ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 84 ขุดหลุมศพขึ้นมาให้ข้า

เสียงก่นด่าของนางเหอซื่อมาไม่ขาดสาย ส่วนเจียงอวี๋กลับก้มหน้าก้มตาร้องไห้ นางนุ่มนวลดุจดอกไม้สีขาวพลิ้วไหวในสายลม

 

 

แต่น่าเสียดาย ไม่มีใครในที่นี้รู้สึกสงสารนาง

 

 

“เวรกรรมอย่างนั้นหรือ” เสียงหลีสบถ นางชักจะหมดความอดทนกับคนอย่างนางเหอซื่อ หน้าเลือดเห็นแก่ตัว อีกทั้งยังพูดเสียจนตัวเองดูบริสุทธิ์

 

 

เจียงหลีเดินส่ายไปมาต่อหน้าสองแม่ลูกแล้วยกยิ้มมุมปาก นางโน้มตัวลงมามองพวกนาง “นางเหอซื่อเงยหน้าขึ้นใช้ตาสุนัขของเข้ามองให้ชัดๆ ด้วยล่ะ ว่าข้าคือคนที่กลัวเวรกรรมหรือไม่”

 

 

“เจ้า!” นางเหอซื่อเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยความตื่นตระหนก

 

 

ในที่สุดก็ดูเหมือนนางจะยอมรับแล้วว่าเจียงหลีเปลี่ยนไป

 

 

หลังจากที่นางเด็กคนนี้ถูกขายออกไปก็มีพิษสงรุนแรงกว่าแต่ก่อนมากแล้วจิตใจยังโหดเ**้ยมยิ่งกว่า

 

 

“เจ้าจะลงมือกับพวกข้าจริงๆ หรือ” นางเหอซื่อเอ่ยออกมาน้ำเสียงสั่น

 

 

เจียงหลีเผยรอยยิ้มเหยียดหยัน “ตอนแรกข้าก็ไม่อยากเปลืองแรงฆ่าพวกเจ้าหรอกนะ ก็แค่หนอนเน่าไม่กี่ตัว แต่ยังเกะกะสายตาข้าไปมาอีก จะหาว่าข้าใจร้ายไม่ได้ เช่นนี้ให้ข้าบีบให้ตายไปเสียยังดีกว่า”

 

 

“ไม่…ข้าไม่อยากตาย…ท่านแม่ ข้าไม่อยากตาย…” เจียงอวี๋ที่ร้องไห้ตกใจจนหน้าขาวซีดจนสิ้นสติดึงแขนเสื้อนางเหอซื่ออย่างไม่คิดชีวิต

 

 

“หุบ…หุบปาก!” เมื่อเจียงอวี๋โวยวายจนทำให้สมาธิแตกกระเจิง นางจึงรีบเอ็ดตะโรแล้วจับมืออันสั่นเทาของบุตรสาวเอาไว้แน่น มองเจียงหลีด้วยแววตาดุดัน “เจียงหลี ถ้าหากเจ้าฆ่าพวกข้า เจ้าจะเป็นคนบาปฆ่าคนในตระกูล”

 

 

เจียงหลีส่ายหน้ายิ้มอ่อนชื่นชมสีหน้าตื่นกลัวของสองแม่ลูก

 

 

จะว่าไปความแค้นของสองแม่ลูกอยู่ที่เจ้าของร่างเดิม แต่ใครใช้ให้นางมาเป็นเจียงหลีคนนี้ล่ะ

 

 

“คนบาปอย่างนั้นหรือ นางเหอซื่อ เจ้ากล้าพูดต่อหน้าท่านแม่ของข้าหรือไม่ ว่าเจ้าทำอะไรไว้บ้าง” เจียงหลีชี้ไปป้ายชื่อบนหลุมศพแล้วหัวเราะขึ้นเบาๆ “หลังจากที่ท่านแม่ข้าจากโลกนี้ไป เจ้าสั่งสอนให้เจียงอวี๋มายั่วยวนเย่ว์หนานซี คิดจะทำการสับเปลี่ยนคู่สมรสของข้า ทั้งยังเจตนาใส่ร้ายความผิดหาว่าข้าเป็นขโมย เอาข้าไปขายเป็นทาสถูกทำร้ายทารุณนับร้อยครั้ง สิ่งที่เจ้าทำไปทั้งหมด มีตรงไหนหรือที่คู่ควรมีหน้าไปเจอบรรพบุรุษของตระกูลเจียง”

 

 

นางเหอซื่อถูกเจียงหลีต่อว่าเสียจนสีหน้าทนดูไม่ได้ วาจาเฉียบคมของเจียงหลีทำให้นางเถียงไม่ออก

 

 

สายตาเหยียดหยันของเจียงหลีมองไปที่ไหล่สั่นเทิ้มของเจียงอวี๋ “เจ้าต้องการให้ลูกของเจ้าไต่เต้าขึ้นสูง แม้จะทำสำเร็จแต่ก็ยังดันทุรังไม่ลืมเหยียบย่ำข้าจนจมดิน เจ้ายังเห็นว่าเป็นเข็มคอยทิ่มตำตาเจ้าอยู่แล้ว เป็นไปได้หรือที่ข้ายังต้องไว้หน้าเรียกเจ้าว่าอาสะใภ้อีก”

 

 

คำด่าอันเจ็บแสบของนางทำให้ลู่เจี้ยที่นั่งในรถม้าได้ยินสิ่งที่น่าสนใจนัก

 

 

เขายกมือขึ้นเลิกมุมผ้าม่านรถม้าอยากจะดูให้เห็นกับถึงท่าทางแสดงอำนาจของเด็กสาว

 

 

แน่นอนว่าเมื่อเขายกม่านของรถขึ้นเจียงอวี๋ที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นก็เงยหน้าขึ้นและเห็นความงามที่โดดเด่นผ่านช่องว่างของม่าน

 

 

ตึง!

 

 

เจียงอวี๋สมองขาวโพลนไปชั่วขณะ

 

 

คนรูปงาม บนโลกนี้ยังมีผู้ชายที่งดงามขนาดนี้เชียวหรือ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเจียงอวี๋ก็รู้สึกว่าตัวเองด้อยเหลือเกิน

 

 

ราวกับว่าเขาสูงส่งที่คนเดินดินมิสามารถดูหมิ่นได้

 

 

เขาก็คือนายน้อยตระกูลลู่ ล่ำลือว่ารูปงามอันดับหนึ่งในโลก เจียงหลี! เจียงหลีทำไมเจ้าถึงมีบุญวาสนาเช่นนี้ ไม่มีเย่ว์หนานซีแล้วแต่กลับได้รับใช้บุคคลสูงส่งเช่นนี้อย่างนั้นหรือ

 

 

เจียงอวี๋จ้องความงดงามอย่างหลงใหล ความอิจฉาริษยาในใจพุ่งพล่าน

 

 

ตอนนี้นางต้องการจะแทนที่เจียงหลีจริงๆ!

 

 

“เจียงหลีปล่อยพวกข้าไปเถอะ ข้าสัญญาว่าจะไม่มาให้เจ้าเห็นหน้าอีก เห็นแก่อาและพี่ชายของเจ้าที่ตายไป เจ้าไว้ชีวิตพวกเราสองแม่ลูกเถอะนะ” นางเหอซื่อลนลาน

 

 

นางค้นพบว่าเจียงหลีคนนี้ไม่ใช่เจียงหลีผู้อ่อนโยนคนเดิมที่นางรู้จัก นางเห็นว่าเจียงหลีฆ่าเย่ว์หนานซีกับตาตัวเอง นางฆ่าคนได้ นางไม่ได้มาเล่นๆ

 

 

เจียงหลีด่าจนสาแก่ใจ ทันใดนั้นหางตาเหลือบไปเห็นฉากที่เจียงอวี๋กำลังจ้องรถม้าอย่างหลงใหล

 

 

ขณะนั้นเองความไม่พอใจก็ปะทุขึ้นมาจากส่วนลึกของหัวใจ

 

 

นางขยับไปบังสายตาของเจียงอวี๋ มองด้วยสายตาข่มขู่น่ากลัว “ถ้ายังจ้องอีกข้าจะควักลูกกะตาเจ้าออกมา”

 

 

สติของเจียงอวี๋กลับคืนสีหน้าหวดผวาแล้วตะโกนไปทางรถม้า “นายน้อยลู่ ช่วยอวี๋เอ๋อร์ด้วย”

 

 

ลู่เจี้ยที่อยู่ในรถคิ้วกระตุก มุมปากยกยิ้มอย่างนึกสนุก

 

 

ใบหน้าแน่งน้อยของเจียงหลีเผยให้เห็นถึงความดุดันเมื่อได้ยินคำพูดนั้นของเจียงอวี๋

 

 

นางก้าวไปข้างหน้ายกเท้าถีบหน้าอกอวบอิ่มของเจียงอวี๋อย่างจัง

 

 

ปึก!

 

 

พลังของเจียงหลีแรงแค่ไหน เจียงอวี๋จะต้านทานได้อย่างไร เจียงอวี๋โดนนางถีบกลิ้งกับพื้นริมฝีปากก็กระอักเลือดออกมา

 

 

“คิดว่าสิ่งที่ข้าพูดมันไร้สาระอย่างนั้นหรือ หม่าหยวนจย่าควักลูกตาของนางออกมาให้ข้า” เจียงหลีสั่งเสียงดังก้อง

 

 

หม่าหยวนจย่าที่ยืนอยู่อีกด้านสะดุ้งตกใจ ดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าความโกรธที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของคุณหนูของเขาว่าคืออะไร

 

 

แน่นอนว่าขัดไม่ได้ เขาจึงทำตามที่เจียงหลีสั่ง

 

 

เขาชักกริชขึ้นมาเดินไปหาเจียงอวี๋ทีละก้าว

 

 

รอยเลือดมุมปากของเจียงอวี๋ยังไม่ทันจางหาย เมื่อเห็นหม่าหยวนจย่ากำดังเดินมาหาตนก็ยิ่งผวาหนักตะเกียกตะกายที่พื้นเพื่อไปทางรถม้าของลู่เจี้ย “นายน้อย ช่วยข้า…”

 

 

กรอบบ!

 

 

อ๊ากกกก!

 

 

เจียงอวี๋กรีดร้องมาพร้อมกับเสียงกระดูกแตกหัก

 

 

เจียงหลีไพล่มือไว้ข้างหลัง เท้าเหยียบไปที่มือของเจียงอวี๋ ก้มหน้ายิ้มเยือกเย็น “เขาผู้นี้ เจ้าก็อยากจะครอบครองงั้นรึ”

 

 

จากนั้นนางก็หันไปสะบัดมองผ้าม่านรถที่ยกขึ้น “รู้ว่าตัวเองเกิดมาหน้าตาดี ก็ออกมาล่อสายตาให้มันน้อยๆ หน่อย”

 

 

ภายในรถลู่เจี้ยยกยิ้มเบาๆ ความเบิกบานมีมากขึ้น เขาเอาผ้าม่านลงบดบังสายตาจากคนข้างนอก น้ำเสียงใสอันไพเราะดังออกไปข้างนอก “หลีเอ๋อร์อย่าโกรธเลย”

 

 

เสียงอันนุ่มนวลของลู่เจี้ยช่วยปัดเป่าอารมณ์ของเจียงหลีโกรธหายไปบ้าง

 

 

นางหันกลับมาจ้องเจียงอวี๋ด้วยสายตาเย็นชา ในสายตาน่ากลัวของนางยิ้มเยือกเย็นแล้วออกคำสั่ง “หม่าหยวนจย่าเจ้ารออะไรอยู่”

 

 

“ขอรับ คุณหนู” หม่าหยวนจย่ารีบก้าวไปเพื่อทำตามคำสั่งของเจียงหลีให้สำเร็จ

 

 

“เจียงหลี! เจียงหลี! อวี๋เอ๋อร์เป็นพี่สาวของเจ้า ทำไม่เจ้าถึงกลายเป็นคนใจดำอำมหิตเช่นนี้” นางเหอซื่อกระเสือกกระสนทันทีเมื่อเห็นกริชคมกำลังมุ่งไปยังดวงตาของบุตรสาวนาง

 

 

จู่ๆ เจียงหลีกลับรู้สึกไม่มีความผูกพันใดๆ เกี่ยวกับสองแม่ลูกคู่นี้ ช่างลดคุณค่าในตัวเองจริงๆ

 

 

“อ้ากกก ท่านแม่…ข้าเจ็บ ช่วยข้าด้วย…ตาของข้า…ดวงตาของข้า…”

 

 

ลูกตากลมโตถูกหม่าหยวนจย่าโยนทิ้งลงไปที่พื้น เจียงอวี๋ที่ใบหน้ามีเลือด หลุมกลวงโบ๋สองข้างเจ็บปวดทุรนทุราย

 

 

เจียงหลีไม่สนใจเสียงด่าทอของนางเหอซื่อแล้วเบนสายตามองป้ายบนหลุมศพ “ฆ่าพวกนางซะ”

 

 

ฆ่า…ฆ่า!

 

 

นางเหอซื่อหยุดด่าสาปแช่งทันที เจียงอวี๋ก็หุบปากเช่นกัน

 

 

ดวงตาของพวกนางเบิกค้าง จ้องเขม็งที่ร่างเล็กๆ แทบไม่กล้าเชื่อว่าชีวิตของตัวเองจะมีจุดจบในวันนี้

 

 

เสียงสวบๆ ดังขึ้น ชีวิตของนางเหอซื่อสองแม่ลูกได้ถูกหม่าหยวนจย่าพรากไปแล้ว

 

 

ขณะเดียวกันมีเสียงพูดดังลอยมาจากในรถม้า “หลีเอ๋อร์ทำได้ไม่เลว จากที่ข้ารู้มานางเหอซื่อผู้นี้ใช้เงินจ้างมือสังหารให้ตามเจียงเฮ่าไปที่ซั่งตูด้วย”

 

 

เจียงหลีแววตาสบสน รู้สึกเย็นวาบไปทั่วกาย ผู้ชายคนนี้รู้ทุกอย่างแต่กลับไม่บอกอะไรก่อนเลย

 

 

เจียงหลีสูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่ต่อบทสนทนา เพียงแต่ออกคำสั่งกับหม่าหยวนจย่า “ขุดหลุมศพขึ้นมาให้ข้าที”

ราชินีพลิกสวรรค์

ราชินีพลิกสวรรค์

หลังศึกใหญ่กับมู่เทียนอินร่างของ เจียงหลี ก็ถูกดูดเข้าไปในมิติอื่นจนเหลือเพียงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในมิติเคว้งคว้างไร้ขอบเขต แม้จะมีเพียงวิญญาณอ่อนแอ แต่จิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของนางนั้นกลับไม่อนุญาตให้ตัวเองยอมพ่ายแพ้ นางจะต้องกลับไปให้ได้ เพื่อไปหาสหายสนิทของนางผู้นั้น… ในสนามประลองยิ่งใหญ่แห่งแคว้นซูหนาน สถานที่ที่ชีวิตของทาสทั้งหลายมีค่าเท่าเศษธุลี สถานที่ที่มีไว้เพื่อให้ความบันเทิงกับบรรดาผู้สูงศักดิ์ และนาง เจียงหลี ก็ดันฟื้นขึ้นมาในร่างของนางทาสแห่งสถานที่นี้เสียได้! โลกแปลกหน้าที่ยึดถือผู้แข็งแกร่งเป็นใหญ่ หลิงซือ เนี่ยนซือ วิญญาณยุทธ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเจียงหลี แต่นางคือผู้ใด นางคือราชินีผู้เก่งกล้าแห่งแคว้นกู่วูเชียวนะ ก็แค่ต้องฝึกฝนเบิกเนตรญาณด้วยร่างเด็กน้อยอ่อนแอ สถานะกลับตาลปัตรจากผู้สูงศักดิ์กลายเป็นทาสในเรือนของ ลู่เจี้ย ผู้ที่ได้รับฉายาหนุ่มรูปงามขี้โรค ไหนจะยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคนานัปการเพื่อหาหนทางกลับไปยังโลกเดิมของตนเองอีก เพียงเท่านี้เอง นางทำได้สบายอยู่แล้ว!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset