ราชาเหนือราชัน – ตอนที่ 115 : ลูกพี่ของข้านั้นไร้พ่าย

การโจมตีอันหนักหน่วงของหลินหยวนเต็มไปด้วยพลังงานดวงดาวจำนวนมหาศาลครอบคลุมไปทั่วพื้นที่เหนือเซี่ยงเส้าหยุนด้วยพลังงานสีเขียว ไม่ปล่อยโอกาสให้ให้เซี่ยงเส้าหยุนได้รอดชีวิต ทุกคนต่างสงสัยว่าเซี่ยงเส้าหยุนจะรอดไปจากการโจมตีที่หนักหน่วงราวกับภูเขาทั้งลูกได้อย่างไร

ศิษย์จากตำหนักยุทธ์ต่างตื่นตระหนักเมื่อได้เห็นการโจมตีนั้น พวกเขาไม่อาจละสายตาจากการประลองนี้ได้ และทำได้เพียงภาวนาให้เซี่ยงเส้าหยุนรอดชีวิต เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่ที่เข้ามา ดวงตาของเซี่ยงเส้าหยุนก็คมขึ้น เขาตะโกน และชักดาบหมาป่าทองคำก่อนจะเข้าปะทะกับกระบี่

ชิ้ง! เคร้ง!

เกิดประกายไฟหลายครั้งบนอากาศ และระลอกคลื่นมากมายบนผิดน้ำ หลังจากการโจมตีถูกปัดป้อง หลินหยวนไม่จู่โจมซ้ำ กลับกันนั้น เขาตีลังกากลางอากาศ และร่อนลงไปที่ไม้กระดานอีกอัน เมื่อลงไปยังไม้กระดาน เขาควบคุม และร่อนข้ามน้ำไปหาเซี่ยงเส้าหยุน

ไม้นภามืดบอด!

หลินหยวนคู่ควรเป็นหนึ่งในสามอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของสถาบันประตูธง ช่วงเวลาที่เขาโจมตี เขาปลดปล่อยพลังที่ทำให้แม้แต่ผืนดินจะต้องแตกเป็นเสี่ยง ขณะเหวี่ยงกระบี่ขณะปล่อยพลังอันไร้ขอบเขตออกไป สร้างเป็นป่าหนาทึบที่มีขนาดใหญ่พอจะปิดกั้นแสงแดดไม่ให้ลอดผ่านไปได้

ด้วยสิ่งนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวช่วงท้าย ดังนั้น ผู้ที่มีระดับยุทธ์ต่ำกว่าหลินหยวนคงไม่อาจโจมตีเขาได้ง่าย

บนเรือ ลั่วหลินพยักหน้า เขาเกือบจะได้เห็นความพ่ายแพ้ของเซี่ยงเส้าหยุน สำหรับผู้คนในตำหนักยุทธ์ พวกเขาต่างจับจ้องไปที่คู่ต่อสู้ที่กำลังประหม่า และไม่ต้องการพลาดทุกรายละเอียด

ทว่า สิ่งที่พวกเขาได้เห็นนั้นไม่ได้น่าตื่นเต้นอย่างที่พวกเขาคาดไว้ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตี ดวงตาของเซี่ยงเส้าหยุนมีพลังมากขึ้นเมื่อกระแสสายฟ้าทั้งสองพุ่งออกมาจากเขา วิถีการโจมตีของหลินหยวนนั้นดูไร้ค่าไปต่อหน้าต่อตา สิ่งที่แสดงให้เห็นตรงหน้าคือช่องโหว่เล็ก ๆ ในการโจมตี

“ทลาย!” เซี่ยงเส้าหยุนหมอบลงเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งดาบไปด้านหน้า

ดาบซึ่งพุ่งมาจากมุมที่ซับซ้อน ทำให้ผู้อื่นยากจะเห็นการโจมตีนั่น

เคร้ง!

การแทงนั่นไม่ได้เล็งเป้าไปที่หลินหยวน กลับกัน มันเล็งไปที่กระบี่ และเปลี่ยนวิถี ทำให้การโจมตีเปลี่ยนไปที่แม่น้ำแทน

ตู้ม!

การโจมตีสร้างคลื่นที่งดงามยาวกว่าสิบเมตรที่บดขยี้ไปด้านหน้า หลังจากแทง เซี่ยงเส้าหยุนได้ใช้ลูกเตะต่อ

ลูกเตะวายุหมุน!

แม้นี่จะเป็นวิชาขั้นแรก แต่เมื่อถูกใช้โดยเซี่ยงเส้าหยุน ลูกเตะที่รวดเร็วราวกับสายฟ้า และเข้าเป้าไปที่หลินหยวนก่อนที่เขาจะได้ทันตั้งตัว แม้หลินหยวนจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเซี่ยงเส้าหยุนเลย เช่นเดียวกัน หลินหยวนตกลงไปในแม่น้ำ

“ไม่! นั่นมันเป็นไปไมได้!” ลั่วหลินร้องออกด้วยความตกใจ

“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม!” ทันกวงหัว และเจี้ยฉือตะโกนพร้อมกัน

พวกเขาทราบดีว่าเซี่ยงเส้าหยุนเป็นคนพิเศษที่สามารถเป็นนายของผู้อาวุโสเจิ้นเผิงได้ แต่พวกเขาไม่เคยทราบเลยว่าเซี่ยงเส้าหยุนยังมีความแข็งแกร่งมากมายที่ซ่อนอยู่ หากพวกเขาส่งเด็กหนุ่มผู้นี้ออกไปตั้งแต่ทีแรก สิ่งต่าง ๆ คงไม่เลวร้ายเช่นนี้ โชคดีที่ดูเหมือนว่าจะพลิกวิกฤติเป็นชัยชนะได้

“ลูกพี่สุดยอดไปเลย! ศิษย์พี่ของข้านั้นไร้พ่าย!” เซี่ยหลิวฮุยเริ่มตะโกนให้กำลังใจเสียงดังด้วยความตื่นเต้น ด้วยชัยชนะของเซี่ยงเส้าหยุนก็คือชัยชนะของพวกเขาเช่นกัน

“เส้าหยุน สุดยอดไปเลย!” ลู่เสี่ยวฉิงกล่าว ดวงตาเต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ เวลาเดียวกัน ความขมขื่นในใจของนางลึกล้ำมาก สิ่งที่ได้เห็นนั้นพิสูจน์ให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างเซี่ยงเส้าหยุนกับนางนั้นกว้างใหญ่เพียงใด แล้วนางควรทำเช่นไรดี?

แม้แต่กงฉินหยินก็มองดูเซี่ยงเส้าหยุนในแง่มุมที่ต่างไปจากที่นางเคยคิด ‘หรือสิ่งที่อาจารย์กล่าวจะถูก ที่พรสวรรค์ของเราเทียบไม่ได้กับเขาผู้นี้?’

และเป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เซี่ยงเส้าหยุนจ้องมองไปที่ฟางฉิงเอ๋อด้วยสายตาวิปริต “สาวน้อย ลงมานี่ซะ สิ่งที่พวกเจ้าทำมันเปล่าประโยชน์ ไม่ว่าจะส่งคนมากี่คนก็จะเหมือนเดิม”

“ข้า เหลียวห่าว จะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าเอง!” ผู้เยาว์อีกคนหนึ่งที่จัดการลู่หยานฉวนกล่าว ก่อนหน้าที่ฟางฉิงเอ๋อจะตอบกลับ

“ศิษย์พี่เหลียว โปรดให้ข้าช่วยท่าน!” ผู้เยาว์อีกคนกล่าว นอกจากทั้งสองแล้ว ยังมีอีกคนก้าวไปด้านหน้า และเข้าร่วมโดยไม่กล่าวสิ่งใด

“เฮ้ นี่มันขี้โกงนี่ สถาบันประตูธง” ผู้เยาว์จากตำหนักยุทธ์เริ่มกล่าวอย่างไม่พอใจ

“เขาเป็นคนพูดเองนะ ว่าจะส่งมากี่คนก็ได้เท่าที่ต้องการ” ลั่วหลินตอบกลับ

ทันกวงหัว และเจี้ยฉือนั้นทำได้เพียงเงียบ พวกเขาต่างจดจ่อกับเซี่ยงเส้าหยุน และพยายามหาทางออกจากสถานการณ์เช่นนี้ คราวนี้เขาจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ถึงสามคน ยิ่งไปกว่านั้นคือต้องต่อสู้กันบนน้ำซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

“โอ้? เท่านี้เองหรือ พวกเจ้าเข้ามาเพิ่มอีกก็ได้นะ เอาล่ะ ถึงเวลาที่จะเตะก้นพวกเจ้าเช่นกัน” เซี่ยงเส้าหยุนคำราม ความเคร่งขรึมปกคลุ่มไปทั่วทั้งใบหน้า และเสียงก็ดังก้องราวกับฟ้าร้องที่น่ากลัว เวลาเดียวกันนั้น โครงร่างของมังกร และเสือปรากฏขึ้นในอากาศ

เมื่อคู่ต่อสู้ทั้งสามสัมผัสได้ถึงการเผยตัวของเด็กหนุ่ม พวกเขาต่างรู้สึกได้ทันทีว่าควรจะหยุดการโจมตีทั้งหมดที่พวกเขากำลังจะเริ่ม เซี่ยงเส้าหยุนใช้โอกาสนี้ และโจมตี เขาเหวี่ยงดาบหมาป่าทองคำไปรอบ ๆ และทำให้เลือดพุ่งออกทั้งบริเวณ

“อ๊ากกกก!”

ซู่! ซู่! ซู่!

ทั้งสามส่งเสียงครวญครางที่น่าสังเวชออก ก่อนจะตกลงไปในแม่น้ำ ผู้ชมต่างเงียบลงอีกครั้ง สายตาของพวกเขาเบิกโพลงด้วยความตะลึง ราวกับลูกตากำลังจะหลุดออกจากเบ้าในไม่ช้า ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเซี่ยงเส้าหยุนจะสามารถเอาชนะคู่ตอสู้ทั้งสามได้ง่ายดายเพียงนี้

พวกเขาต่างคิดว่านี่เป็นความฝัน และที่สำคัญกว่านั้น การเผยตัวของเซี่ยงเส้าหยุนที่เล็ดลอดออกมาในตอนนั้น ทำให้พวกเขาอยากจะคุกเข่าลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อนัก

“ยอดเยี่ยม!” ทันกวงหัวตะโกนด้วยความยินดียิ่ง

เคียงข้างเขา เจี้ยฉือเองก็มีความสุขเช่นกัน แม้เพียงคำพูดไม่อาจจะแสดงความสุขในตอนนี้ได้เลย สำหรับเยี่ยเทียนหลงซึ่งไม่ชอบเซี่ยงเส้าหยุนก่อนหน้านี้ เขารู้สึกอึดอัดราวกับกลืนแมลงวัน

พลังแห่งการเผยตัวที่น่ารังเกียจ! เยี่ยเทียนหลงก่นด่าในใจ

อู่หมิงหยางจากตระกูลอู่เองก็เกลียดเซี่ยงเส้าหยุนเช่นกัน แม้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะนำพาชัยชนะมาสู่ตำหนักยุทธ์ มันเป็นเพียงการเพิ่มความปรารถนาที่จะเห็นเซี่ยงเส้าหยุนถูกสังหาร

‘ถ้าเราไม่หาวิธีสังหารมัน ในอนาคตตระกูลอู่ของเราคงจะต้องพบกับความทุกข์ทรมานแน่’ อู่หมิงหยางครุ่นคิดอย่างหดหู่

“เจ้าพวกขยะ! พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์!” ลั่วหลินร้องฟูมฟาย

เขาไม่คาดคิดเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะแข็งแกร่งขนาดนี้ มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพขึ้นไปเท่านั้นสามารถใช้พลังแห่งการเผยตัวได้ มีโอกาสที่เด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพ เขาสับสนว่าเหตุใดจึงไม่ส่งเด็กคนนี้ออกมาตั้งแต่ทีแรก ‘หรือนี่จะเป็นกลลวง? พวกเขาวางแผนที่จะให้คู่ต่อสู้ลิ้มรสความสุขก่อนจะพบกับความสิ้นหวังงั้นหรือ?’

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

我不是大魔王
Score 7.8
Status: Ongoing Released: 2019 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน เรื่องย่อ นครขอบนภา เมืองอู่ ตำหนักยุทธ์ ตำหนักยุทธ์คือสถานที่ในเมืองอู่ ที่ได้คัดเลือกผู้ฝึกยุทธ์จากต่างเมืองมาเป็นลูกศิษย์ ทุกฤดูใบไม้ผลิ จะมีการคัดเลือกลูกศิษย์หน้าใหม่ เพราะเหตุนั้น บุตรหลานและผู้เยาว์จากหลากหลายหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างก็หลั่งไหลกันมาเพื่อเข้ารับการทดสอบเข้าตำหนักยุทธ์ พวกเขาต่างมาแสวงหาซึ่งกำลัง ในปีนี้ การคัดเลือกเป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์ ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว วันนี้ได้มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่แต่งตัวราวกับบัณฑิตได้ยืนอยู่ตรงหน้าประตูหลักของตำหนักยุทธ์ อ้อนวอนขออนุญาตเพื่อให้ได้เข้าไป เด็กหนุ่มผู้นี้น่าจะมีอายุราวสิบห้าถึงสิบหกปีและมีคุณสมบัติที่ผ่านการขัดเกลามาอย่างดี เป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาเจิดจ้า ข้อบกพร่องคือร่างกายมีรูปร่างที่ผอมและเสื้อผ้าของเขาก็ขาดรุ่งริ่งราวกับผ่านพ้นอะไรมามากมาย ไม่ต่างกับบัณฑิตผู้ยากไร้ “เจ้าหนุ่ม ข้ากล่าวไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้ายังดื้อรั้นอยู่อีก? ช่วงเวลาที่ตำหนักยุทธ์ได้คัดเลือกเหล่าลูกศิษย์ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้าหากเจ้าอยากจะเข้าร่วมตำหนัก เจ้าจงรอฤดูใบไม้ผลิครั้งหน้าและจงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง” ทหารยามที่ยืนเฝ้าสังเกตการณ์ข้างหน้าตำหนักได้กล่าวต่อสักคำหนึ่งกับเด็กหนุ่มราวกับใกล้จะหมดความอดทน ทหารยามอีกคนหนึ่งเผยท่าทีดุร้ายจับจ้องประหนึ่งคมมีดไปยังเด็กหนุ่มพร้อมตะคอกใส่ “เจ้ามาที่นี่ก็สามวันแล้ว หากเจ้ายังไม่ไปให้พ้นจากตรงนี้ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือนนะ” ทหารยามทั้งสองเชี่ยวชาญในการรับมือกับบุคคลที่ไร้ยางอายที่จะคิดเข้าไปให้ได้ เด็กหนุ่มเผยรอยยิ้มเจิดจ้าและหัวเราะ พูดว่า “พี่ชายทั้งสองอย่าทำเช่นนี้เลยข้า เซี่ยงเส้าหยุนเป็นอัจฉริยะที่พบเห็นได้ในรอบร้อยปี! ตราบใดที่พวกท่านอนุญาตให้ข้าเข้าไปข้างใน ข้าก็จะได้เป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์อย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นนะ ข้ายังจะเป็นลูกศิษย์ที่เลิศล้ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของตำหนักยุทธ์! และเมื่อนั้นข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านทั้งสองเลย” “ไร้สาระ! เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะในรอบร้อยปีงั้นรึ? มองดูรูปร่างผอมบางของเจ้าก่อนไหม? ข้าเดิมพันว่าเจ้ารับหมัดของข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ!” ทหารยามเผยสายตาดุร้ายขณะที่เขาตวาดเด็กหนุ่มพร้อมปล่อยหมัดออกไป ขณะที่หมัดกำลังเข้าใกล้ เด็กหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าเซี่ยงเส้าหยุนตะโกนขึ้น “หยุดนะ” ดูเหมือนว่าเสียงร้องของเซี่ยงเส้าหยุนจะได้ผล มีพลังอำนาจบางอย่าง ราวกับว่าเขาคือบุคคลที่คนนับหมื่นจะต้องตกอยู่ภายใต้ตัวเขา ทหารยามผู้ที่มีสีหน้าดุดันเหม่อมองชั่วขณะหนึ่ง ดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดจากตัวเด็กหนุ่ม แรงกดดันมหาศาลที่อธิบายไม่ได้ที่ฉายผ่านดวงตาที่มองมา ถึงแม้ว่าทหารยามยังคงเย้ยหยันอย่างเย็นชา “กลัวแล้วงั้นรึ? งั้นก็ไสหัวไปซะไม่อย่างนั้นวันนี้จะต้องได้เห็นดีกันแน่” “นี่มันช่างน่าขัน นายน้อยผู้นี้ได้พบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใยจึงต้องหวาดกลัวด้วยเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนคิดกับตัวเอง แต่ทว่าท่าทียังคงชวนสงสารเวทนา เขาเผยรอยยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ดูสิ่งนี้สิ!” ในมือของเขาปรากฎชิ้นส่วนหินที่ส่องแสง หินก้อนนั้นดูบริสุทธิ์และไร้มลทิน ผู้ใดพบเห็นย่อมต้องตกตะลึง ทหารยามหวาดระแวงที่จะจ้องมองหินก้อนนั้น เมื่อมองให้ดี สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไปราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น เซี่ยงเส้าหยุน หัวเราะ “ฮี่ฮี่ อยากได้ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าเกิดว่าให้คุณชายคนนี้ได้เข้าสู่ตำหนัก เจ้าเศษหินนี่…” เพี๊ยะ! ก่อนที่เซี่ยงเส้าหยุนจะพูดจบ ทหารยามได้ฟาดฝ่ามือใส่เขา หินส่องแสงโดนตบหลุดไปจากมือของเซี่ยงเส้าหยุน “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ใช้หินขยะนี่มาติดสินบนข้า! ข้าคิดว่าถ้าเจ้าไม่ได้เห็นโลงศพ เจ้าก็จะไม่มีวันหลั่งน้ำตาสินะ” ทหารยามยกหมัดขวาเข้าใส่เซี่ยงเส้าหยุนและกำลังจะต่อยไปยังใบหน้าของเด็กหนุ่ม “เวรเอ้ย ข้าจะเจอคนมีตาแต่หามีแววไม่อีกเท่าไหร่กัน” เซี่ยงเส้าหยุนก่นด่าตัวเขาเอง เขาหลับตาลงโดยที่ไม่ต้องทะเลาะเพราะรู้ว่าตัวเขาเองไม่มีทักษะที่จะต้านรับมันได้ ขณะที่กำปั้นกำลังจะเข้าไปทักทายใบหน้าของเด็กหนุ่ม ก็มีเสียงทุ้มลึกและดุดัน ดังขึ้น “หยุดเดี๋ยวนี้!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset