ตอนที่ 45 : ควบคุมลมปราณ
ลู่หมิงรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้น เรี่ยวแรงที่เหือดแห้งไปก่อนหน้านี้กลับมาถูกเต็มอีกครั้งจากการก้าวข้ามระดับ
‘ดูเหมือนว่าการทรมานตัวเองของฉันจะไม่เสียเปล่าสินะ’
ลู่หมิงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเพราะเมื่อนึกถึงเหตุการณ์อันยากลําบากตลอดทั้งเดือนที่ผ่านของเขานั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าเป็นการทรมานตัวเองอย่างถึงที่สุดเลยทีเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อนในครั้งที่ลู่หมิงออกมาจากเมืองไท่ผิงด้วยประสบการณ์ในชีวิตก่อนที่เคยเป็นผู้บ่มเพาะแม้ว่าเทคนิคการบ่มเพาะในชีวิตก่อนนั้นจะอยู่แค่ในระดับยูนิคเท่านั้นแต่ตัวของลู่หมิงก็รู้ดีว่าการบ่มเพาะให้ผ่านไปในแต่ละระดับนั้นยากเย็นขนาดไหน
ในชีวิตก่อนกว่าที่ลู่หมิงจะไปถึงระดับนักรบขั้นที่2 ก็ใช้เวลามากกว่าสี่เดือน ในช่วงเวลาสี่เดือนนั้นลู่หมิงไม่เคยที่จะหยุดฝึกฝนและออกล่ามอนสเตอร์เลยแม้แต่วันเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังต้องใช้เวลานานกว่าจะเลื่อนระดับ
และเมื่อมาในชีวิตนี้ลู่หมิงได้รับเทคนิคการบ่มเพาะระดับอีปิคมากตัวของลู่หมิงเองก็รับรู้ได้เลยว่าเขานั้นจะต้องเจอกับเส้นทางที่ยากลําบากในการบ่มเพาะอย่างแน่นอน
เมื่อรู้ดังนั้นตัวของลู่หมิงจึงได้วางแผนการบ่มเพาะคร่าวๆขึ้นมาเพราะเทคนิคการบ่มเพาะต่างๆก็จะมีเทคนิคในการเพิ่มระดับที่แตกต่างกันออกไป
เนื่องด้วยเทคนิคการบ่มเพาะเทพสงครามนั้นก็ค่อนข้างที่จะพิเศษ และการที่จะได้รับค่าประสบการณ์เทพสงครามนั้นมีหลายวิธี ทําให้ลู่หมิงสามารถหาค่าประสบการณ์ได้มากขึ้นแต่ถึงอย่างงั้นก็ใช่ว่าเขาจะสามารถเพิ่มระดับได้อย่างง่ายๆ
ดังนั้นในระหว่างที่ลู่หมิงเดินทางมาที่ท่าเรือเดลพ็อตนั้น ลู่หมิงได้ทําการต่อสู้อยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่สนว่ามอนสเตอร์ที่เขาเจอจะเป็นอะไร ทันทีที่ลู่หมิงพบเจอกับมอนสเตอร์เขาก็พุ่งเข้าใส่พวกมันทันที เพื่อเก็บค่าประสบการณ์เทพสงคราม
เรียกได้ว่านอกจากเวลากินและนอนแล้วลู่หมิงก็ทําการล่ามอนสเตอร์อยู่ตลอดเวลา และเมื่อมีเวลาว่างลู่หมิงก็จะทําการนั่งสมาธิอยู่ตลอดเวลาเพื่อดูดซับพลังธรรมชาติ แต่ถึงอย่างงั้นระดับของลู่หมิงก็ยังไม่เลื่อนไปยังนักรบขั้นที่ 2 เสียที่จนกระทั้งตอนนี้
ดูเหมือนว่ายิ่งพบเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าตนเองมากเท่าไหร่หรือต่อสู้ในขณะที่กําลังเสียเปรียบ ก็จะยิ่งได้รับค่าประสบการณ์เทพสงครามมากขึ้น
ลู่หมิงเลิกสนใจข้อความแจ้งเตือนอื่นๆและหันไปสนใจเกี่ยวกับ ทักษะผู้ควบคุมพลัง แทน
[ ผู้ควบคุมพลัง : ผู้เล่นจะสามารถควบคุมลมปราณที่อยู่ในร่างกายได้ดั่งใจ ]
“แค่เนี้ย ?”
ลู่หมิงสับสนกับคําอธิบายแสนสั้นของทักษะนี้ในตอนแรกเขาคิดว่าทักษะนี้จะมีความพิเศษมากกว่านี้เนื่องจากมันมาจากเทคนิคการบ่มเพาะระดับอีปิค แต่ด้วยคําอธิบายสั้นๆมันทําให้ลู่หมิงรู้ว่ามันแทบไม่ต่างจะทักษะการควบคุมพลังของเทคนิคการบ่มเพาะอื่นๆเลย
ลู่หมิงถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลง โชคดีที่เขามีประสบการณ์จากชีวิตก่อน ทําให้การควบคุมลมปราณในร่างกายสามารถทําได้อย่างง่ายดาย ไม่เช่นนั้นเขาคงจะต้องงมหาวิธีการควบคุมอยู่นานเป็นแน่
ลู่หมิงสัมผัสถึงปราณที่กําลังไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย มันอยู่ในทุกส่วนของร่างกายเขาไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง เส้นเลือด กระดูก หรือแม้แต่อวัยวะต่างๆ ลู่หมิงสัมผัสปราณในร่างกายของตัวเอง พร้อมกับควบคุมมันให้เป็นไปตามดั่งใจนึก
ทันใดนั้นร่างกายของลู่หมิงก็เรืองแสงสีฟ้าจางๆออกมา ลู่หมิงยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะมองไปยังชายร่างยักษ์ที่กําลังแปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงของลู่หมิงอยู่
ลู่หมิงไปไม่รอช้าเขาพุ่งเข้าใส่ชายร่างยักษ์และแทงหอกเข้าไปทันที ชายร่างยักษ์พลิกตัวหลบทันที่ก่อนจะฟันดาบสวนกลับใส่เขา ลู่หมิงใช้หอกป้องกันดาบของชายร่างยักษ์อย่างรวดเร็วก่อนจะแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเกร็งข้อมือเล็กน้อยออร่าสีฟ้าปรากฏขึ้นฝ่ามือของเขาพร้อมกันกับที่ลู่หมิงซัดฝ่ามือนั้นใส่ท้องของชายร่างยักษ์อย่างรวดเร็ว
“ฝ่ามือมังกร !?
ตูม !!
