การโจมตีอันหนักหน่วงของหลินหยวนเต็มไปด้วยพลังงานดวงดาวจำนวนมหาศาลครอบคลุมไปทั่วพื้นที่เหนือเซี่ยงเส้าหยุนด้วยพลังงานสีเขียว ไม่ปล่อยโอกาสให้ให้เซี่ยงเส้าหยุนได้รอดชีวิต ทุกคนต่างสงสัยว่าเซี่ยงเส้าหยุนจะรอดไปจากการโจมตีที่หนักหน่วงราวกับภูเขาทั้งลูกได้อย่างไร
ศิษย์จากตำหนักยุทธ์ต่างตื่นตระหนักเมื่อได้เห็นการโจมตีนั้น พวกเขาไม่อาจละสายตาจากการประลองนี้ได้ และทำได้เพียงภาวนาให้เซี่ยงเส้าหยุนรอดชีวิต เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่ที่เข้ามา ดวงตาของเซี่ยงเส้าหยุนก็คมขึ้น เขาตะโกน และชักดาบหมาป่าทองคำก่อนจะเข้าปะทะกับกระบี่
ชิ้ง! เคร้ง!
เกิดประกายไฟหลายครั้งบนอากาศ และระลอกคลื่นมากมายบนผิดน้ำ หลังจากการโจมตีถูกปัดป้อง หลินหยวนไม่จู่โจมซ้ำ กลับกันนั้น เขาตีลังกากลางอากาศ และร่อนลงไปที่ไม้กระดานอีกอัน เมื่อลงไปยังไม้กระดาน เขาควบคุม และร่อนข้ามน้ำไปหาเซี่ยงเส้าหยุน
ไม้นภามืดบอด!
หลินหยวนคู่ควรเป็นหนึ่งในสามอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของสถาบันประตูธง ช่วงเวลาที่เขาโจมตี เขาปลดปล่อยพลังที่ทำให้แม้แต่ผืนดินจะต้องแตกเป็นเสี่ยง ขณะเหวี่ยงกระบี่ขณะปล่อยพลังอันไร้ขอบเขตออกไป สร้างเป็นป่าหนาทึบที่มีขนาดใหญ่พอจะปิดกั้นแสงแดดไม่ให้ลอดผ่านไปได้
ด้วยสิ่งนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวช่วงท้าย ดังนั้น ผู้ที่มีระดับยุทธ์ต่ำกว่าหลินหยวนคงไม่อาจโจมตีเขาได้ง่าย
บนเรือ ลั่วหลินพยักหน้า เขาเกือบจะได้เห็นความพ่ายแพ้ของเซี่ยงเส้าหยุน สำหรับผู้คนในตำหนักยุทธ์ พวกเขาต่างจับจ้องไปที่คู่ต่อสู้ที่กำลังประหม่า และไม่ต้องการพลาดทุกรายละเอียด
ทว่า สิ่งที่พวกเขาได้เห็นนั้นไม่ได้น่าตื่นเต้นอย่างที่พวกเขาคาดไว้ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตี ดวงตาของเซี่ยงเส้าหยุนมีพลังมากขึ้นเมื่อกระแสสายฟ้าทั้งสองพุ่งออกมาจากเขา วิถีการโจมตีของหลินหยวนนั้นดูไร้ค่าไปต่อหน้าต่อตา สิ่งที่แสดงให้เห็นตรงหน้าคือช่องโหว่เล็ก ๆ ในการโจมตี
“ทลาย!” เซี่ยงเส้าหยุนหมอบลงเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งดาบไปด้านหน้า
ดาบซึ่งพุ่งมาจากมุมที่ซับซ้อน ทำให้ผู้อื่นยากจะเห็นการโจมตีนั่น
เคร้ง!
การแทงนั่นไม่ได้เล็งเป้าไปที่หลินหยวน กลับกัน มันเล็งไปที่กระบี่ และเปลี่ยนวิถี ทำให้การโจมตีเปลี่ยนไปที่แม่น้ำแทน
ตู้ม!
การโจมตีสร้างคลื่นที่งดงามยาวกว่าสิบเมตรที่บดขยี้ไปด้านหน้า หลังจากแทง เซี่ยงเส้าหยุนได้ใช้ลูกเตะต่อ
ลูกเตะวายุหมุน!
แม้นี่จะเป็นวิชาขั้นแรก แต่เมื่อถูกใช้โดยเซี่ยงเส้าหยุน ลูกเตะที่รวดเร็วราวกับสายฟ้า และเข้าเป้าไปที่หลินหยวนก่อนที่เขาจะได้ทันตั้งตัว แม้หลินหยวนจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเซี่ยงเส้าหยุนเลย เช่นเดียวกัน หลินหยวนตกลงไปในแม่น้ำ
“ไม่! นั่นมันเป็นไปไมได้!” ลั่วหลินร้องออกด้วยความตกใจ
“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม!” ทันกวงหัว และเจี้ยฉือตะโกนพร้อมกัน
พวกเขาทราบดีว่าเซี่ยงเส้าหยุนเป็นคนพิเศษที่สามารถเป็นนายของผู้อาวุโสเจิ้นเผิงได้ แต่พวกเขาไม่เคยทราบเลยว่าเซี่ยงเส้าหยุนยังมีความแข็งแกร่งมากมายที่ซ่อนอยู่ หากพวกเขาส่งเด็กหนุ่มผู้นี้ออกไปตั้งแต่ทีแรก สิ่งต่าง ๆ คงไม่เลวร้ายเช่นนี้ โชคดีที่ดูเหมือนว่าจะพลิกวิกฤติเป็นชัยชนะได้
“ลูกพี่สุดยอดไปเลย! ศิษย์พี่ของข้านั้นไร้พ่าย!” เซี่ยหลิวฮุยเริ่มตะโกนให้กำลังใจเสียงดังด้วยความตื่นเต้น ด้วยชัยชนะของเซี่ยงเส้าหยุนก็คือชัยชนะของพวกเขาเช่นกัน
“เส้าหยุน สุดยอดไปเลย!” ลู่เสี่ยวฉิงกล่าว ดวงตาเต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ เวลาเดียวกัน ความขมขื่นในใจของนางลึกล้ำมาก สิ่งที่ได้เห็นนั้นพิสูจน์ให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างเซี่ยงเส้าหยุนกับนางนั้นกว้างใหญ่เพียงใด แล้วนางควรทำเช่นไรดี?
แม้แต่กงฉินหยินก็มองดูเซี่ยงเส้าหยุนในแง่มุมที่ต่างไปจากที่นางเคยคิด ‘หรือสิ่งที่อาจารย์กล่าวจะถูก ที่พรสวรรค์ของเราเทียบไม่ได้กับเขาผู้นี้?’
และเป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่เซี่ยงเส้าหยุนจ้องมองไปที่ฟางฉิงเอ๋อด้วยสายตาวิปริต “สาวน้อย ลงมานี่ซะ สิ่งที่พวกเจ้าทำมันเปล่าประโยชน์ ไม่ว่าจะส่งคนมากี่คนก็จะเหมือนเดิม”
“ข้า เหลียวห่าว จะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าเอง!” ผู้เยาว์อีกคนหนึ่งที่จัดการลู่หยานฉวนกล่าว ก่อนหน้าที่ฟางฉิงเอ๋อจะตอบกลับ
“ศิษย์พี่เหลียว โปรดให้ข้าช่วยท่าน!” ผู้เยาว์อีกคนกล่าว นอกจากทั้งสองแล้ว ยังมีอีกคนก้าวไปด้านหน้า และเข้าร่วมโดยไม่กล่าวสิ่งใด
“เฮ้ นี่มันขี้โกงนี่ สถาบันประตูธง” ผู้เยาว์จากตำหนักยุทธ์เริ่มกล่าวอย่างไม่พอใจ
“เขาเป็นคนพูดเองนะ ว่าจะส่งมากี่คนก็ได้เท่าที่ต้องการ” ลั่วหลินตอบกลับ
ทันกวงหัว และเจี้ยฉือนั้นทำได้เพียงเงียบ พวกเขาต่างจดจ่อกับเซี่ยงเส้าหยุน และพยายามหาทางออกจากสถานการณ์เช่นนี้ คราวนี้เขาจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ถึงสามคน ยิ่งไปกว่านั้นคือต้องต่อสู้กันบนน้ำซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
“โอ้? เท่านี้เองหรือ พวกเจ้าเข้ามาเพิ่มอีกก็ได้นะ เอาล่ะ ถึงเวลาที่จะเตะก้นพวกเจ้าเช่นกัน” เซี่ยงเส้าหยุนคำราม ความเคร่งขรึมปกคลุ่มไปทั่วทั้งใบหน้า และเสียงก็ดังก้องราวกับฟ้าร้องที่น่ากลัว เวลาเดียวกันนั้น โครงร่างของมังกร และเสือปรากฏขึ้นในอากาศ
เมื่อคู่ต่อสู้ทั้งสามสัมผัสได้ถึงการเผยตัวของเด็กหนุ่ม พวกเขาต่างรู้สึกได้ทันทีว่าควรจะหยุดการโจมตีทั้งหมดที่พวกเขากำลังจะเริ่ม เซี่ยงเส้าหยุนใช้โอกาสนี้ และโจมตี เขาเหวี่ยงดาบหมาป่าทองคำไปรอบ ๆ และทำให้เลือดพุ่งออกทั้งบริเวณ
“อ๊ากกกก!”
ซู่! ซู่! ซู่!
ทั้งสามส่งเสียงครวญครางที่น่าสังเวชออก ก่อนจะตกลงไปในแม่น้ำ ผู้ชมต่างเงียบลงอีกครั้ง สายตาของพวกเขาเบิกโพลงด้วยความตะลึง ราวกับลูกตากำลังจะหลุดออกจากเบ้าในไม่ช้า ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเซี่ยงเส้าหยุนจะสามารถเอาชนะคู่ตอสู้ทั้งสามได้ง่ายดายเพียงนี้
พวกเขาต่างคิดว่านี่เป็นความฝัน และที่สำคัญกว่านั้น การเผยตัวของเซี่ยงเส้าหยุนที่เล็ดลอดออกมาในตอนนั้น ทำให้พวกเขาอยากจะคุกเข่าลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อนัก
“ยอดเยี่ยม!” ทันกวงหัวตะโกนด้วยความยินดียิ่ง
เคียงข้างเขา เจี้ยฉือเองก็มีความสุขเช่นกัน แม้เพียงคำพูดไม่อาจจะแสดงความสุขในตอนนี้ได้เลย สำหรับเยี่ยเทียนหลงซึ่งไม่ชอบเซี่ยงเส้าหยุนก่อนหน้านี้ เขารู้สึกอึดอัดราวกับกลืนแมลงวัน
พลังแห่งการเผยตัวที่น่ารังเกียจ! เยี่ยเทียนหลงก่นด่าในใจ
อู่หมิงหยางจากตระกูลอู่เองก็เกลียดเซี่ยงเส้าหยุนเช่นกัน แม้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะนำพาชัยชนะมาสู่ตำหนักยุทธ์ มันเป็นเพียงการเพิ่มความปรารถนาที่จะเห็นเซี่ยงเส้าหยุนถูกสังหาร
‘ถ้าเราไม่หาวิธีสังหารมัน ในอนาคตตระกูลอู่ของเราคงจะต้องพบกับความทุกข์ทรมานแน่’ อู่หมิงหยางครุ่นคิดอย่างหดหู่
“เจ้าพวกขยะ! พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์!” ลั่วหลินร้องฟูมฟาย
เขาไม่คาดคิดเลยว่าเด็กหนุ่มผู้นี้จะแข็งแกร่งขนาดนี้ มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพขึ้นไปเท่านั้นสามารถใช้พลังแห่งการเผยตัวได้ มีโอกาสที่เด็กหนุ่มผู้นี้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพ เขาสับสนว่าเหตุใดจึงไม่ส่งเด็กคนนี้ออกมาตั้งแต่ทีแรก ‘หรือนี่จะเป็นกลลวง? พวกเขาวางแผนที่จะให้คู่ต่อสู้ลิ้มรสความสุขก่อนจะพบกับความสิ้นหวังงั้นหรือ?’