“เราจะต้องจบมันโดยไว” เซี่ยงเส้าหยุนคิด ในตอนนั้นเองเขาเริ่มเร่งฝีเท้าเพื่อก้าวไปท่ามกลางอสรพิษจระเข้ ทองคําทั้งห้าตัวเขาฟันดาบหมาป่าทองคําทั้งซ้าย และขวาขณะพุ่งตัวผ่านฝูงจระเข้
วิชาดาบหมาป่าทองคํา! เต็มพลัง!
เมื่อผู้ฝึกยุทธ์ใช้วิทยายุทธ์ด้วยทักษะอันไร้ที่ติ วิทยายุทธ์จะได้รับการเสริมพลัง พลังงานจากดาบพุ่งผ่านอากาศพร้อมเสียงโหยหวนของหมาป่า และตัดหัวของสัตว์ร้ายทั้งห้ากระเด็นไปไกล
แต่หลังจากการโจมตีนั่น ดาบหมาป่าทองคําก็ถูกทําลายลง อสรพิษจระเข้ทองคํามีหนัง และเนื้อแข็งเกินไปสําหรับดาบเล่มนั้น หากไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของงเซี่ยงเส้าหยุนดาบคงไม่สามารถทะลุผ่านหนังของพวกมันได้ ดังนั้นการตัดหัวของสัตว์ร้ายทั้งห้าจึงเป็นภารกิจสุดท้ายของดาบหมาป่าทองคํา
ในตอนนั้นเอง อสรพิษจระเข้ทองคําตัวใหญ่ได้มาถึง มันไม่ได้เข้าโจมตีทันทีเหมือนกับสัตว์ร้ายตัวอื่น มันจับจ้องไปที่เซี่ยงเส้าหยุน และแลบลิ้นเหมือนงู มันกําลังสังเกตคู่ต่อสู้ราวกับรู้ว่าเด็กหนุ่มเป็นคนทรงพลังซึ่งต้องโจมตีแบบหนักหน่วง
เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนมองไปที่สัตว์ร้าย มันก็เริ่มล่าถอยไป ดูราวกับไม่ต้องการต่อสู้กับเซี่ยงเส้าหยุน
“เฮ้ย อย่าหนี้สิ เจ้าเป็นอาหารเย็นของข้านะ!” เซี่ยงเส้าหยุนพุ่งไปข้างหน้า และแทงดาบหมาป่าทองคําไปที่อสรพิษจระเข้ทองคํา
ศิษย์คนอื่นเมื่อเผชิญกับปีศาจชั้นสูงเช่นนี้คงจะหนีอย่างไม่คิดชีวิตแม้แต่วินาทีเดียว แต่แทนที่จะหนี เซี่ยงเส้าหยุนกลับไล่ตามสัตว์ร้าย นี่เป็นผลจากความจต่างระหว่างความแข็งแกร่งของทั้งสอง
เช้ง!
เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนฟันดาบไปที่อสรพิษจระเข้ทองคํา มันไม่อาจทะลุผ่านหนึ่งของสัตว์ร้าย และเกิดเสียดังก้องกังวานหนังของสัตว์ร้ายตัวนี้หน้าพอจะทนทานอาวุธขั้นสาม ด้วยเหตุนี้ ดาบที่ฟังอยู่แล้วก็ยิ่งแตกสลายลงไปอีกครั้ง
ด้วยความเจ็บปวด อสรพิษจระเข้ทองคําได้โต้กลับและปล่อยลําแสงสีทองเข้าใส่เด็กหนุ่ม เซี่ยงเส้าหยุนพลิกร่างกายไปด้านข้างของสัตว์ร้ายก่อนจะกระแทกด้วยหมัด
หมัดอัสนีบาต!
เซี่ยงเส้าหยุนใช้วิชาหมัดที่บรรลุถึงขั้นกลาง เมื่อหมัดถูกปล่อยออก หมัดซึ่งเต็มไปด้วยพลังสายฟ้าสีม่วงโดยกําเนิดและเมื่อมันสัมผัสกับผิวของจระเข้ก็ระเบิดออก กระแสไฟฟ้าเผาไหม้ผิวหนังของอสรพิษจระเข้ทองคําจนไหม้เกรียม สัตว์ร้ายพลิกตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด สร้างความยุ่งเหยิงเป็นวงกว้าง
เซี่ยงเส้าหยุนไม่ต้องการปล่อยสัตว์ร้ายไป เข้าไปด้านหลังของจระเข้ กอดหนางของมัน และทุ่มอสรพิษจระเข้ทองคําไปรอบข้าง
ตู้ม! ตู้ม!
เซี่ยงเส้าหยุนทุ่มสัตว์ร้ายไปที่ก้อนหินใกล้กันหลายครั้งจนมันตาย เขาได้รับแต้มเพิ่มอีกครั้ง เพียงสองวันเท่านั้นแต่เขากลับรวบรวมแต้มได้ถึงหกร้อยหกสิบแต้ม เป็นความเร็วที่ไม่มีศิษย์คนใดทําได้เช่นนี้
หลังจากสังหารอสรพิษจระเข้ทองคํา เขาไม่เดินทางต่อเขาแล่เนื้อ และย่างอสรพิษจระเข้ทองคํา ด้วยใช้พลังงานมากมายตลอดทั้งวัน ได้เวลาเติมเต็มแล้ว
หลังจากเซี่ยงเส้าหยุนกินเสร็จ เขาพบว่ามีสิ่งที่น่าตกตะลึงในร่างกายของเขา พลังงานโลหะหลั่งไหลเข้าสู่ดวงดาวภายในแม้พวกมันจะเป็นสัตว์ที่ดุร้าย แต่ก็มีความบริสุทธิ์อย่างหาที่เปรียบมิได้ ด้วยความสามารถในการจ้องมองภายใน เขาสามารถเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
นี่ไม่ใช่อสรพิษจระเข้ทองคําตัวแรกที่เขากิน แต่ก็ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาก่อน มีเพียงตัวที่เป็นปีศาจชั้นสูงเท่านั้นหรือถึงจะมีพลังงานโลหะบริสุทธิ์?” เซี่ยงเส้าหยุนครุ่นคิด
แม้ว่าโลหะเหล่านี้จะบางเบามาก แต่ก็ยังเติมเต็มพลังงานของเขาได้มหาศาล พวกมันยังเพิ่มความตคุ้นเคยระหว่างเขากับธาตุโลหะได้อีกด้วย
“เนื้อของสัตว์ปีศาจสามารถเพิ่มพลังชีวิตได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราสัมผัสได้ถึงพลังงานไหลเวียนจากการกินเนื้อสัตว์ร้าย” เซี่ยงเส้าหยุนเริ่มครุ่นคิดอีกครั้ง ขณะที่จิตใจหลงไปกับข่าวลือที่เขาได้ยินเกี่ยวกับความลับของหุบเขาแม่น้ําทองคําหรือความลับนั่นจะเกี่ยวข้องกับอสรพิษจระเข้ทองคําจํานวนมากเช่นนี้
เขาจ้องไปที่เสี่ยวไป และพบว่ามันมีความสุขกับมื้ออาหารเช่นเดียวกับเขา เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวไปเองก็สัมผัสได้ถึงพลังงานโลหะเช่นกัน เขานึกถึงสิ่งที่สหายตัวน้อยกล่าวไว้ก่อนหน้าด้วยเป็นสถานที่ซึ่งเสี่ยวไปสัมผัสได้ถึงออร่าที่หนาแน่นบางทีเขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับบางสิ่งโดยบังเอิญที่ไหนสักแห่งในหุบเขาแห่งนี้
เซี่ยงเส้าหยุนเริ่มนั่งสมาธิ ผลักดันระดับยุทธ์ให้บรรลุก้าวข้ามขั้นระดับดวงดาวขั้นเจ็ด เมื่อถึงจุดนั้น เขาสามารถบรรลุได้ตลอดเวลาตามที่ใจต้องการ แต่เขายังคงระงับความก้าวหน้านั่นไหวและสร้างรากฐานของตนเองต่อ การเร่งรีบไม่เคยเป็นเรื่องดี
วันถัดมา เขานํากล้ายไม้ทองคําให้เสี่ยวไปกินด้วยต้องการช่วยให้มันแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ในปัจจุบันเสี่ยว ไปได้กลายเป็นปีศาจชั้นสูง และไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเซี่ยงเส้าหยุนเลย
แต่สําหรับเซี่ยงเส้าหยุน นั่นก็ยังห่างไกลเกินกว่าคําว่าพอเขาต้องการให้เสี่ยวไปเป็นราชาปีศาจให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันเขาจะสามารถทะยานไปบนท้องฟ้าได้เพียงแค่ขี่เสี่ยวไป ท่องเที่ยวไปทั่วทุกหนแห่งอย่างง่ายดาย เสี่ยวไปไม่รีรอกลืนกล้วยไม้ทองคําทันที เขาเองก็จําเป็นต้องใช้พลังงานมหาศาลในการเติบโต และกล้ายไม้ทองคําก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากต่อเขา
เซี่ยงเส้าหยุนเริ่มเดินทางอีกครั้ง และเข้าไปในป่าลึกเขาได้พบกับอสรพิษจระเข้ทองคํามากมายระหว่างทาง พวกมันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ทําให้การเดินทางช้าลงมากเขารู้สึกได้ว่ากําลังมุ่งหน้าไปยังรังของอสรพิษจระเข้ทองคําการต่อสู้อันขมขึ้นจะทําให้เขาอารมณ์ดีขึ้น
สามวันผ่านไป เซี่ยงเส้าหยุนสามารถรวบรวมได้ถึงสองพันห้าร้อยแต้ม ซึ่งเขาได้รับจากการสังหารปีศาจชั้นสูงมากมายระหว่างเดินทาง ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ขณะที่เสื้อผ้าขาดวิ่น และเขรอะไปด้วยเลือด
หากไม่ใช่เพราะเกราะชั้นในระดับราชาที่เขาสวมใส่เขาคงตายไปนานแล้ว ด้วยเหล่าอสรพิษจระเข้ทองคํามีการป้องกันและการโมตีที่น่ากลัว ความประมาทจะทําให้เขาถูกสังหารได้โดยง่าย
วันนี้ ด้วยเสี่ยวไปได้เข้าร่วมการต่อสู้ เมื่อมันขยายร่างทําให้ดูน่าเกรงขาม และน่ากลัวพอกันกับอสรพิษจระเข้ทองคํา เขาสามารถเห็นได้ว่ามีสัตว์ร้ายตัวไหนจู่โจมเข้ามาขณะที่ร่างกายเปล่งออร่ารุนแรง
เพราะเหตุนี้ อสรพิษจระเข้ทําคําที่เป็นปีศาจชั้นสูงขั้นสามได้ถูกเสี่ยวไปกัดจนตาย แม้จะได้รับชัยชนะ แต่ร่างกายก็เต็มไปด้วยบาดแผลเช่นกัน ในขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนไม่ได้ใช้มือเปล่าต่อสู้อีกต่อไป เขาตัดหัวของปีศาจชั้นสูงอีกสองตัวด้วยกระบี่ราชันผ่าเมฆา ก่อนจะถอยกลับไปพร้อมกับเสี่ยวไป เขาพบว่าหากเดินทางต่อจะพบกับปีศาจชั้นสูงช่วงท้ายอีกมากมาย
เซี่ยงเส้าหยุนต้องการเพียงปรับอารมณ์ของตนเองและ ได้พบกับกับความลับที่ซ่อนอยู่โดยบังเอิญ แต่เขามั่นใจว่าการมีชีวิตรอดนั้นสําคัญเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งสองซ่อนตัว และเริ่มรักษาบาดแผลโดยหลบอยู่หลังก้อนหิน
พวกเขาอยู่ในสภาพที่แย่มาก หากถูกซุ่มโจมตีในตอนนี้สิ่งต่าง ๆ จะต้องลําบากขึ้นมาก แต่แทนที่จะเป็นอสรพิษจระเข้ทองคํา กลับเป็นศิษย์จากสถาบันอื่นมาพบตัวเขาแทน
“เหอะ เหอะ พบเจ้าแล้ว เจ้ามีความสามารถนักหรือหมาย นี่เจ้าสามารถเข้ามาถึงส่วนลึกของหุบเขาได้เชียวหรือ?” เสียงที่น่ากลัวดังขึ้น
เนื่องจากบาดแผลของเขา เซี่ยงเส้าหยุนจึงหาที่หลบซ่อนอย่างมิดชิด แต่ถึงกระนั้น บุคคลเหล่านี้กลับสามารถเข้าถึงตัวได้โดยที่ไม่ทันสังเกต เป็นข้อสังเกตได้ว่าเขาสามารถปกปิดตัวตนได้ดีเพียงใด