ราชาเหนือราชัน – ตอนที่ 121

ดู HENTAI ได้ที่ hanimeza.com

เหตุใดเซี่ยงเส้าหยุนจึงหายตัวไป? ด้วยเขาแยกตัวออกไปเพี ยงลําพังด้วยความต้องการของตนเองก่อนที่จะมาถึงที่แห่งนี้เขาจึงได้ดําเนินแผนการของตนเอง ด้วยเป้าหมายหลักของประลองประจําเมืองคือการฝึกฝน และปรับอารมณ์ตนเองไม่ใช่เกียรติยศ และชัยชนะ หากยังเป็นศิษย์ของตําหนักยุทธ์จะเป็นการยากในการต่อสู้ร่วมกับศิษย์คนอื่นด้วยความแข็งแกร่งของตน

 

ไม่ใช่เพราะเซี่ยงเส้าหยุนไม่ให้ความร่วมมือแต่เขาลําดับความสําคัญของตนเองไว้ อย่างแรกคือต้องแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทําได้ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับภยันตรายใดแม้ว่าชีวิตจะเต็มไปด้วยความเสี่ยง เขาก็ต้องการเผชิญกับมันด้วยตนเอง

 

“อย่าได้กังวล หากบุรุษจะต้องพบกับอันตราย ข้าจะช่วยเหลือเจ้าให้ดีที่สุด” เซี่ยงเส้าหยุนครุ่นคิดขณะมองดูไปยังกลุ่มของตําหนักยุทธ์จากบนหินไม่ไกล

 

หลังจากพบว่าทางตําหนักยุทธ์ได้เริ่มเดินทาง เขาจึงเริ่มเคลื่อนไหว

 

นอกจากอสรพิษจระเข้ทองคําแล้ว หินเหล็กทอง และผลอสรพิษทองคําก็หาได้จากหุบเขาแม่น้ําทองคําเช่นกัน นี่คือสมบัติที่หาได้เพียงที่นี่เท่านั้น เซี่ยงเส้าหยุนคิดในใจ

 

ศิลาโลหะทองคําเป็นถึงสิ่งของระดับราชาหินแต่ละก้อนมีความเหนียว และเหมาะสําหรับสร้างอุปกรณ์สวมใส่ มันมีค่าเทียบเท่ากับยาวิญญาณระดับสูงเลยทีเดียว

 

สําหรับผลอสรพิษทองคํา มันพิเศษกว่ามากด้วยสามารถสร้างพลังงานโลหะรูปแบบหนึ่งภายในร่างกายได้ โดยระดับต่ําสุดของมันคือยาวิญญาณระดับกลางมันมีโอกาสที่จะเป็นยาวิญญาณระดับสูงหรืออาจมากกว่าแม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกภาพเองก็ต้องการที่จะครอบครองมัน

 

เป้าหมายหลักของเหล่าผู้เยาว์คือการสังหารอสรพิษจระเข้ทองคํา ทว่า พวกเขาล้วนต่างคาดหวังว่าจะพบกับสมบัติเหล่านี้เช่นกัน ก่อนที่จะมาถึง เหล่าผู้อาวุโสจากสถาบันต่างบรรยายถึงสรรพคุณของพวกมันให้เหล่าศิษย์ทั้งหมดได้ฟัง

 

บ้างก็สงสัยเกี่ยวกับความลับที่ยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายในหุบเขาแห่งนีและความลับนั่นอาจตอบได้ว่าเหตุใดที่แห่งนี้จึงมีสี

 

ทอง โชคร้ายที่ยอดฝีมือมากมายได้สอบสวนไปแล้วและพวกเขาล้วนไม่อาจเข้าใจได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นที่นี่ เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนต่างก็ต้องหน้าต่อ

 

เซี่ยงเส้าหยุนท่องเที่ยวไปด้วยเส้นทางที่อ้อมซึ่งมีศิษย์จํานวนน้อยมากใช้ เพราะเส้นทางนี้เต็มไปด้วยรากไม้และต้นไม้หนาทึบปกปิดทัศนียภาพ ทําให้มีอันตรายรอบด้านและไม่อาจทราบได้เลยว่าอันตรายจะมาถึงตอนไหน

 

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากมากที่ผู้คนจะเดินทางด้วยเส้นทางนี้แต่นั่นเป็นสิ่งที่เซี่ยงเส้าหยุนจะทํา

 

“มีอันตรายมากมายในที่แห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ซึ่งดีที่สุดในการฝึกฝน เราต้องการที่จะบรรลุขั้นแปดได้ในเร็วไว”

 

ตอนนั้นเอง เสี่ยวไปได้ไต่ขึ้นมาบนไหล่ของเด็กหนุ่มและยึดร่างกายอย่างเกียจคร้าน

 

“ลูกพี่ ออร่าของสถานที่แห่งนี้ทําให้ข้ารู้สึกใกล้ชิดมากข้ารักที่นี่” เสี่ยวไปกล่าว

 

“ออร่าของที่นี่ทําให้เจ้ารู้สึกใกล้ชิดหรือ? เจ้าแน่ใจนะ?” เซี่ยงเส้าหยุนถามด้วยความประหลาดใจ

 

สัตว์ปีศาจมีสัมผัสที่เฉียบคม เซี่ยงเส้าหยุนมั่นใจว่าเสี่ยวไปสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง

 

“ตรงนี้ มันมาจากส่วนลึกของป่า ลูกพี่เราไปที่นั่นได้ไหม? แต่ข้าสัมผัสได้ถึงออร่าเข้มข้นของปีศาจที่นั่นด้วย” เสี่ยวไปก ล่าวขณะชี้ไปที่ทิศทางนั่น

 

“แน่นอน นําทางไปสิ หากเราไปพบกับราชาปีศาจเมื่อถึงตอนนั้นคงต้องพึ่งดวงแล้ว” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว ความตั้งใจในการต่อสู้พลุ่งพล่าน

 

ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกที่เสี่ยวไปกล่าว มันเป็นส่วนต้องห้ามสําหรับศิษย์เช่นเขา แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแปรสภาพเองก็ยังไม่กล้าย่างกรายเข้าไปในที่แห่งนี้ และยอดฝีมือระดับราชาจากนครขอบนภาเองต่างก็เตือนถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะออกเดินทางเช่นกัน เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะโกหก

 

แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเซี่ยงเส้าหยุนช่วยเพิ่มพูนความกล้า ดังนั้น เขาเต็มใจที่จะเข้าหาอันตราย ไม่นานหลังจากที่เขาเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ร่างหนึ่งกระโดดออกจากพุ่มไม้ กรามขนาดใหญ่เปิดขึ้นเหนือเด็กหนุ่มด้วยความเร็วที่มากจนคนธรรมดาไม่อาจตอบสนองได้ทัน

 

เซี่ยงเส้าหยุนมองดูการโจมตีนั่นมานานแล้ว เขาก้าวด้านข้างและสับเข้าที่ด้านหลังของสัตว์ร้ายด้วยมือ

 

ตู้ม!

 

ร่างกายของเซี่ยงเส้าหยุนเต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าทุกตารางนิ้วของร่างกายช่างแข็งแกร่ง การฟันด้วยมือสามารถผ่าหินได้อย่างง่ายได้ และสิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นร่างกายของสัตว์ร้ายตัวนี้แข็งกว่าหินเสียอีก

 

สัตว์ร้ายล้มลงกับพื้นด้วยการโจมตีนั่น มันเผยตัวให้เห็นชัดตรงหน้าเซี่ยงเส้าหยุน ด้วยมีหัวของอสรพิษ และร่างกายของจระเข้ ตัวมันยาวกว่าสามเมตร และเกล็ดสีทอง ทําให้มันดูเป็นสัตว์ร้ายที่หน้าตาแปลกประหลาด

 

มันคืออสรพิษจระเข้ทองคํา เป้าหมายของการแข่งขันครั้งนี้มันเป็นปีศาจชั้นกลาง

 

หลังจากโดนการโจมตีของเซี่ยงเส้าหยุนมีรอยแตกจํานวนมากเกิดขึ้นบนหัวของสัตว์ร้าย แต่มันยังคงมีชีวิตอยู่

 

มันยืนขึ้นอีกครั้ง และฟาดหางเข้าใส่เด็กหนุ่ม ด้วยหนามแหลมที่หาง หากโดนมันฟาดคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่และยัง การโจมตีอันทรงพลังอีก เซี่ยงเส้าหยุนยกเท้าขึ้น และก ระทืบเท้าลงเขาใช้ความแข็งแกร่งถึงแปดในสิบทําให้หางของสัตว์ร้ายแตกออกจากการกระทืบ

อสรพิษจระเข้ทองคําร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด และพยายามจะกัดเซี่ยงเส้าหยุน ทว่าเซี่ยงเส้าหยุนกระทืบเท้าอีกครั้งเข้าที่หัว ทําให้หัวของสัตว์ร้ายแตกเป็นเสี่ยง

 

เมื่ออสรพิษจระเข้ทองคําได้ตายลง แผ่นหยกที่เขาถือได้มี ปฏิกิริยาทันที ข้อมูลจํานวนมากถูกส่งไปยังสมองของเด็กหนุ่ม “สังหารปีศาจชั้นกลางขั้นสาม อสรพิษจระเข้ทองคําได้รับสามสิบแต้ม”

 

สําหรับการแข่งขัน ปีศาจชั้นต่ําจะได้คะแนนเล็กน้อยเท่านั้นหากสังหาปีศาจชั้นต่ําขั้นเก้าก็จะได้รับเพียงห้าแต้ มเท่านั้นหากสังหารปีศาจที่ขั้นต่ํากว่านั้นก็จะได้แต้มน้อยลงไปในทางกลับกัน ปีศาจชั้นกลางจะให้มากกว่า ซึ่งปีศาจชั้นกลางขั้นที่หนึ่งอาจได้ถึงสิบแต้มและขั้นสองยี่สิบแต้ม

 

ขณะที่ปีศาจชั้นสูง หากสังหารปีศาจชั้นสูงขั้นแรกได้ได้ จะได้รับสองร้อยแต้ม สามร้อยแต้มสําหรับปีศาจชั้นสูงขั้นสองดังนั้นผู้ฝึกยุทธ์ที่ระดับสูงกว่าสัตว์ปีศาจพวกเขาจะได้รับแต้มมากกว่าผู้ที่มีระดับต่ํากว่าในการสังหารนั่นเอง

 

“สามสิบแต้มหรือ? นี่เป็นพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น” เซี่ยงเส้าหยุนพึมพําจากนั้นเขาเดินทางต่อ แต่การเดินทางไม่ได้สงบสุขนัก อสรพิษจระเข้ทองคําปรากฏตัวขึ้นตัวแล้วตัวเล่าเขาเริ่มสังหารไปเรื่อย ๆ ระหว่างเดินทาง

“เข้ามาอีก!” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวขณะฟันสัตว์ร้ายด้วยดาบหมาป่าทองคํา

 

ปีศาจชั้นต่ํา และชั้นกลางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซี่ยงเส้าหยุนแม้แต่น้อย ดังนั้น การสังหารตลอดการเดินทางทําให้ร่างกายของเด็กหนุ่มเปียกโชกไปด้วยโลหิตดูราวกับเพชฌฆาตที่น่ากลัวเมื่อสังหารจนหมดสิ้น ดวงดาวภายในเริ่มสั่นไหวแรงขึ้นจุดสูงสุดของขั้นที่เจ็ดดูเหมือนจะแกว่งไปมาราวกับจะสามารถบรรลุขั้นถัดไปได้ตลอดเวลา

 

ทันใดนั้น อสรพิษจระเข้ทองคําชั้นกลางขั้นท้ายได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันถึงห้าตรงหน้าเซี่ยงเส้าหยุนด้านหลังมีก้านกล้วยไม้สีทองแวววาว สัตว์ร้ายทั้งห้าตัวไม่ให้เวลาแก่เซี่ยงเส้าหยุนแม้แต่วินาทีเดียวพวกมันกระโจนเข้าใส่จากมุมที่ ต่างกันทั้งห้าทิศทาง

 

เซี่ยงเส้าหยุนไม่ได้กลัวสัตว์ร้ายทั้งห้าแม้แต่น้อยแต่เขาสัมผัสได้ถึงสัตว์ปีศาจที่ทรงพลังซึ่งกําลังใกล้เข้ามา

ดูซีรีย์ ฟรีได้ที่ series-max.com

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน

我不是大魔王
Score 7.8
Status: Ongoing Released: 2019 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง I’m not the Overlord! ราชาเหนือราชัน เรื่องย่อ นครขอบนภา เมืองอู่ ตำหนักยุทธ์ ตำหนักยุทธ์คือสถานที่ในเมืองอู่ ที่ได้คัดเลือกผู้ฝึกยุทธ์จากต่างเมืองมาเป็นลูกศิษย์ ทุกฤดูใบไม้ผลิ จะมีการคัดเลือกลูกศิษย์หน้าใหม่ เพราะเหตุนั้น บุตรหลานและผู้เยาว์จากหลากหลายหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างก็หลั่งไหลกันมาเพื่อเข้ารับการทดสอบเข้าตำหนักยุทธ์ พวกเขาต่างมาแสวงหาซึ่งกำลัง ในปีนี้ การคัดเลือกเป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์ ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว วันนี้ได้มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่แต่งตัวราวกับบัณฑิตได้ยืนอยู่ตรงหน้าประตูหลักของตำหนักยุทธ์ อ้อนวอนขออนุญาตเพื่อให้ได้เข้าไป เด็กหนุ่มผู้นี้น่าจะมีอายุราวสิบห้าถึงสิบหกปีและมีคุณสมบัติที่ผ่านการขัดเกลามาอย่างดี เป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าที่หล่อเหลาเจิดจ้า ข้อบกพร่องคือร่างกายมีรูปร่างที่ผอมและเสื้อผ้าของเขาก็ขาดรุ่งริ่งราวกับผ่านพ้นอะไรมามากมาย ไม่ต่างกับบัณฑิตผู้ยากไร้ “เจ้าหนุ่ม ข้ากล่าวไปหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดเจ้ายังดื้อรั้นอยู่อีก? ช่วงเวลาที่ตำหนักยุทธ์ได้คัดเลือกเหล่าลูกศิษย์ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ถ้าหากเจ้าอยากจะเข้าร่วมตำหนัก เจ้าจงรอฤดูใบไม้ผลิครั้งหน้าและจงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง” ทหารยามที่ยืนเฝ้าสังเกตการณ์ข้างหน้าตำหนักได้กล่าวต่อสักคำหนึ่งกับเด็กหนุ่มราวกับใกล้จะหมดความอดทน ทหารยามอีกคนหนึ่งเผยท่าทีดุร้ายจับจ้องประหนึ่งคมมีดไปยังเด็กหนุ่มพร้อมตะคอกใส่ “เจ้ามาที่นี่ก็สามวันแล้ว หากเจ้ายังไม่ไปให้พ้นจากตรงนี้ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เตือนนะ” ทหารยามทั้งสองเชี่ยวชาญในการรับมือกับบุคคลที่ไร้ยางอายที่จะคิดเข้าไปให้ได้ เด็กหนุ่มเผยรอยยิ้มเจิดจ้าและหัวเราะ พูดว่า “พี่ชายทั้งสองอย่าทำเช่นนี้เลยข้า เซี่ยงเส้าหยุนเป็นอัจฉริยะที่พบเห็นได้ในรอบร้อยปี! ตราบใดที่พวกท่านอนุญาตให้ข้าเข้าไปข้างใน ข้าก็จะได้เป็นลูกศิษย์ของตำหนักยุทธ์อย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นนะ ข้ายังจะเป็นลูกศิษย์ที่เลิศล้ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของตำหนักยุทธ์! และเมื่อนั้นข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านทั้งสองเลย” “ไร้สาระ! เรียกตัวเองว่าอัจฉริยะในรอบร้อยปีงั้นรึ? มองดูรูปร่างผอมบางของเจ้าก่อนไหม? ข้าเดิมพันว่าเจ้ารับหมัดของข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ!” ทหารยามเผยสายตาดุร้ายขณะที่เขาตวาดเด็กหนุ่มพร้อมปล่อยหมัดออกไป ขณะที่หมัดกำลังเข้าใกล้ เด็กหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าเซี่ยงเส้าหยุนตะโกนขึ้น “หยุดนะ” ดูเหมือนว่าเสียงร้องของเซี่ยงเส้าหยุนจะได้ผล มีพลังอำนาจบางอย่าง ราวกับว่าเขาคือบุคคลที่คนนับหมื่นจะต้องตกอยู่ภายใต้ตัวเขา ทหารยามผู้ที่มีสีหน้าดุดันเหม่อมองชั่วขณะหนึ่ง ดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดจากตัวเด็กหนุ่ม แรงกดดันมหาศาลที่อธิบายไม่ได้ที่ฉายผ่านดวงตาที่มองมา ถึงแม้ว่าทหารยามยังคงเย้ยหยันอย่างเย็นชา “กลัวแล้วงั้นรึ? งั้นก็ไสหัวไปซะไม่อย่างนั้นวันนี้จะต้องได้เห็นดีกันแน่” “นี่มันช่างน่าขัน นายน้อยผู้นี้ได้พบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใยจึงต้องหวาดกลัวด้วยเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนคิดกับตัวเอง แต่ทว่าท่าทียังคงชวนสงสารเวทนา เขาเผยรอยยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ดูสิ่งนี้สิ!” ในมือของเขาปรากฎชิ้นส่วนหินที่ส่องแสง หินก้อนนั้นดูบริสุทธิ์และไร้มลทิน ผู้ใดพบเห็นย่อมต้องตกตะลึง ทหารยามหวาดระแวงที่จะจ้องมองหินก้อนนั้น เมื่อมองให้ดี สีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไปราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น เซี่ยงเส้าหยุน หัวเราะ “ฮี่ฮี่ อยากได้ใช่มั้ยล่ะ? ถ้าเกิดว่าให้คุณชายคนนี้ได้เข้าสู่ตำหนัก เจ้าเศษหินนี่…” เพี๊ยะ! ก่อนที่เซี่ยงเส้าหยุนจะพูดจบ ทหารยามได้ฟาดฝ่ามือใส่เขา หินส่องแสงโดนตบหลุดไปจากมือของเซี่ยงเส้าหยุน “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ใช้หินขยะนี่มาติดสินบนข้า! ข้าคิดว่าถ้าเจ้าไม่ได้เห็นโลงศพ เจ้าก็จะไม่มีวันหลั่งน้ำตาสินะ” ทหารยามยกหมัดขวาเข้าใส่เซี่ยงเส้าหยุนและกำลังจะต่อยไปยังใบหน้าของเด็กหนุ่ม “เวรเอ้ย ข้าจะเจอคนมีตาแต่หามีแววไม่อีกเท่าไหร่กัน” เซี่ยงเส้าหยุนก่นด่าตัวเขาเอง เขาหลับตาลงโดยที่ไม่ต้องทะเลาะเพราะรู้ว่าตัวเขาเองไม่มีทักษะที่จะต้านรับมันได้ ขณะที่กำปั้นกำลังจะเข้าไปทักทายใบหน้าของเด็กหนุ่ม ก็มีเสียงทุ้มลึกและดุดัน ดังขึ้น “หยุดเดี๋ยวนี้!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset