อธิบาย
หลังสกาเล็ตถูกจับมาโดยพวกโจร
สกาเล็ตลืมตาตื่นขึ้นด้วยอาการมึนงง..นางพบว่ามิร่าเองก็ถูกขังรวมกันอยู่กับนางและหญิงสาวอีก 4 ราย สกาเล็ตเริ่มตั้งสติและเรียบเรียงเหตุการ
นางได้ถามหญิงสาวทั้ง 3 ว่าพวกนางมาจากไหนชื่ออะไร?
หญิงสาวคนแรกชื่อว่า มาริ นางมาจากหมู่บ้านฝั่งตะวันตกพ่อแม่ของนายขายนางให้กับกลุ่มโจร
หญิงสาวคนที่สองชื่อ แอมมี่ นางบอกแค่ว่านางถูกลักพาตัวมา นางแสดงออกถึงความกลัวอย่างชัดเจน สกาเล็ตจึงไม่ถาม นางมากมายนัก
หญิงสาวคนที่สามนางบอกว่านางชื่อ แอริส นางบอกว่านางก็ถูกลักพาตัวมาเช่นกัน แต่สีหน้าของนางมิได้แสดงออกถึงความกลัวแต่อย่างใด
“นี่พวกเขาจับเรามาทำไมกัน? ” มิร่าถามกับสาวๆ
“ข้าเองก็ไม่รู้ แต่ก่อนหน้านี้พวกมันก็จับสาวๆคนอื่นมาแต่พวกนางก็หายไปทีละคน..” แอมมี่ตอบด้วยเสียงสั่น
“ข้าพึ่งถูกพาตัวมาข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน” มาริตอบ
“…” แอรีสเงียบและนั่งกอดเข่าไว้
“พวกเจ้าคิดจะหนีไปจากที่นี่หรือไม่?” สกาเล็ตถามสาวๆ
“ข้าก็อยากเพียงแต่พวกเราเป็นเพียงสาวชาวบ้าน จะทำยังไงได้ถึงจะหนีจากพวกโจรพวกนั้นได้..” แอมมี่ตอบ
“ข้าเคยออกล่าสัตว์กับที่บ้านอยู่บ้าง ข้าพอจะใช้ธนูเป็น” มาริบอก
“เอาล่ะข้ามีแผนพวกเจ้ารวมกัน” สกาเล็ตเรียกทุกคนมารวมกันเพื่อวางแผน
สกาเล็ตและสาวๆเริ่มวางแผนการหนี และเตรียมตัว..เพียงแค่รอเวลา
กลางดึกคืนนั้น
สกาเล็ตและเหล่าสาวๆเตรียมตัวเพื่อจะหลบหนีโดยแผลการขั้นแรกของพวกเธอคือล่อให้ผู้คุมเข้ามา และจัดการเขา
“โอ้ย…คุณหนูข้าปวดท้องเหลือเกิน” มิร่าทำเป็นปวดท้องและร้องเสียงดัง
“ไม่เป็นไรนะมิร่าข้าจะไปตามคนมาช่วย..” สกาเล็ตพูดและเดินไปหาผู้คุมที่เดินผ่าน
“นี่ ท่านผู้คุม..ดูเหมือนนางจะไม่ค่อยสบาย ได้โปรดนำผ้าชุบน้ำร้อนมาให้นางได้หรือไม่?” สกาเล็ตถามผู้คุม
“สาวน้อย ดูเหมือนพวกเจ้าจะไม่เข้าใจสถาณะการ เจ้าเป็นนักโทษ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์จะร้องของสิ่งใด” ผู้คุมพูดพร้อมกับหัวเราะ
“ได้โปรดนายท่าน..หากท่านช่วยนางข้าจะยอมเล่นกับท่าน…” สกาเล็ตพูดและทำสีหน้าอ้อน
“หึ..เจ้าก็สวยเหมือนกันนี่ ก็ได้เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ เดี๋ยวข้ากลับมา” ผู้คุมพูดและยิ้ม
หลังผู้คุมเดินจากไป สกาเล็ตก็บอกกับสาวๆให้เตรียมพร้อม
“เอาล่ะ ถ้าเขาเข้ามาพวกเจ้าก็จัดการเขาได้เลย เดี๋ยวข้าจะล่อเขาไว้เอง” สกาเล็ตพูด
มิร่าและมาริหยิบไม้ที่ใช้หนุนหัวนอนขึ้นมาเตียมพร้อม
หลังจากนั้นไม่นานผู้คุมก็กลับมาพร้อมกับผ้าชุบน้ำอุ่น เข้าเปิดประตูเข้ามาและโยนผ้าให้กับมิร่า หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปหาสกาเล็ต สกาเล็ตที่กำลังหลอกล่อ ก็เริ่มดึงเสื้อลง…
ไม่กี่วินาทีต่อมาสกาเล็ตก็ส่งสัญญาณให้ทุกคนจัดการ ทันทีที่สิ้นสุดสัญญาณทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก รู้ตัวอีกทีผู้คุมก็ถูกจัดการลงเสียแล้ว
“เอาละหยิบอาวุธจากตัวเขาและพวกเรารีบไปกัน” สกาเล็ตบอกกับสาวๆ
สาวๆค้นอาวุธและได้ มีดสั้น 2 เล่ม, ดาบ 1 เล่ม, น้ำ 2 ขวด, และขนมปังกรอบ 2 ก้อน สกาเล็ตจึงขอใช้ดาบ และมอบมีดสั้นให้กับ มาริ แอริส เนื่องจาก มิร่าและแอมมี่พวกนางกลัวจนเกินไป สกาเล็ตจึงตัดสินใจให้พวกนางทั้งสองหลบอยู่ด้านหลัง
ทั้ง 5 คนเดินไปเรื่อยๆเพื่อหาทางออก ในขณะเดียวกันโจรที่ถูกทุบจนสลบก็ได้สติ และ ตะโกนออกมาว่า “พวกนางได้หนีไปแล้ว!!” โจรทุกคนเมื่อรู้ว่ามีนักโทษหนีจึงเริ่มออกตามหาพวกนาง
2 ชั่วโมงผ่านไป
“นี่สกาเล็ตพวกเราก็เดินกันมานานแล้ว ทำไมเราถึงยังไม่เจอทางออกกันสักที” แอมมี่ถาม
“นั้นสิพวกเราเดินทางกันมานานแล้วพักกันสักหน่อยไหม?” สกาเล็ตถาม
ทุกคนเห็นด้วยกับการพักเพื่อเก็บแรงไว้หนีต่อ
สกาเล็ตมอบอาหารและน้ำให้ทุกๆคนเพื่อจะให้ทุกคนได้มีแรงเพื่อหนีต่อ
รังของพวกโจรมันเหมือนกับเขาวงกต หากไม่ใช่คนในพวกนางก็ไม่มีทางหาทางออกได้เลย สกาเล็ตคิดว่าพวกนางอาจจะใช้เวลามากกว่า 1 วันเพื่อหนีออกจากรังโจรแห่งนี้..
ย้อนกลับไปก่อนสกาเล็ตถูกจับทางด้านลูคัส
การต่อสู้ของลูคัสและบามอท เห็นได้ชัดเจนว่าลูคัสไม่มีทางจะสู้บามอทได้เลย
เสียงดับปะทะกับขวานอันใหญ่ของบามอทดังไปทั่ว..
ลูคัสรู้ตัวดีว่าเขาไม่มีทางที่จะสู้บามอทได้เขาจึงเลือกที่จะพุ่งเข้าไปหาบามอทโดยตรง
“ย๊าาาา” เสียงลูคัสร้องและพุ่งเข้าไปหาบามอท
…และในที่สุดการต่อสู้ก็เหมือนจะจบลง ลูคัสถูกบามอทเหวียงขวานเข้าหาอย่างจัง แต่เขานำดาบมารับไว้ได้ทัน
แต่ตัวเขาก็กระเด็นไปกองอยู่ที่พื้น..
บามอทเดินเข้ามาหาลูคัสที่นอนกองอยู่ที่พื้นและพูดกับลูคัสว่า “แม่นางที่หนีไป เจ้าคงคิดว่านางจะรอดสินะ น่าขำยิ่งนัก ข้าได้สั่งให้ลูกน้องของข้าไปดักรออยู่ก่อนแล้ว ฮ่าๆๆๆ” บามอทพูดและหัวเราะเสียงดัง
ลูคัสที่ได้ยินดังนั้นเขาพยามจะคลานไปหาสกาเล็ต…ในหัวของเขาคิดเพียงแต่ว่า “ข้าขอโทษ.. ข้าน่าจะไปกับเจ้า..”
บามอทเดินตามมาและพูดว่า “ข้าจะส่งเจ้าไปที่ชอบๆเอง” บามอทเตรียมจะปิดชีพของลูคัส…
ในขณะเดียวกัน ลุงยิ้ม(หัวหน้าอัศวิน) ก็พยามควบม้ามาอย่างเร่งรีบเพื่อให้ถึงป้อมปราการให้ไวที่สุด….แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป..
ในขณะที่ลูคัสตกอยู่ในความสิ้นหวังและเตรียมตัวเตรียมใจที่จะตาย.. ท้องฟ้าก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ภาพตรงหน้าของเขาคือ สาวน้อยร่างเล็กผู้มาพร้อมกับชุดสีทอง ผมของเธอเป็นสีฟ้าประกาย ใบหน้าของเธอเปรียบดังตุ๊กตา.. แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น คือปีกทั้ง 8 ของเธอเปร่งแสงราวกับดวงจันทร์ยามเต็มดวง เสียงของปีกนาง เป็นดั่งเสียงเพลงไพเราะ
“เจ้าหนู…โชคชตาของเจ้าช่างน่าเศร้ายิ่งนัก แม่นางผู้ที่เศร้าเป็นห่วง นางได้ร้องขอต่อข้าไว้ ว่าขอให้เจ้าปลอดภัย” เสียงของสาวน้อยพูด สะท้อนราวกับเสียงฟ้าผ่ายามพายุโหมกระหน่ำ แต่น้ำเสียงฟังดูไพเราะกว่ายิ่ง
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้ได้มีชีวิตอยู่เจ้าต้องการมันหรือไม่” สาวน้อยปริศนาพูด
“ขะ..ข้าต้องการ” ลูคัสตอบด้วยลมหายใจสุดท้าย
“เจ้าพูดกับใครว่ะ!?” บามอทพูดพร้อมกับมองกลับไป เขาถึงกับล้มเขาทรุดลงเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า
“เจ้านี่ไร้มารยาทเสียจริง” สาวน้อยปริศนาพูดพร้อมกับยื่นมือ ไปทางบามอทและกำมือ..ทันใดที่สาวน้อยปริศนากำมือ ร่างของบามอทก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาไม่มีโอกาศแม้แต่จะกรีดร้อง…
“เอาล่ะ ข้าจะรักษาให้เจ้าจากนี้ไปจงใช้ชีวิตให้ดี” สาวน้อยปริศนาพูดจบและร่ายเวท Divine Healing
ร่างกายของเขาค่อยๆฟื้นฟู แต่พละกำลังไม่ได้ฟื้นฟูตามนั้นทำให้เขาสลบไป..และคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงฝัน
ปัจจุบันทางด้านลุงยิ้ม
ลุงยิ้มกลับมาถึงป้อมปราการ แต่ทุกอย่างมันก็สายไป เขากลับมาพบเพียง ศพของกลุ่มโจรและอัศวินที่ปกป้องป้อมปราการอย่างสุดความสามารถ..ลุงยิ้มรีบไปดูที่ห้องพยาบาลและหวังอย่างยิ่งว่าเขาจะไม่พบศพของผู้เป็นดั่งลูกสาวของเขา..
เมื่อเขามาถึง ลุงยิ้มดีใจเป็นอย่างมากที่อย่างน้อยเขาก็ไม่พบศพของสกาเล็ตและลูคัส เขาคิดว่าสกาเล็ตและลูคัสคงหนีไปได้
ทันใดนั้นก็มีอัศวินคนนึงเข้ามาแจ้งว่าพบร่างของลูคัสนอนสลบอยู่ด้านหลัง..
“ท่านครับ ผมพบลูคัสสลบอยู่ด้านหลัง” อัศวินกล่าว
“แล้วสกาเล็ตล่ะ?..” ลุงยิ้มถาม
“ยังไม่พบนางเลยครับ” อัศวินกล่าว
“หวังว่านางจะไม่เป็นไร” ลุงยิ้มคิดในใจและเดินไปหาลูคัส
ลุงยิ้มเดินมาเพื่อพบลูคัส และได้พบกับร่างไร้วิญญาณของบามอท
“ลูคัส.. ลูคัส.. เจ้าเป็นอะไรไหม?” ลุงยิ้มเรียกลูคัส
ลูคัสตื่นขึ้น “ทะ…ท่านหัวหน้า เกิดอะไรขึ้น” ลูคัสถาม
“พวกมันโจมตีลอบโจมตีหลังพวกข้าออกไปข้าน่าจะรู้” ลุงยิ้มพูด
“นี่เรื่องจริงงั้นรึงั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่ความฝันนะสิ” ลูคัสคิดในหัว
“หัวหน้า..สกาเล็ตนางถูกพวกมันจับไป พวกเราต้องรีบแล้ว” ลูคัสพูดและรีบลุกขึ้น
“ข้าเข้าใจแล้ว เรากำลังเตรียมออกเดินทางกันอีกครั้ง เรารู้ที่ซ่อนของพวกมันแล้ว” ลุงยิ้มพูดและจับไหล่ของลูคัสเบาๆ
“เจ้าสังหารบามอทอย่างงั้นรึ?” ลุงยิ้มถาม
“ปะ..เปล่า ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดออะไรขึ้น” ลูคัสตอบ
ลูคัสคิดว่าสิ่งที่เขาพบเจอเมื่อวานเขายังไม่ควรพูดอะไรไปเนื่องจากมันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก
“แผลเจ้าก็หายดีแล้วสินะ..” ลุงยิ้มพูดลอยๆ
ในใจของลุงยิ้มก็แปลกใจเกี่ยวกับแผลที่หายดีไวผิดปกติของลูคัส และเรื่องที่บามอทผู้แข็งแกร่งตายในสภาพเช่นนั้น
“เอาล่ะเจ้าไปเตรียมตัวออกเดินทางเถอะ เราจะไป” ลุงยิ้มพูดและเดินออกไป
กลุ่มอัศวินเตรียมตัวสำหรับเดินทางในวันถัดไป พวกเขาทุกคนมีความโกรธเหมือนกันทุกๆคนที่กลุ่มโจรมันกล้าทำถึงขนาดนี้
ปัจจุบันทางด้านสาวๆและสกาเล็ต
“เอาล่ะพวกเราต้องเดินทางต่อแล้…” สกาเล็ตพูดยังไม่ทันจบก็มีกลุ่มโจรเดินออกมาล้อมพวกนาง
“จะไปไหนหรอจ้ะสาวๆ” โจร 1 กล่าว
“นั้นสิรีบไปไหนกันจ้ะ” โจร 2 กล่าว
“จับพวกนางแยกออกมา” หัวหน้ากลุ่มโจร กล่าว
“เอาละในเมื่อพวกเจ้าดื้อข้าก็จะต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว ” หัวหน้ากลุ่มโจร กล่าว
โจร 1 ดึงแอมมี่มาและฉีกเสื้อผ้าของนางออก
“ไม่น่ะ !!” แอมมี่ร้องตะโกน
“ปล่อยนาง!!” สกาเล็ตพูด และพยามดิ้นจากโจร 2
“อยู่เฉยๆ เจ้าคิดจะทำอะไรกัน!!” โจร 2 กล่าว
ในขณะนั้นเอง มาริได้วิ่งออกมาจากโจร 3 และวิ่งไปผลักโจร 2
“หนีไปส่ะสกาเล็ต หนีไป!!” มาริกล่าว
สกาเล็ตกำลังจะวิ่งหนีไปนางหันกลับมาเห็นโจร 2 กำลังจะใช้ดาบฟันมาริ
“สาระแนนักนะใยตัวแสบ!! ตายส่ะเถอะ” โจร 2 กล่าวและกำลังจะฟัน
ในขณะนั้นสกาเล็ตก็วิ่งกลับมาและหันหลังรีบดาบแทนมาริ
*ฉึบบ* เสียงใบมีดฟันเข้าร่างของสกาเล็ต
“ขะ…ข้าจะไม่ทิ้งใครไปไหนอีกแล้ว” สกาเล็ตพูดและล้มลง
“คุณหนู!!” มิร่าพูดเมื่อเห็นคุณหนูของตนโดนฟัน
“พวกเจ้ามันชักจะมากเกินไปแล้ว!!” มาริกล่าว
“มากเกินไป? เจ้าชักจะพูดมากเกินไปแล้ว!!” โจร2 พูดและกำลังจะฟันมาริอีกคน
“ไม่นะ!!” เสียงของแอมมี่ที่กำลังจะถูกข่มขืนร้องลั่น
ในขณะที่ทุกคนกำลังจะสิ้นความหวังก็เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นทั่วห้อง แสงนั้นมาจากปีกของแอริส..ตอนนี้แอริสได้เปิดเผยตัวจริงของนางแล้ว “แอริสเทวทูตแห่งความรัก” ปีกทั้ง 4 ของนางส่องแสงสว่างไปทั่ว
“สกาเล็ตครานี้ข้าชักจะชอบเจ้าขึ้นมาแล้วสิ เจ้ามีเป็นคนจิตใจดี มีความรักความเมตตา ตอนแรกเองข้าก็ไม่ชอบเจ้าเท่าไหร่เพราะเจ้ามีพลังของ ไอ้เจ้านั้นอยู่ในตัว” เสียงแอริสพูดกึกก้องไปทั่ว
“ก่อนอื่นข้าต้องจัดการพวกเจ้านี้เสียก่อน” แอริสกล่าวและยืดมือเข้าไปในช่องว่างมิติและหยิบดาบของนางออกมา
“อะไร เกิดอะไรขึ้น” โจร1 กล่าว
ในขณะที่โจรทุกคนกำลังมึนงง แอริสได้กวาดดาบของนางเบาๆและร่ายสกิว “The Divine Sharpness” หลังที่นางกล่าวชื่อสกิวจบ ร่างของโจรทุกคนก็ขาดเป็นสองท่อน…
“Divine Healing” แอสริสกล่าวสกิวฮีล
“เอาล่ะถึงเวลาของข้าแล้ว ข้าต้องกลับไปรายงานกับ สภาว่าข้าแอบลงมายังที่นี่ น่าเบื่อเสียจริง” แอสริสกล่าว
แอริสใช้ดาบของนางฟันอากาศและประตูมิติก็เปิดออก “ไว้พบกันใหม่ ข้าหวังว่าข้าจะไม่ต้องฆ่าเจ้า ไม่งั้นข้าคงเสียดายแย่ที่เคยช่วยเจ้าไว้..” แอสริสกล่าวและเดินเข้าประตูมิติไป…
– จบตอน –