ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 9
Author: 여님 (ยอนิม)
หลังจากที่กินข้าวเสร็จคิมก็ชวนใบบุญไปนั่งเล่นที่ห้องดูหนังที่กมลทำแยกออกมาจากห้องนั่งเล่นอีกที เพื่อเอาไว้ดูหนังแบบได้บรรยากาศโรงหนังจริงๆ ตอนแรกเด็กหนุ่มจะไม่ยอมมาเพราะเกรงใจ แต่ก็ถูกคิมลากมาจนได้ ส่วนกมลก็ไปคุยเรื่องงานกับคมต่อในห้องทำงานสักพักก็ตามเข้ามา
“ดูอะไรกันอยู่ หืม” กมลถามขึ้น
“ดูหนังสิ ถามได้” คิมตอบกลับไปโดยไม่มอง ส่วนใบบุญก็นั่งคอพับคออ่อนหลับอยู่ข้างๆคิม
“คม พาใบบุญกลับไปนอนก่อนไป พรุ่งนี้ไปโรงเรียนด้วยนี่” กมลพูดบอก ก่อนที่คมจะเดินมาปลุกใบบุญเพื่อพากลับไปยังบ้านพัก และเหลือแค่คิมกับกมลสองคนเท่านั้น กมลกอดเอวบางของคิมเอาไว้หลวมๆ ซึ่งคิมก็ไม่ได้ดิ้นหนีแต่อย่างไร
“คิม เดี๋ยวอีกสักพัก ชั้นจะออกไปดูเรื่องงานนิดหน่อย นายนอนก่อนได้เลยนะ” กมลพูดบอกออกมา คิมนั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไร
“ได้ยินมั้ย” กมลถามเสียงเข้มแต่ไม่ได้ดุ
“ได้ยิน หูไม่หนวกนะคุณกมล” คิมพูดว่าออกมา สายตาก็จับจ้องอยู่ที่จอภาพด้านหน้า กมลนั่งมองเสี้ยวหน้าของคิมนิ่งๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา จนคิมรู้สึกอึดอัดนิดๆ ที่อีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้าตนเอง ถึงไม่ได้หันไปมองแต่คิมก็รับรู้ได้ว่ากมลกำลังมองตนเองด้วยสายตาแบบไหน เพราะที่คิมไม่หันไปมอง เพราะรู้ว่าตนเองต้องแพ้สายตาของกมลแน่ๆ
“โอ๊ยย จะมองให้ตัวผมพรุนเลยรึไงคุณกมล” แล้วเป็นคิมที่เริ่มทนไม่ได้ หันไปเอามือดันหน้าของกมลให้หันไปทางอื่น ไม่ต้องมองตนเอง
“หึหึ” กมลหัวเราะขำในลำคอ
“หัวเราะโรคจิตจังเลยนะ” คิมอดที่จะว่าไม่ได้ ใบหน้าหวานงองุ้มเล็กน้อย
“มองไม่ได้เหรอ หืม มองไม่ได้เหรอครับ” กมลพูดหยอดเสียงหวาน ทำให้ใบหน้าเนียนขึ้นสีระเรื่อ
“ไม่ต้องมาคง มาครับอะไรแถวนี้หรอกนะ จะไปทำงานดูงานไม่ใช่รึไง ก็ไปสิ มานั่งจ้องกันอยู่ได้” คิมพูดว่าออกมาอีก
“อีกสักพัก ชั้นอยากอยู่กับเมียชั้นก่อน” กมลบอกพร้อมกับเลื่อนมือขึ้นไปโอบไหล่บางของคิม ให้ขยับมาชิดอกแกร่งของตนเอง
“เลิกดื้อสักทีสิคิม” กมลพูดว่าออกมา เมื่อคิมทำท่าจะขืนตัว คิมส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอ ก่อนจะเอาตัวไปกระแทกอกแกร่งของกมล
“เอาสิ อยากกอดก็กอดเลยนะ กอดทั้งตัวเลยด้วย ห้ามปล่อย ยกมืออีกข้างขึ้นมาด้วยสิคุณกมล” คิมโวยขึ้นเล็กๆ พร้อมกับเอนตัวทั้งตัวไปให้กมลกอด แถมยังบังคับจับแขนอีกข้างของกมลให้มากอดตนเองเอาไว้ทั้งตัวอีกด้วย ทำให้กมลยกยิ้มมุมปากอย่างขำๆ กับท่าทีประชดประชันของคิม ส่วนคิมเป็นคนจับมือกมลขึ้นมาโอบกอดตนเองแท้ๆ แต่ก็ห้ามหัวใจไม่ให้เต้นแรงไม่ได้ กมลโอบกอดคิมเอาไว้ทั้งตัว พร้อมกับเอาคางไปวางเกยไว้บนไหล่บาง
“ประชดแบบนี้ก็เข้าทางชั้นสิ คิม” กมลบอกกลับ
ฟอด…
ริมฝีปากเรียวบางเม้มเข้าหากันนิดๆ เมื่อกมลหอมแก้มเสียฟอดหนึ่ง ตอนนี้กมลขยับมานั่งซ้อนด้านหลังของคิมเอาไว้ โดยมีคิมนั่งอยู่ระหว่างขาของกมล มือทั้งสองข้างโอบกอดประสานอยู่ที่หน้าท้องแบนราบของคิม คิมเองก็เอนตัวเอาหลังพิงอกแกร่งของกมลเอาไว้ ถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกยอมรับกมลได้ไม่เต็มร้อยนัก แต่คิมก็ยอมรับว่าอกแกร่งของกมล อบอุ่นมากเหมือนกัน พลางนึกไปถึงเดย์ขึ้นมา เดย์ไม่เคยที่จะกอดคิมแบบนี้เวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่เคยโอบกอดจากทางด้านหลัง ไม่เคยหอมแก้มเล่นๆเวลาที่นั่งข้างกัน มีแต่คิม ที่มักจะเดินเข้าไปกอดเดย์เองเสียมากกว่า
“คิดอะไรอยู่” กมลถามขึ้นเมื่อเห็นคิมนิ่งเงียบไป
“เปล่า นี่คุณกมล คุณให้ผมมาอยู่ที่นี่ แล้วงานของผมล่ะ” คิมถามขึ้นอย่างเป็นการเป็นงาน เลิกคิดเรื่องของเดย์ไปทันที เพราะรู้ว่าคิดไปก็แค่นั้น เพราะมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว
“ก็ทำที่บ้านนี้สิ ชั้นรู้นะ ว่างานของนายจะทำที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าวันไหนนายอยากเข้าสำนักงานก็ขอให้บอก ชั้นจะพาไปเอง” กมลบอกกลับ
“หึ กลัวผมหนีขนาดนั้นเชียว” คิมค่อนขอดออกมา
“ใช่” กมลตอบกลับทันที ทำให้คิมนิ่งเงียบไปนิด
“บอกตามตรง จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมคุณถึงเลือกผม” คิมพูดบอกออกมาเสียงแผ่ว
“แล้วทำไมตอนนั้น นายถึงเลือกชั้นล่ะ เลือกให้ชั้นเป็นคนกอดนาย แทนที่จะเป็นคนอื่น” กมลถามกลับไปบ้าง คิมนิ่งคิด
“ขอโทษครับนาย ได้เวลาแล้วครับ” เสียงลูกน้องของกมลคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกในห้องดูหนัง
“แล้วเจ้าคมล่ะ” กมลถามถึงลูกน้องอีกคน
“รออยู่ที่รถแล้วครับ” อีกฝ่ายตอบกลับ กมลพยักหน้ารับ
“เตรียมรถให้พร้อม เดี๋ยวชั้นตามออกไป” กมลบอกกลับไป ลูกน้องของกมลก้มหัวรับแล้วเดินออกไปจากห้องดูหนังทันที
“ปล่อยสิ จะไปแล้วไม่ใช่เหรอ” คิมขยับตัวนิดๆเพื่อให้กมลปล่อยตนเองออกจากอ้อมกอด กมลหอมแก้มคิมทั้งซ้ายและขวา
“เป็นเด็กดีรอชั้นอยู่ที่ห้องนะ แล้วชั้นจะรีบกลับมา” กมลบอกกลับพร้อมกับดันตัวคิมให้ลุกขึ้นยืน เพื่อที่กมลเองจะได้ลุกจากโซฟาตัวใหญ่
“ไปส่งชั้นที่รถหน่อยสิ” กมลบอกอีก
“เดินไปเองสิ นี่มันบ้านคุณนะ ทำไมผมต้องไปส่งด้วย” คิมพูดว่าออกมา
“ก็ชั้นอยากให้เมียไปส่ง ไม่ได้เหรอ มีเมียทั้งทีใครๆก็อยากให้เมียเดินไปส่งตอนจะออกไปทำงานกันทั้งนั้นแหละ” กมลพูดบอกออกมา
“ไปจำจากละครเรื่องไหนมา” คิมพูดออกมาอย่างเอือมๆ กมลหัวเราะขำในลำคอ
“เวลานอนยังไม่ค่อยจะมี จะเอาเวลาที่ไหนไปดูละครล่ะ” กมลบอกกลับ คิมมองหน้าคนตรงหน้านิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“จะไปก็ไปสิ ป่านนี้ลูกน้องคุณรอแย่แล้วมั้ง” คิมพูดบอกก่อนจะเดินนำออกไป ทำให้กมลยิ้มออกมาอย่างพอใจ เพียงแค่วันเดียวกับการที่พาคิมเข้ามาอยู่ในบ้าน แล้วทำให้คิมยอมทำตามทุกอย่างได้แบบนี้ ถึงจะมีบ่นมีโวยวายบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญานที่ดีสำหรับเขาทั้งคู่ กมลรีบเดินตามคิมออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นกมลเดินออกมา ลูกน้องก็เดินเข้ามาประจำที่ กมลหันมาหาคิมที่เดินมาส่งตนเองที่รถที่จอดอยู่หน้าประตูเข้าบ้านอีกครั้ง
“ถ้าต้องการอะไร ให้บอกลูกน้องของชั้นได้นะคิม เพราะจะมีกะกลางคืนคอยเดินอยู่รอบบริเวณบ้าน เรียกใช้ได้เลย” กมลพูดสั่งออกมา คิมพยักหน้ารับ ก่อนที่คมจะเปิดประตูให้กมลขึ้นไปนั่ง แล้วคมเองก็ขึ้นไปนั่งประกบ พร้อมกับคนขับรถและลูกน้องอีกคนที่ขึ้นประจำที่ ประจำรถอีก 2 คัน แล้วขับออกไป
“คุณคิมต้องการอะไรอีกมั้ยครับ หรือว่าจะไปดูหนังต่อ” ลูกน้องของกมลคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆถามขึ้น
“ไม่ล่ะ ชั้นจะขึ้นห้องแล้วล่ะ” คิมบอกกลับ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนของกมล ตลอดเวลาที่เดินขึ้นบันได คิมก็มองไปรอบๆ และรุ้สึกว่า บ้านนี้ถึงจะมีคนอยู่มากมาย แต่ก็รู้สึกเงียบเหงาอย่างบอกไม่ถูก
“คุณอยู่ของคุณได้ยังไงนะ คุณกมล” คิมพูดพึมพำคนเดียว โดยไม่รู้ว่า คิมเองนั่นแหละที่จะเข้ามาทำให้บ้านใหญ่หลังนี้ ทำให้ชีวิตของกมล ไม่เงียบเหงาอีกต่อไป
คิมเดินเข้าไปในห้องนอนใหญ่ เดินไปหยิบชุดนอนและผ้าขนหนูที่ทางคนดูแลบ้านเข้ามาจัดใส่ตู้ให้เรียบร้อยตอนไหนก็ไม่รู้
“นี่เราต้องอยู่ที่นี่จริงๆเหรอเนี่ย” คิมพูดกับตัวเองแล้วมองไปรอบห้อง ก่อนจะถอนหายใจให้กับชะตาชีวิตของตนเอง ซึ่งเป็นเพราะตัวคิมเองนั่นแหละ ที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดขึ้นแบบนี้ ถ้าคืนนั้น คิมไม่เลือกที่จะให้กมลเป็นคนกอดตนเอง ไม่เมามายจนลืมคำว่าผิดชอบชั่วดี วันนี้คิมก็คงได้นอนอยู่ที่คอนโดของตนเอง แทนที่จะได้นอนอยู่ที่บ้านของกมลในตอนนี้ คิมมองหาโทรศัพท์ของตนเองแต่ไม่เจอ แต่ก็ไม่สนใจจะหาต่อแต่อย่างไร ร่างบางเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อเปลี่ยนชุดนอน คิมนอนดูทีวีบนเตียงกว้างคนเดียวพร้อมกับมองนาฬิกาที่อยู่ข้างผนังห้องไปด้วย
//เวลานอนยังไม่ค่อยจะมี แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปดูละครล่ะ// คำพูดของกมลดังขึ้นมาในสมองของคิมอีกครั้ง
“จะทำงานบ้าอะไรหามรุ่งหามค่ำแบบนี้” คิมพูดบ่น ก่อนจะนอนดูทีวีต่อ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กมลนั่งมองนาฬิกาข้อมือ เมื่อรถเลี้ยวเข้ามาจอดในบริเวณบ้าน หลังจากที่ออกไปดูสินค้าและพบปะลูกค้าในช่วงดึกที่ผ่านมา
“ตี 2 แล้วเหรอเนี่ย” กมลพูดลอยๆขึ้นมา พร้อมกับนึกถึงร่างบางอีกคน ที่ป่านนี้คงนอนหลับไปแล้ว
“ขอบใจพวกนายทุกคนมาก ไปพักผ่อนกันได้แล้วล่ะ คม อย่าลืมที่สั่งไว้นะ ไปส่งใบบุญที่โรงเรียนก่อน แล้วก็กลับมาพักต่อได้” กมลพูดบอกออกมา
“แล้วที่นายจะไปตกลงเรื่องซื้อขายตอน 10 โมงล่ะครับ” คมถามกลับ
“เดี๋ยวชั้นไปกับคนอื่นได้ นายพักไปเถอะ” กมลบอกกลับ คมเองก็ทำงานหนักพอๆกับเขา อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่คมก็ไม่เคยปริปากบ่นหรือมีท่าทีหมดแรงอะไรให้เห็นเลยสักครั้ง กมลถึงได้เชื่อใจไว้ใจ และรักลูกน้องคนนี้มาก
“แต่ว่า..” คมจะค้าน
“ไม่ต้องแต่ บอกให้พักก็พักสิวะ” กมลว่าออกมาเสียงเข้ม คมจึงนิ่งไปนิด
“ครับ” ร่างสูงตอบรับออกมาอย่างจำยอม แล้วลงไปเปิดประตูรถให้กับกมล กมลเดินเข้าบ้านพร้อมกับสอบถามลูกน้องที่มายืนรอรับเรื่องของคิมนิดหน่อย พอรู้ว่าคิมขึ้นไปบนห้องตั้งแต่ตอนที่กมลออกไปทำงาน แล้วไม่ได้ลงมาอีก กมลก็เดินขึ้นไปทันที กมลพึ่งจะมีความรู้สึกอยากจะกลับบ้านเร็ววันนี้วันแรก เขารู้ตัวว่าตนเองมองนาฬิกาบ่อยแค่ไหน ตอนที่คุยเรื่องงานกับลูกค้า ถ้าเป็นเมื่อก่อน หลังจากคุยงานกมลอาจจะพาลูกน้องไปนั่งดื่ม หรือไม่ก็หาเด็กสักคนมาสนองความต้องการของตนเอง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว กมลอยากจะกลับมาเห็นหน้า มากอด คนที่อยู่บนห้องนอนของเขาให้เร็วที่สุด กมลเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของตนเองอย่างเบาๆ ไฟสีส้มนวลข้างเตียงถูกเปิดเอาไว้ พร้อมกับทีวี แต่คนที่นอนอยู่บนเตียงกว้างได้หลับสนิทไปแล้ว กมลยกยิ้มนิดๆ แล้วเดินเข้าไปนั่งข้างร่างบางบนเตียงนอน
“หึหึ ดูทีวี หรือให้ทีวีดูตัวเองกันแน่นะ” กมลพูดพึมพำออกมา ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มใสของคิมเบาๆ
//กลับมาแล้วครับ// กมลพูดเสียงแผ่ว เพื่อไม่ให้รบกวนคิมจนต้องตื่นขึ้นมาเสียก่อน กมลขยับลงจากเตียงช้าๆ เพื่อเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วกลับขึ้นมาบนเตียงอีกครั้ง ร่างแกร่งสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคิม แล้วค่อยๆรั้งร่างบางเข้ามากอดเอาไว้
“อืมมมม” เพราะแรงกอดรัดร่างกาย ทำให้คิมค่อยๆปรือตาขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อเห็นใบหน้าคมเข้มของกมลอยู่ใกล้ๆ คิมจึงเพ่งสายตาไปมองนาฬิกาที่ผนังห้อง
“จะตี 3 แล้วนี่” คิมพูดเสียงเอื่อยๆ
“ใช่ จะตี 3 แล้ว นอนต่อเถอะนะ ขอโทษทีที่ทำให้นายตื่น” กมลพูดบอกออกมาเสียงอ่อนโยน
“ถ้ารู้ว่าต้องกลับดึกแบบนี้ แล้วไม่อยากทำให้ผมตื่นก็ไปนอนห้องอื่นซะ ไม่ต้องเข้ามานอนในห้องนี้” คิมพูดว่าออกมาเสียงยานคางทั้งๆที่ตาก็กำลังจะปรือหลับอีกรอบ ทำให้กมลถึงกับยิ้มขำ ขนาดง่วงมากแบบนี้แล้ว คิมก็ยังบ่นกมลออกมาได้
“ก็ชั้นอยากนอนกอดนายนี่” กมลบอกเสียงแผ่ว พร้อมกับซุกหน้าไปหอมที่ซอกคอขาวของคิมเบาๆ
“อื้อออ” เสียงครางในลำคอของคิมดังขึ้น ทำให้กมลรู้สึกต้องการคนในอ้อมกอดขึ้นมาทันที ร่างนุ่มนิ่มกลิ่นหอมๆอยู่ข้างๆ ต่อให้เหนื่อยจากงานมากแค่ไหน กมลก็ยังต้องการคิมอยู่ดี
“อื๊อออ ไม่เอานะคุณกมล ผมจะนอน” คิมประท้วงขึ้นเมื่อร่างแกร่งขยับขึ้นมาทาบทับร่างบางเอาไว้
“นายก็นอนไปสิ ชั้นขอแค่นิดเดียวเองนะ” กมลพูดบอกออกมา
“มะ..ไม่ อึ่ก” คิมสะดุ้งเฮือก ตาสว่างขึ้นมาทันที เมื่อมือแกร่งของกมลจับไปที่กลางกายของคิมแล้วบีบเค้น จนคิมรู้สึกจุกนิดๆ
“เอ่…นายไม่อยากให้ชั้นทำ แต่ทำไมร่างกายนายมันบอกคนละอย่างกันนะ” กมลแกล้งพูดแซวขึ้นมาเมื่อกลางกายของคิมตื่นตัวตามแรงบีบเค้นของกมล
พลั่ก!
“คนบ้า ลงไปเดี๋ยวนี้นะ” คิมทุบไปที่ไหล่แกร่งของกมลเพื่อให้ลงจากการทาบทับร่างบางของคิม แต่กมลก็ไม่ได้สะเทือนอะไร จมูกโด่งก้มลงไปซุกไซร้ซอกคอขาวพร้อมกับดูดเม้มจนเกิดรอย
“อย่าดื้อเลยน่าคิม” กมลบอกเสียงพร่า ก่อนจะจับมือทั้งสองข้างของคิมล็อคเอาไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียวของตนเอง แล้วบดริมฝีปากลงไปจูบที่กลีบปากบางของคิมอย่างรุนแรง คิมพยายามจะหันหน้าหนี กมลก็ล็อคคางของคิมเอาไว้แน่น จนคิมรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วแนวสันกรามลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปเกี่ยวพันลิ้นเล็กอย่างดุดัน มันไม่ใช่การกระทำที่ทำไปเพราะความโกรธ แต่ทำไปเพราะความต้องการในตัวของอีกฝ่าย คิมไม่อยากจะยอมรับว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ มันก่อให้เกิดความสุขและความตื่นเต้นในใจของตนเองไม่น้อย ถึงจะเจ็บแต่ก็มีความสุขอย่างน่าประหลาด
“อ๊ะ..อื๊ออ” คิมสะดุ้งอีกครั้ง มือกมลผละออกจากริมฝีปากของคิมเลื่อนไปกัดที่ใบหูนิ่ม แล้วผงกหัวขึ้นมามองหน้าคิมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการเต็มเปี่ยม
“อยากให้ชั้นมัดนายมั้ยคิม” กมลถามเสียงพร่า มือแกร่งข้างที่ว่างสอดเข้าไปในเสื้อนอนของร่างบางแล้วลูบไล้ บีบเค้นไปทั่วร่างกายและยอดอกของคิมเป็นการกระตุ้นอารมณ์ไปด้วย คิมเม้มปากกลั้นเสียงคราง ลมหายใจเริ่มติดขัดเพราะความเสียวซ่านและความอึดอัดบางอย่างในร่างกาย
กึก..
“อ๊าาา” คิมร้องลั่นออกมาเมื่อกมลก้มลงไปกัดยอดอกของคิมเพื่อกระตุ้นคำตอบ ลิ้นร้อนไล่เลียและขบกัดไปทั่วร่างกายช่วงบน ทำให้คิมตัวสั่นระริก ยามที่กมลเลียไปที่รอยฟันที่กมลเป็นคนกัดคิมเอง มันให้ความรู้สึกแสบและเสียวซ่านไปพร้อมๆกัน
“ว่าไงล่ะ” กมลถามอีก คิมมองกมลด้วยสายตาสั่นระริก
“มะ…มัด” คิมตอบออกมาเสียงแผ่วเบา ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ กมลยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะผละลงจากเตียงเพื่อไปหยิบเชือกที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าออกมา คิมที่นอนหายใจแผ่วๆเสื้อผ้าชุดนอนหลุดลุ่ยเพราะฝีมือของกมล นอนมองร่างแกร่งที่เดินถือเชือกเข้ามาหาช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม กมลวางเชือกไว้ข้างๆ ก่อนจะขยับไปดึงกางเกงนอนของคิมออกอย่างรวดเร็ว จนคิมเองยังตกใจสายตาหื่นกระหายเหมือนเสือร้ายของกมล ทำให้คิมรู้สึกร้อนวูบวาบ และต้องการอยากให้อีกฝ่ายเติมเต็มตนเองทั้งๆที่ตอนแรกเป็นฝ่ายปฏิเสธอยู่เลย กมลจับร่างของคิมที่อ่อนปวกเปียกพลิกคว่ำ จนร่างบางต้องเอี้ยวหน้ามามองว่ากมลจะทำอะไรกับตนเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นไม่น้อย กมลหยิบเชือกออกมาแยกส่วนเป็นสี่เส้น แล้วเอาแต่ละเส้น ไปมัดที่ข้อมือของคิมและข้อเท้าข้างละเส้น คิมมองตามการกระทำของกมลไม่วางตา เมื่อมัดข้อมือข้อเท้าครบแล้ว ก็เอาปลายเชือกของแต่ละเส้นไปมัดตามมุมทั้งสี่ของเตียงจนตึง
“อ๊ะ เจ็บ” คิมร้องบอกออกมา เพราะตอนนี้ร่างกายของคิม นอนคว่ำกางแขนกางขาแยกจากกันจนกว้าง จะขยับงอตัวไม่ได้เลยสักนิดเนื่องจากเชือกถูกมัดตึงเอาไว้ ถ้าจะงอตัวหรือขยับ เชือกก็ยิ่งรัดแน่นจนเจ็บ กมลยืนมองภาพตรงหน้าอย่างพอใจ แล้วค่อยๆถอดกางเกงออกช้าๆ สะโพกเนียนของคิมเด่นชัดอยู่ตรงหน้า
“ผมเมื่อย” คิมร้องประท้วงออกมา เพราะแขนขาถูกจับแยกกว้างจนตึงทั้งสี่มุม กมลที่ถอดกางเกงออกจนหมด จนแท่งร้อนที่เริ่มผงาดออกมาสูดอากาศเรียบร้อยแล้ว นั่งลงตรงระหว่างขาที่แยกกว้างของคิม
“สวยมากที่รัก” กมลก้มลงไปกระซิบบอกคิมข้างๆหูอย่างแผ่วเบา
“ทนเมื่อยไปก่อนนะ” กมลบอกอีก ก่อนจะขบกัดไปที่ไหล่เนียนทางด้านหลังของคิม ร่างแกร่งที่ทาบทับลงบนแผ่นหลัง ทำให้คิมรับรู้ว่ามีบางอย่างที่ใหญ่โตกำลังดุนดันถูไถที่บั้นท้ายตนเองอยู่
“ฮืมมมม” เสียงคำรามในลำคอดังขึ้นเหมือนทุกที มือแกร่งฟอนเฟ้นไปทั่วร่างกายขาวเนียนจนเกิดรอยแดง คิมเบ้หน้าด้วยความทรมานเพราะต้องถูกตรึงเอาไว้กับที่ รู้สึกเสียวซ่านแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ดิ้นไม่ได้นอกจากร้องครางออกมา เป็นการทรมานที่คิมแอบรู้สึกดีกับมัน
“อืมมมมมม อืออออ” คิมครางในลำคอเมื่อมือแกร่งยังคงบีบเค้นไปทั่ว
เพียะ!
บั้นท้ายเนียนเกิดรอยขึ้นเพราะถูกฝ่ามือแกร่งตบเข้าไปอย่างจัง จนคิมสะดุ้งเฮือก ก่อนที่มือของกมลจะสอดไปใต้ร่างของคิมแล้วจับแก่นกายของคิมเอาไว้ การรูดรั้งทำไปด้วยความลำบากเนื่องจากคิมนอนคว่ำตัวแนบชิดกับเตียง ขยับตัวไม่ได้มากนักเพราะถูกเชือกมัดเอาไว้
“อื้มมมม อ๊าาา” คิมรู้สึกทรมานไม่น้อย ที่แก่นกายถูกขยับไม่ได้ดั่งใจ กมลขยับแท่งร้อนของตนเองถูไถไปตามร่องรอยแยกบั้นท้ายจนคิมรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วท้องน้อย
“อยากได้แบบไหนอีกคิม บอกชั้นมา ว่าอยากได้แบบไหนอีก” กมลถามเสียงแหบพร่า คิมกลืนน้ำลายลงคอพร้อมกับหันคอหันหน้ามาทางด้านหลังเท่าที่จะทำได้
“เข้ามาสักทีสิ ผมอึดอัด เข้ามาแรงๆ” คิมร้องขอ กมลยิ้มหื่น ก่อนจะหยิบหลอดเจลหัวเตียงมาเทราดที่บั้นท้ายเนียนของคิม คิมรับรู้ถึงความเย็นจนสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย มือแกร่งลูบเจลไปที่ช่องทางด้านหลังของคิม แล้วสอดนิ้วเข้าไปก่อน ไม่ใช่เพราะต้องการเบิกทาง แต่กมลต้องการแกล้งคิมตะหาก
“อึ่ก..อื๊อออ” คิมร้องครางในลำคอ ก่อนที่กมลจะกระแทกนิ้วยาวของตนเองระรัวจนคิมสะบัดหัวไปมา
“อ๊ะ…ไม่เอา…อื๊ออออ ไม่เอานิ้ว…คุณกมล อย่างแกล้ง..อื๊ออ” คิมร้องบอกออกมาอย่างขัดใจ
“หืมมม ชั้นแกล้งอะไร” กมลถามกลับ นอกจากจะชอบมีเซ็กส์แบบรุนแรงแล้ว กมลก็ชอบแกล้งอีกฝ่ายให้ทรมานเล่นด้วยเหมือนกัน
“มะ..ไม่..อื๊อออ ไม่เอานิ้ว….แฮ่กๆ จะเอามากกว่านั้น..อื๊ออ เร็วสิ” คิมร้องขอออกมา กมลยิ้มนิดๆ
“ทำไมตอนปกติไม่อ้อนขออะไรแบบที่อ้อนขอตอนนี้บ้างนะ” กมลพูดแซวขึ้นมาก่อนจะถอนนิ้วยาวออก แล้วสอดแท่งร้อนของตนเองเข้าไปแทนที่
“อ๊าาาา…ชะ..ช้าๆสิ…” คิมร้องบอกออกมาเพราะความใหญ่โตที่แทนที่นิ้วยาวมันคับแน่นไปทั่วช่องทางด้านหลัง
“ชั้นทนมานานแล้วนะคิม ฮืมมมม ถ้านายไม่ผ่อนคลาย นายก็จะเจ็บ แต่นายก็ชอบเจ็บๆไม่ใช่เหรอ หืมมม” กมลพูดบอกก่อนจะกระแทกตัวเข้าไปเต็มแรง จนคิมกรีดร้องออกมาลั่นห้อง
“อ๊าาาาาาาาาา..” ความเจ็บที่เกิดขึ้น มันมาพร้อมกับความเสียวซ่าน ความตื่นเต้น ความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ พอคิมสะดุ้งทีทั้งขาทั้งแขนที่ขยับด้วยความลืมตัวก็ทำให้เชือกรัดแน่นมากขึ้นไปอีก กมลใช้มือข้างหนึ่งค้ำยันพื้นเตียงตรงข้างตัวของคิมเอาไว้แล้วกระแทกสะโพกลงไปอย่างรุนแรง
ปั่บ ปั่บ ปั่บ
เสียงหน้าขาของกมลกระทบกับบั้นท้ายของคิมดังขึ้นตามจังหวะกระแทกกระทั้นของกมล
“ซี๊ดด….อืมมมม รัดดีเกินไปแล้ว ฮึ่มมม” กมลร้องครางออกมาเมื่อรู้สึกว่าช่องทางรักของคิมรัดแน่นจนแทบขยับไม่ได้ แต่กมลก็ฝืนขยับตัวซอยสะโพกอย่างเมามัน
“อ๊ะ…อ๊าาา…อ๊าา” คิมร้องครางออกมาด้วยความเจ็บและเสียวปะปนกันไป แรงกระแทก ทำให้แก่นกายของคิมเสียดสีไปกับที่นอนนุ่ม ทำให้เกิดความรู้สึกเสียวแปลบๆที่แก่นกายเช่นเดียวกัน เสียงคำราม เสียงครางของกมล ยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อกระแทกสะโพกไม่หยุดหย่อน มือแกร่งอีกข้างที่ไม่ได้ค้ำยันเตียง เลื่อนไปกดหัวของคิมที่หันตะแคงแนบอยู่กับเตียง มือแกร่งจิกเส้นผมนุ่มจนเต็มมือ
“อื๊อออ..เจ็บ…ซี๊ดด…อ๊าาา” คิมร้องคราง ปากบอกเจ็บ แต่เสียงร้องบ่งบอกถึงความสุขสมไม่น้อย ยิ่งกมลโหมแรงมากขึ้นเท่าไร เชือกที่มัดก็รัดแน่นและเสียดสีข้อมือข้อเท้ามากขึ้นเท่านั้น ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าต้องเกิดรอยแน่ๆ
“แรงๆ..อื๊อออ.แรงอีกสิ อ๊าา” คิมร้องขอออกมาไม่หยุด กมลก็ใจดีสนองให้เต็มที่ เตียงไม้แข็งแรงขยับดังลั่นพร้อมกับเสียงครางของคนทั้งคู่
“โอยยย ซี๊ดดด สุขสุดๆ เสียวสุดๆ อ่าาาาาา” กมลครางเสียงแหบพร่า เขาพอใจกับบทรักครั้งนี้มาก ถึงจะไม่ได้รุนแรงเต็มที่อย่างที่เขาต้องการ แต่ก็ทำให้เขาเต็มอิ่มได้เหมือนกัน ซึ่งไม่ต่างไปจากคิม ทั้งๆที่ถูกทำเรื่องน่าอาย ทั้งๆที่ถูกทำรุนแรง ถูกมัด คิมกลับรู้สึกพอใจและซึมซับการกระทำ ซึมซับเรื่องบนเตียงของกมลไปทีละนิด
“อ๊าาา…ยะ..อย่าหยุดนะ…อื๊อออ…ไม่ไหวแล้ว..อ๊าาาาาาาาาาาาาา” คิมร้องครางลั่นเมื่อปลดปล่อยความอึดอัดออกมา แต่แรงกระแทกจากทางด้านหลังยังไม่หยุด แต่รัวเร็วขึ้น
“ซี๊ดดดด…อืมมมมม อ่าาาา” กมลเองก็เร่งสะโพกพร้อมกับปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในร่างกายของคิมเช่นเดียวกัน คิมฟุบหน้าไปกับเตียงแล้วหายใจอย่างเหนื่อยหอบ ความปวดร้าวความแสบเกิดขึ้นมาทันที แต่ไม่ทันที่จะได้พูดว่าอะไร กมลก็เริ่มขยับตัว เพื่อเริ่มยกต่อไปทันที เสียงร้องคราง เสียงกรีดร้องของคิม ยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบเช้า
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เช้า
กมลที่พึ่งนอนไปเมื่อตอนตี 5 เนื่องจากรังแกคิมไป 3 รอบ พร้อมกับทำความสะอาดร่างกายให้กับคิมที่หลับไปด้วยความเพลีย ก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วง 8 โมง เพราะมีนัดต้องไปคุยกับลูกค้าตอน 10 โมง กมลอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมามองคิมที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้างโดยที่กมลใส่ชุดนอนให้เมื่อคืนเรียบร้อย กมลนั่งลงข้างๆ แล้วมองข้อมือของคิมที่มีรอยถูกมัด ก่อนจะยิ้มบางๆออกมา
“หึหึ ถ้าตื่นขึ้นมาเห็น หวังว่าคงไม่โวยวายอีกนะ” กมลพูดเบาๆ ก่อนจะก้มลงไปจูบซับที่ขมับของคิมอย่างอ่อนโยน แล้วลุกไปเขียนโน๊ตบอกคิมว่าตนเองต้องออกไปทำงานก่อน เมื่อเขียนบอกเรียบร้อยแล้ว กมลก็เดินออกจากห้องนอนไปสั่งป้านี ให้เตรียมอาหารไว้ให้พร้อมเพื่อรอคิมตื่นขึ้นมากิน และไม่ให้ใครขึ้นไปกวนเวลานอนของคิมด้วย จนกว่าคิมจะตื่นขึ้นมาเอง ซึ่งทุกคนก็รับคำอย่างเคร่งครัด กมลถึงจะออกไปทำงานได้อย่างสบายใจ
..
..
..
..
“อืออออ” ร่างบางบนเตียงเริ่มขยับตัวน้อยๆ หลังจากที่ได้หลับอย่างเต็มอิ่ม แต่อาการขัดยอกไปทั่วร่างกายและอาการเจ็บแสบที่ข้อมือข้อเท้าทำให้คิมต้องสะดุ้งลืมตาตื่นอย่างเต็มตา
“ซี๊ดดด ทำไมมันเจ็บแบบนี้เนี่ย” คิมโอดครวญ ก่อนจะยกข้อมือตนเองขึ้นมาดู พอเห็นรอยถูกมัดก็หน้าขึ้นสี ภาพเมื่อคืนย้อนเข้ามาให้เห็นอีกครั้งเป็นการทบทวนทุกอย่าง
“ไอ้คิมเอ๊ยยยย ทำไมต้องยอมให้เค้าทำแบบนี้ด้วยนะ” คิมบ่นว่าตัวเองเรื่องที่ให้กมลทำรุนแรงกับตนเอง
“นี่เราต้องยอมรับใช่มั้ย ว่าเราชอบแบบนี้” คิมพูดกับตนเองอย่างปลงๆ ก่อนจะเริ่มมองหาร่างแกร่งของกมล
“แล้วตาซาดิสต์นั่นหายไปไหนนะ ทำให้คนอื่นเจ็บตัวแบบนี้ ทำไมไม่มารับผิดชอบเนี่ย” คิมบ่นออกมาอย่างพาลๆ รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาซะงั้นเมื่อตื่นมาไม่เห็นตัวการที่ทำให้ตนเองต้องยอกไปทั้งตัวแบบนี้ คิมยันกายจะลงจากเตียงก็เห็นกระดาษโน๊ตวางเอาไว้ที่โต๊ะข้างเตียงจึงหยิบขึ้นมาอ่าน แล้วรู้ว่ากมลออกไปทำงานแล้ว ทำให้คิมคิดย้อนว่าเมื่อคืนเสร็จกิจกรรมบนเตียงไปตอนไหน แล้วกมลออกไปตอนไหน เพราะตอนนี้เป็นเที่ยงวันแล้ว แต่ก็คิดอะไรได้ไม่เท่าไร เสียงท้องร้องก็ดังขึ้น ทำให้คิมต้องลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อลงไปหาอะไรกินลงท้องเสียก่อน
..
..
..
“คุณคิม ตื่นแล้วเหรอคะ หิวรึยังคะ ดาจะได้ไปตั้งโต๊ะให้” ดา ผู้ช่วยป้านีทักขึ้น เมื่อเห็นคิมค่อยเดินลงมาจากชั้นบน
“หิวแล้วล่ะดา” คิมบอกออกมาตามตรง เพราะหิวมากจริงๆ
“งั้นไปรอที่ห้องอาหารก่อนนะคะ เดี๋ยวดาอุ่นกับข้าวให้แป๊บเดียว” หญิงสาวบอกอีก คิมส่งยิ้มขอบคุณไปให้ ก่อนจะเดินไปรอที่ห้องอาหาร
“กิจๆ” คิมเรียกลูกน้องของกมลที่กำลังจะเดินผ่านห้องอาหารเอาไว้ ชายหนุ่มจึงเดินเข้ามาหาคิมตามที่คิมเรียก
“คุณคิมต้องการอะไรรึเปล่าครับ” กิจถามขึ้น
“นายไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย” คิมถามกิจถึงเรื่องที่ถูกกมลต่อยเมื่อวาน
“ไม่เป็นไรครับ” กิจตอบพร้อมกับยิ้มแหยๆ
“ว่าแต่ เจ้านายของนายน่ะ เค้าออกไปตั้งแต่กี่โมง” คิมถามอีก
“นายออกไปตั้งแต่ 9 โมงแล้วล่ะครับ” กิจตอบกลับ ทำให้คิมขมวดคิ้วมุ่น เพราะหมายถึงว่ากมลได้นอนไปแค่ 3- 4 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
“อืม ขอบใจมาก นายมีอะไรทำก็ไปเถอะ” คิมบอกกลับ ก่อนที่กิจจะเดินแยกไป สักพัก ดาก็ยกอาหารมาให้คิม
“คุณคิมไม่ร้อนเหรอคะ ถึงใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวอ่ะค่ะ” หญิงสาวถามออกมาอย่างซื่อๆ คิมชะงักไปนิด
“แล้วจะไปอยากรู้ทำไมหะยัยดา” ป้านีที่เดินตามเข้ามาพูดปรามขึ้น
“ก็ดาสงสัยนี่นา เอ๊ะ คุณคิมไปโดนอะไรมาคะ ข้อมือแดงเถือกเลย ดาไปเอายามาทาให้นะคะ” หญิงสาวถามออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นข้อมือของคิมที่โผล่พ้นขอบชายแขนเสื้อออกมา
“เอ่อ.. ดา ไม่เป็นไร ชั้นไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ขอบใจมากนะ” คิมรีบห้าม เพราะถ้าจะทายาจริงๆ คงต้องทาให้คิมทั้งตัวนั่นแหละ เนื่องจากทั้งตัวของคิม มีรอยกัดรอยดูดเต็มไปหมด
“ไปทำงานต่อได้แล้วดา ให้คุณคิมเค้าได้ทานอาหารก่อน” ป้านีพูดไล่หญิงสาวให้ออกไปก่อน หญิงสาวก็ยอมเดินไปแต่โดยดี
“เจ็บมั้ยคะ” ป้านีหันมาถามคิมด้วยความเป็นห่วง ป้านีรู้รสนิยมของกมลดีว่าเป็นยังไงเพราะอยู่ด้วยกันมานาน
“ไม่หรอกครับ ป้านีอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ” คิมพูดบอกกับป้านีเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายกังวล เมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงของป้านี
“แน่ใจนะคะ ป้าล่ะกลัว กลัวว่าคุณกมลเค้าจะบังคับคุณคิม แล้วทำร้ายคุณคิมเข้า” ป้านีพูดบอกออกมา คิมส่งยิ้มอ่อนๆไปให้
“คุณกมลของป้านีน่ะ เค้าก็ชอบบังคับผมทุกเรื่องแหละครับ แต่เรื่องนี้…เอ่อ..” คิมพูดเองหน้าก็แดงเอง
“อะไรเหรอคะ” ป้านีถามกลับ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมกินข้าวก่อนดีกว่า ขอโทษด้วยนะครับที่ตื่นสาย” คิมเปลี่ยนเรื่องคุยทันที ป้านีเองก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ ปล่อยให้คิมกินข้าวไปคนเดียว เมื่อกินข้าวเสร็จ คิมก็ไปหยิบโน้ตบุคของตนเองมานั่งทำงาน เพราะไม่อยากอยู่เฉยๆ จนถึงตอนนี้คิมก็หาโทรศัพท์ของตนเองไม่เจอ ร่างบางรอถามกมลอีกที คิมนั่งทำงานโดยที่ไม่มีคนเข้าไปกวน แต่ก็มีลูกน้องของกมล มาเดินตรวจตราและดูแลอยู่ห่างๆ ไม่มีใครตามประกบเหมือนตอนแรก ทำให้คิมคลายความอึดอัดลงได้บ้าง จนเวลาผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ กมลก็กลับมา ร่างแกร่งลงจากรถได้ก็ถามหาคิมทันที เมื่อรู้จากลูกน้องว่า คิมอยู่ในห้องดูหนัง ก็รีบตามเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ตื่นนานรึยัง หืม” กมลทักขึ้น ทำให้คิมหันไปมองนิดๆ
“นานแล้ว” คิมตอบสั้นๆ กมลนั่งลงข้างๆคิม
“ทำงานเหรอ” กมลถามอีก
“อืม” คิมตอบรับสั้นๆ
“ร่างกายเป็นไงบ้าง” กมลถามด้วยความเป็นห่วง รู้ดีว่าเมื่อคืนตนเองเอาแต่ใจแค่ไหน คำถามของกมล ทำให้คิมหน้าขึ้นสี
“ไม่ต้องถามได้มั้ยล่ะ เดินได้ ไม่ตายก็เห็นๆอยู่นี่” คิมพูดประชดออกมา ทำให้กมลหัวเราะขำเบาๆในลำคอ
“งั้นเย็นนี้ชั้นขอไถ่โทษ ที่เอาแต่ใจ พานายไปกินข้าวนอกบ้านดีมั้ย” กมลพูดออกมาอย่างเอาใจ
“ผมอยากไปซื้อของใช้” คิมพูดบอกออกมา เพราะของใช้ส่วนตัวของตนเองหมดหลายอย่าง
“งั้นตอนเย็นพาออกไปซื้อทีเดียวเลย” กมลบอกอีก คิมจึงพยักหน้ารับ
“อ่อ คุณกมล โทรศัพท์ผมล่ะ” คิมถามหาโทรศัพท์ตนเอง
“อยู่ในห้องทำงานชั้น เดี๋ยวเอามาให้” กมลตอบกลับ คิมหันไปมองหน้ากมลนิ่งๆ
“มีอะไร” กมลถามกลับไป
“กลับมาแล้วก็ไปนอนพักบ้างซะสิ มานั่งอยู่ได้” คิมพูดว่าออกมา
“เป็นห่วงชั้นเหรอ” กมลถามกลับ รู้สึกดีใจไม่น้อย ที่คิมแสดงอาการออกมาว่าเป็นห่วงตนเองแบบนี้
“ใครห่วงคุณไม่ทราบ ไม่อยากพักก็ตามใจคุณสิ” คิมว่ากลับเสียงห้วน กมลหัวเราะหึหึในลำคอ
“งั้นขอนอนตรงนี้ได้มั้ย ชั้นไม่อยากขึ้นไปนอนคนเดียว” กมลบอกกลับ ก่อนจะคว้าหมอนอิงมาวางข้างตัวของคิมที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว แล้วล้มตัวลงนอนเหยียด
“คุณกมล มานอนอะไรตรงนี้ ขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างๆโน่นไป” คิมพูดว่าออกมาเสียงขุ่น
“ชั้นนอนตรงไหนก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก” กมลบอกกลับพร้อมกับหลับตาลง ความจริงเขาเองก็เพลียมากเหมือนกัน คิมนั่งมองคนที่นอนอยู่ข้างๆตนเองด้วยสายตานิ่งๆ สักพักกมลก็หลับสนิท คิมก็ยังนั่งมองกมลอยู่อย่างนั้น
//มาเฟียบ้าอะไรเนี่ย ทำตัวเหมือนเด็กชะมัด// คิมพูดบ่นออกมา ก่อนจะลุกไปเรียกให้ลูกน้องของกมล เอาผ้าห่มมาให้ แล้วกลับมานั่งข้างๆกมลเหมือนเดิม
2 Be Con
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รู้สึกว่า เอนซี ซ้ำซาก น่าเบื่อมาก = =
ถ้ามีคำผิดบอกได้นะคะ เราเบลอมากอ่านทวนแล้วตาลาย เหอเหอ