว่าถ้าเจ้าไม่ได้เห็นโลงศพ เจ้าก็จะไม่มีวันหลั่งน้ำตาสินะ” ทหารยามยกหมัดขวาเข้าใส่เซี่ยงเส้าหยุนและกำลังจะต่อยไปยังใบหน้าของเด็กหนุ่ม “เวรเอ้ย ข้าจะเจอคนมีตาแต่หามีแววไม่อีกเท่าไหร่กัน” เซี่ยงเส้าหยุนก่นด่าตัวเขาเอง เขาหลับตาลงโดยที่ไม่ต้องทะเลาะเพราะรู้ว่าตัวเขาเองไม่มีทักษะที่จะต้านรับมันได้ ขณะที่กำปั้นกำลังจะเข้าไปทักทายใบหน้าของเด็กหนุ่ม ก็มีเสียงทุ้มลึกและดุดัน ดังขึ้น “หยุดเดี๋ยวนี้!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset