ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 197 ลู่เจี้ย คนสารเลว!

โฮกกก  

 

 

โฮกกก  

 

 

ในขณะเดียวกันเลี่ยเทียนซื่อและเสวียนกังกุยต่างก็แสดงพลังอำนาจ สั่นสะเทือนจนฝุ่นปกคลุมไปทั่วทั้งจวน องครักษ์ที่คอยเฝ้าดูแลอยู่ด้านนอก ก็ตกใจเหมือนกัน ต่างพากันพุ่งพรวดเข้ามา  

 

 

ลู่วั่งชวนยกมือขึ้นมาห้ามเหล่าองครักษ์ที่พุ่งพรวดเข้ามา  

 

 

เขามองเจียงหลี “ทำไมรึ เจ้าไม่ยินยอมที่จะเป็นลูกสาวบุญธรรมของข้าอย่างนั้นหรือ คนแก่หัวงอกอย่างข้าต้องส่งศพคนหนุ่มสาว สูญเสียลูกชายผู้เป็นที่รักไป วันนี้เห็นเจ้าฉลาดน่ารัก มีพรสวรรค์ อยากจะรับเจ้ามาเป็นลูกสาวบุญธรรมในอ้อมอกของข้า ต่อจากนี้ไปเจ้าจะไม่อยู่ในฐานะทาส แต่จะกลายเป็นคุณหนูคนโตของตระกูลลู่ ทำไมรึ เจ้าไม่เต็มใจหรือ”  

 

 

“ข้า! ไม่! สน!” เจียงหลีตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ แต่สายตากลับจ้องไปที่ลู่เจี้ยผู้ที่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลย  

 

 

เขารู้เรื่องทั้งหมดนี้!  

 

 

จนกระทั่งนางสามารถเดาได้ว่าทั่งหมดนี้ล้วนเป็นฝีมือของเขา  

 

 

กลายเป็นลูกสาวบุญธรรมของนายท่านตระกูลลู่? เหอะ เช่นนั้นแล้วเขาเป็นอะไรกับนาง  

 

 

“หลานลู่เจี้ย ขอคารวะท่านอา” แต่ตอนนี้ลู่เจี้ยกลับลุกขึ้นยืนอย่างไม่สนใจสายตาที่แวววาวของเจียงหลี ก้มหน้าทำความเคารพนาง  

 

 

ท่านอาอย่างนั้นรึ  

 

 

นางและเขาใกล้ชิดกันขนาดนี้แล้ว แต่เขากลับอยากให้นางเป็นเพียงท่านอาของเขา?  

 

 

เจียงหลีเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ประชดประชัน  

 

 

“อาหลี……” เจียงเฮ่ามองน้องสาวตัวเองด้วยความสับสน สำหรับเขาแล้ว รากฐานของตระกูลลู่ไม่ได้สำคัญอะไร แต่ว่าเขาเป็นห่วงความรู้สึกที่นางมีต่อลู่เจี้ย  

 

 

ถ้าหากว่าลู่เจี้ยไม่อายุสั้น แล้วอาหลีชอบ เขาเป็นพี่ชาย ก็เป็นธรรมดาที่ต้องสนับสนุนอยู่แล้ว  

 

 

แต่ว่ารู้กันอยู่ว่าลู่เจี้ยมีอายุขัยที่สั้นนัก อยู่ได้ไม่ถึงอายุยี่สิบแปด เขาจะมองดูน้องสาวตัวเองกระโดดลงไปในกองไฟได้อย่างไร  

 

 

สำหรับเรื่องนี้ เขาคิดว่าแผนที่นายท่านตระกูลลู่วางไว้ดีที่สุดแล้ว  

 

 

หากความสัมพันธ์ของน้องสาวและลู่เจี้ยเปลี่ยนไปแล้ว นางก็จะไม่มาเป็นทุกข์เพราะความรัก ในอนาคต……นางก็จะมีที่พักพิงที่ดีกว่านี้  

 

 

สายตาของเจียงเฮ่าเคลื่อนไหวเล็กน้อย มองลู่เจี้ยที่อมยิ้มเล็กน้อยอยู่ตลอด  ถ้าหากว่าทั้งหมดนี้ เป็นการคิดวางแผนเพื่อเจียงหลี ข้าควรขอบคุณเขา  

 

 

แกรก  

 

 

มีเสียงแตกร้าวดังขึ้นมาจากพื้น  

 

 

เดิมทีคือเจียงหลีเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว พื้นหินหยกใต้เท้าของนางถูกนางเหยียบจนแตกละเอียด นางไม่ได้เก็บเนตรญาณสีทองสว่างไสวข้างหลังของนาง นางเดินไปหาลู่เจี้ยทีละก้าวๆ อย่างมีทักษะพรสวรรค์ที่สูงที่สุดของเมืองหนานฮวงติดตัวอยู่  

 

 

“ลู่เจี้ย ใครก็อย่ามาคิดวางแผนเพ้อเจ้อให้กับข้า!” เจียงหลีจ้องมองใบหน้านั้นของเขา แล้วพูดคำพูดนี้ออกมาจากปาก  

 

 

ลู่เจี้ยเงยหน้ามองนาง ไม่พูดอะไรอยู่ครู่ใหญ่  

 

 

ร่างหนึ่งสูง ร่างหนึ่งเล็ก ต่างคุมเชิงกันและกัน จ้องมองตากัน แต่กลับไม่ได้มองด้วยความรักใคร่เหมือนเมื่อก่อน มีเพียงการปะทะกันอย่างดุเดือด  

 

 

“ไม่ใช่การวางแผน” ในที่สุดลู่เจี้ยก็เปิดปากพูด  

 

 

เขาก้าวเท้ามาข้างหน้าหนึ่งก้าว ทำให้ทั้งสองใกล้กันมากขึ้น ในสายตาที่ซักถามของเจียงหลี ตอบอย่างช้าๆ “เจ้าต้องการฐานะนี้ สักวันเจ้าจะเข้าใจว่าข้าทำอะไรอยู่”  

 

 

นี่คือคำตอบของเขาหรือ  

 

 

เจียงหลียิ้มอยากเยือกเย็น “ลูกสาวบุญธรรมอย่างนั้นรึ พวกท่านอยากจะรับก็รับไปสิ” พูดจบ นางก็เก็บเนตรญาณด้านหลังของนาง เปลี่ยนตัวเองเป็นภาพมายาแล้วพุ่งออกนอกจวน  

 

 

“อาหลี!” เจียงเฮ่าตกใจ หันหลังจะตามไป  

 

 

“เจียงเฮ่า” ในเวลานี้ ทันใดนั้นลู่เจี้ยก็ส่งเสียงเรียกเขา  

 

 

เจียงเฮ่าหันมามองลู่เจี้ย  

 

 

ลู่เจี้ยพูดแค่ว่า “พูดให้นางยอม เจ้าก็หวังให้นางได้ทุกอย่างที่ดีที่สุดใช่ไหม”  

 

 

เจียงเฮ่าหรี่ตา สีหน้าเคร่งเครียด พยักหน้าแล้วหันตัวกลับออกไป  

 

 

ในจวน เหลือเพียงคนตระกูลลู่  

 

 

ลู่วั่งชวนมองลู่เจี้ยที่ยืนมองทิศทางที่เจียงหลีจากไปอยู่กับที่ ถอนหายใจแบบไร้เสียง ส่ายหัวไปมาช้าๆ  

 

 

……  

 

 

เจียงเฮ่าไม่รู้ว่าให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเจียงหลีที่ลู่เจี้ยพูดหมายถึงอะไร แต่ว่าเขาก็อยากเอาทุกอย่างที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้มาวางให้ตรงหน้าให้กับน้องสาวจริงๆ  

 

 

“ลู่เจี้ย ไอคนสารเลว! ไอคนสารเลว!”  

 

 

เสียงที่โมโหของเจียงหลีดังมาจากหลังป่า ขัดความคิดของเจียงเฮ่า เขาตามไปตรงที่น้องสาวอยู่อย่างรวดเร็ว ในใจคิดว่าจะพูดให้นางยอมรับแผนการนี้อย่างไรดี  

 

 

ทันใดนั้น เจียงเฮ่าก็ยิ้มเจื่อนๆ รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเจองานยากเข้าแล้ว  

 

 

ค่อยๆ เดินเข้าไปหาเจียงที่กำลังระบายอารมณ์อยู่ เห็นท่าทางนางที่ปล่อยหมัดพิฆาตขั้นหกใส่ต้นไม้อย่างต่อเนื่อง เขาก็หยุดอยู่กับที่อย่างไม่รู้ตัว  

 

 

“อาหลีเอ๋ย” หลังจากรอให้เจียงหลีระบายอารมณ์ไปชุดใหญ่ เขาถึงจะส่งเสียงเรียกเบาๆ  

 

 

ได้ยินเสียงของเจียงเฮ่า เจียงหลีก็หยุดมือทั้งสองข้างที่ต่อยจนชาลง แล้วหายใจเข้าลึกๆ  

 

 

“ที่จริงแล้ว มันก็…ไม่เลวนะ” เจียงเฮ่าพูดอย่างยากลำบาก เขาไม่ถนัดงานแบบนี้เลยจริงๆ!  

 

 

ทันใดนั้น เจียงหลีหันมาทันที มองเขาด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก  

 

 

เจียงเฮ่าตกใจ ถอยหลังไปหนึ่งก้าว  

 

 

อารมณ์ของเจียงหลีตอนนี้น่ากลัวมาก แต่ว่าเจียงเฮ่ากลับทำได้เพียงดันทุรังทำต่อไป “อาหลี ที่เจ้าไม่พอใจเช่นนี้ เป็นเพราะนายน้อยลู่ใช่ไหม”  

 

 

“……” เจียงหลีไม่ได้ปฏิเสธ แล้วก็ไม่ได้ยอมรับ  

 

 

แต่ว่านางไม่ต้องแสดงท่าทีอะไร คนเขาก็ดูออกว่านางรู้สึกอย่างไรกับลู่เจี้ย  

 

 

เจียงเฮ่าถอนหายใจ มองน้องสาวอย่างปวดใจ “อาหลี เจ้ายังเด็ก เจ้าเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนายน้อยลู่มาก่อนไหม”  

 

 

“เขาไม่มีทางตาย” เจียงหลีพูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่อย่างยิ่ง  

 

 

เจียงเฮ่าฝืนยิ้ม “ข้าไม่รู้ว่าทำไมตระกูลลู่ถึงวางแผนแบบนี้ แต่ว่าต้องผ่านการเห็นชอบของนายน้อยลู่แน่นอน”  

 

 

เช่นนั้นก็เป็นแผนการของเขา!  

 

 

เจียงหลีส่งเสียงร้องด้วยความโกรธอยู่ในใจ  

 

 

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้……บางที……ก็บอกได้ว่าเขาไม่ได้มีใจให้กับเจ้า” เจียงเฮ่าพูดอย่างระมัดระวัง กลัวว่าคำพูดของตัวเองจะทำลายน้องสาว  

 

 

เจียงหลีสีหน้าเคร่งขรึม คำพูดของเจียงเฮ่า ทำให้นางเจ็บปวดใจ แต่ว่านางยังคงปฏิเสธในทันที “เป็นไปไม่ได้”  

 

 

ถ้าหากว่าลู่เจี้ยไม่ชอบนาง แล้วทำไมต้องอธิบายการกระทำต่างๆ ของตัวเองในอดีตด้วยล่ะ  

 

 

เจียงเฮ่าน้ำตาอาบน้ำ ท่าทีของเจียงหลี ทำให้เขารู้สึกว่าแม้จะพูดโน้มน้าวไปมากกว่านี้ ก็เปล่าประโยชน์  

 

 

เก็บเอาไว้อยู่นาน เจียงเฮ่าพูดออกมาแค่ประโยคเดียว “อาหลี เจ้าเชื่อมั่นในตัวนายน้อยลู่ไหม”  

 

 

เชื่อเขาไหม  

 

 

เจียงหลีนิ่งไป ความไม่แน่ใจปรากฏอยู่ในจิตแวบนึง “ข้าเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างแน่นอน” คำพูดที่ไม่ผ่านการไตร่ตรองออกมาจากปาก  

 

 

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมรับตามความต้องการของเขา เจ้าก็อยากรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาอยากวางแผนอะไร ใช่ไหม” เจียงเฮ่าถือโอกาสพูดต่อ  

 

 

“……” เจียงหลีตกอยู่ในความสับสน  

 

 

ไม่ใช่ว่านางไม่เข้าใจคำพูดของเจียงเฮ่า แต่ว่านางไม่อยากได้ลู่เจี้ยเป็นหลาน!  

 

 

“ถ้าหากว่าลู่เจี้ยยืดอายุได้สำเร็จ……” เจียงเฮ่าพูดไป ดูการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเจียงหลีไป เห็นว่านางไม่ได้โมโห ถึงจะพูดหยั่งเชิงต่อ “ความสัมพันธ์ตามประเพณี จะมีผลอะไร เดิมทีก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ถ้าหากว่าเจ้าไม่ชอบ ถึงเวลานั้น อย่างมากพวกเราก็แค่ไม่เป็นคุณหนูตระกูลลู่ก็ได้”  

 

 

“……”  

 

 

เจียงหลียังคงเงียบ  

 

 

แต่ว่าจิตใจของนางถูกเจียงเฮ่าพูดจนยอมแล้ว ไม่ใช่ปัญหา ราชินีที่สง่าผ่าเผยอย่างนาง ทำไมต้องสนใจประเพณีด้วย แค่นางชอบ อย่าว่าแต่ลู่เจี้ยเป็นหลานชายเลย ต่อให้เป็นเหลน นางก็แต่งงานด้วยได้เหมือนเดิม  

 

 

แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ลู่เจี้ยก็เป็นคนสารเลวอยู่ดี!  

Related

ราชินีพลิกสวรรค์

ราชินีพลิกสวรรค์

หลังศึกใหญ่กับมู่เทียนอินร่างของ เจียงหลี ก็ถูกดูดเข้าไปในมิติอื่นจนเหลือเพียงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในมิติเคว้งคว้างไร้ขอบเขต แม้จะมีเพียงวิญญาณอ่อนแอ แต่จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของนางนั้นกลับไม่อนุญาตให้ตัวเองยอมพ่ายแพ้ นางจะต้องกลับไปให้ได้ เพื่อไปหาสหายสนิทของนางผู้นั้น… ในสนามประลองยิ่งใหญ่แห่งแคว้นซูหนาน สถานที่ที่ชีวิตของทาสทั้งหลายมีค่าเท่าเศษธุลี สถานที่ที่มีไว้เพื่อให้ความบันเทิงกับบรรดาผู้สูงศักดิ์ และนาง เจียงหลี ก็ดันฟื้นขึ้นมาในร่างของนางทาสแห่งสถานที่นี้เสียได้! โลกแปลกหน้าที่ยึดถือผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ หลิงซือ เนี่ยนซือ วิญญาณยุทธ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเจียงหลี แต่นางคือผู้ใด นางคือราชินีผู้เก่งกล้าแห่งแคว้นกู่วูเชียวนะ ก็แค่ต้องฝึกฝนเบิกเนตรญาณด้วยร่างเด็กน้อยอ่อนแอ สถานะกลับตาลปัตรจากผู้สูงศักดิ์กลายเป็นทาสในเรือนของ ลู่เจี้ย ผู้ที่ได้รับฉายาหนุ่มรูปงามขี้โรค ไหนจะยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการเพื่อหาหนทางกลับไปยังโลกเดิมของตนเองอีก เพียงเท่านี้เอง นางทำได้สบายอยู่แล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset