ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 14
Author: 여님 (ยอนิม)
“ชั้นไม่เคยเห็นนายเป็นสิ่งของ แต่ช่วงนี้ชั้นแค่ต้องการให้นายปลอดภัยในระหว่างที่ชั้นจัดการเรื่องทั้งหมดให้เรียบร้อยเสียก่อน ชั้นไม่อยากเสี่ยงให้นายเดือดร้อนไปด้วย เข้าใจชั้นหน่อยสิคิม” กมลบอกออกมาเสียงเครียด
“ไม่! ผมไม่เข้าใจ ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าคุณจะให้ผมไปก็ไปส่งผมที่บ้านของผม ไม่ก็คอนโดของผม ผมอยู่คนเดียวดูแลตัวเองได้” คิมโวยขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะพึ่งผ่านเหตุการณ์ลุ้นระทึกมาหมาดๆ แต่คิมกลับรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถที่จะหนีไปหลบเพียงคนเดียวได้ ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดมันจะไม่เกี่ยวข้องกับคิมโดยตรงก็ตามที
“ชั้นให้นายไปอยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีใครดูแลไม่ได้” กมลบอกกลับมาอีก ลูกน้องที่ยืนอยู่รายรอบนิ่งเงียบไม่มีใครกล้าขัดอะไรเมื่อเห็นเจ้านายตัวเองกำลังทะเลาะกับเมีย
“งั้นก็ให้ผมอยู่บ้านคุณไปสิ ไหนคุณบอกว่าบ้านคุณปลอดภัยไงล่ะ ลูกน้องของคุณมีอยู่เต็มบ้าน” คิมพูดขึ้น
“พูดง่ายๆว่า ตอนนี้ชั้นต้องการให้นายอยู่ห่างจากชั้นให้มากที่สุด แต่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น จริงอยู่ที่บ้านชั้นปลอดภัย แต่ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องรั่วออกไปว่านายอยู่ที่นั่น ชั้นไม่อยากให้ใครดึงนายเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเข้าใจใช่มั้ยคิม” กมลพูดบอกและถามกลับ คิมยืนเม้มปากเข้าหากัน มองหน้ากมลด้วยความไม่พอใจ คิมรู้สึกว่าสิ่งที่กมลพูดทำให้คิมเหมือนคนเห็นแก่ตัว
“คุณมันบ้า! คุณกมล เอาแต่ใจตัวเองที่สุด นึกอยากจะบังคับให้ผมมาอยู่ด้วยก็ทำ นึกอยากจะไล่ให้ผมไปห่างๆก็ทำ คนทุเรศ” คิมโวยใส่กมล ก่อนจะเปิดประตูรถเพื่อเข้าไปนั่งที่ เพราะไม่อยากพูดไม่อยากทะเลาะกับกมลให้มากกว่านี้อีก กมลถอนหายใจออกมาหนักๆแล้วหันไปมองหน้าคม
“ทำตามที่ชั้นบอก ส่วนคิมเดี๋ยวชั้นจัดการเอง” กมลบอกกลับ
“ครับ แล้วจะให้กลับบ้านเลยมั้ยครับ” คมถามขึ้น กมลยืนหน้าเครียดนิดๆ
“กลับเลย แต่ใช้เส้นทางใหม่” กมลพูดบอกก่อนที่ลูกน้องของกมลจะกลับขึ้นรถเพื่อพากมลกลับบ้าน กมลขยับขึ้นไปนั่งข้างร่างบาง แต่คิมก็ขยับออกห่างพร้อมกับมองออกไปนอกรถ ไม่หันมามองกมลแม้แต่นิดเดียว กมลเองก็ยังไม่พูดอะไร ปล่อยให้คิมอยู่เงียบๆไปก่อน คิมกำลังรู้สึกสับสนในใจเป็นอย่างมาก ความรู้สึกของคิมตอนนี้มันต่างจากตอนที่คบกับเดย์สิ้นเชิง ตอนนั้นเวลาเดย์พูดบอกหรือไล่ให้คิมกลับบ้าน คิมก็จะยอมกลับแต่โดยดี ถึงแม้จะรู้ว่าเดย์จะไปมีเรื่องมีราว แต่คิมก็ไม่กล้าที่จะพูดหรือเตือนอะไร ได้แต่ยอมรับฟังแล้วทำตามทุกอย่าง แต่กับกมล คิมกลับมีความรู้สึกอยากจะดื้อดึง อยากจะเอาแต่ใจ ไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นห่วงตนเองฝ่ายเดียว
ห่วง…
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ คิมก็หันไปมองหน้ากมลนิดๆก่อนจะหันกลับไปมองถนนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ความรู้สึกของคิมตอนนี้มันเริ่มเด่นชัดขึ้นมาว่ารู้สึกห่วงกมลไม่น้อย อยากรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของกมล การที่กมลจะส่งให้คิมไปอยู่กับเดย์ ทำให้คิมไม่สามารรับรู้ได้ว่า กมลจะต้องเจอกับอะไรบ้างมันเป็นความรู้สึกที่คิมไม่ชอบเอามากๆ มันรู้สึกอึดอัดที่ไม่รู้ความเป็นไปของอีกฝ่าย ยิ่งในช่วงที่มีแต่เรื่องอันตรายเข้ามาหาแบบนี้ด้วย คิมนั่งคิดเรื่องของกมลโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามาถึงบ้านตั้งแต่เมื่อไร
“คิม ถึงบ้านแล้ว” กมลพูดบอกกับร่างบาง คิมถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินหุนหันเข้าไปในบ้าน กมลรีบตามไปในทันที
“คิม อย่าเป็นแบบนี้ได้มั้ย” กมลพูดขึ้น ทำให้คิมชะงักเท้าไปนิดแล้วหันไปมองกมล
“เป็นอะไร ผมเป็นอะไรไหนบอกมาสิ” คิมย้อนถามกลับ
“ไม่เอาน่า ตกลงเข้าใจใช่มั้ยว่าชั้นจำเป็นต้องให้นายไปอยู่กับเดย์มันก่อนจริงๆ” กมลบอกย้ำออกมาอีก
“ไม่เข้าใจ ผมไม่อยากไปไหน จะให้ผมตะลอนๆไปโน่นไปนี่แบบนี้ผมไม่ชอบ ผมรู้ว่าคุณห่วงผม แต่คุณห่วงมากไปรึเปล่า ผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนะคุณกมล อย่าทำเหมือนว่าผมเป็นผู้หญิงที่ดูแลตัวเองไม่ได้ ไม่สิ ผู้หญิงบางคนเค้ายังสามารถดูแลตัวเองได้เลย คุณทำเหมือนกับว่าผมเป็นคนอ่อนแอ ขี้ขลาดจนต้องหนีไปหลบที่อื่น” คิมพูดว่าออกมาเสียงก้องไปทั่วบ้าน ทำให้ลูกน้องของกมลต่างไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้คนทั้งสองมากนัก
“ชั้นไม่เคยคิดว่านายขี้ขลาดหรืออ่อนแอนะคิม แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของชั้น ชั้นไม่อยากดึงนายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย” กมลบอกย้ำออกมาอีกให้คิมเข้าใจ เขาเองก็ไม่ใช่คนที่อธิบายอะไรได้เก่งนัก พอได้ยินที่กมลพูดบอก คิมก็ชะงักไปนิด พร้อมกับมองกมลด้วยสายตาตัดพ้อ จนกมลเองหัวใจกระตุกนิดๆเมื่อเห็นสายตาของคิมที่มองมา
“เรื่องของคุณงั้นเหรอ เรื่องของคุณคนเดียวสินะ” คิมพูดเสียงเยาะๆ ก่อนจะหันหลังเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอน กมลยกมือขึ้นมาลูบหน้าอย่างเครียดๆ ตอนนี้อารมณ์ของกมลขุ่นมัวจนไม่อยากอยู่ใกล้คิมมากไปนัก และไม่อยากให้คิมหงุดหงิดไปมากกว่านี้ กมลจึงเดินกลับไปที่รถ แล้วสั่งให้ลูกน้องขึ้นไปบอกคิมว่าตนเองจะไปที่สำนักงานเพื่อคุยถึงเรื่องหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้คิมนอนไปก่อนได้เลย
ส่วนคิมเมื่อเข้ามาในห้องแล้ว ก็นั่งสงบสติอารมณ์อยู่ที่ปลายเตียง มองไปที่ประตูก็ไม่เห็นว่ากมลจะตามขึ้นมาเหมือนทุกทีที่คิมเดินหนี
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้คิมขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ เพราว่าถ้าเป็นกมลก็จะเปิดประตูเข้ามาเลยโดยไม่เคาะ ร่างบางเดินไปเปิดประตูก่อนจะเห็นว่าเป็นลพลูกน้องของกมล
“มีอะไร” คิมถามกลับไป
“นายให้ขึ้นมาบอกคุณคิมว่า ให้คุณคิมพักผ่อนก่อนได้เลยครับ นายไปคุยเรื่องงานที่สำนักงาน ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนไหน” ลพพูดบอก ทำให้คิมชะงัก ร้อนหน้าร้อนตาขึ้นมาทันที
“อืม ขอบใจนะ” คิมบอกแค่นั้นแล้วปิดประตูทันที ร่างบางยืนกำหมัดแน่น ฟันซี่สวยขบกัดไปที่ริมฝีปากล่างอย่างน้อยใจ
“ตั้งใจจะกันให้ออกห่างตั้งแต่ตอนนี้เลยใช่มั้ย” คิมพูดพึมพำอยู่คนเดียว ก่อนจะเดินไปอาบน้ำเพื่อทำให้จิตใจเย็นลง พออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว คิมก็กลับขึ้นมานอนบนเตียงกว้าง สายตาก็มองนาฬิกาข้างผนังห้องไปด้วย คิมนอนพลิกไปพลิกมา จะว่านอนไม่หลับก็ใช่ แต่ใจก็กังวลว่าเมื่อไรกมลจะกลับ คิมนอนมองนาฬิกาอยู่อย่างนั้น จนร่างกายเริ่มจะง่วง เวลาที่จำได้ที่เห็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหลับคือ ตี 5 ครึ่ง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาเพราะเมื่อคืนคิมไม่ได้ปิดผ้าม่าน ทำให้คิมรู้สึกตัวตื่น ร่างบางบิดตัวน้อยๆจะขยับไปซุกหาไออุ่นเหมือนเช่นทุกวันแต่ก็ต้องนิ่งแล้วลืมตาขึ้นมา ข้างกายของคิมว่างเปล่าไม่มีร่องรอยว่ากมลจะกลับมานอน ร่างบางขมวดคิ้วเข้าหากัน หันไปมองนาฬิกาก็รู้ว่าเที่ยงกว่าแล้ว คิมลุกไปล้างหน้าอย่างเดียวแล้วลงไปที่ชั้นล่างของบ้านทันที
“ตื่นแล้วเหรอคะคุณคิม ป้าเตรียมอาหารไว้ให้แล้วน่ะค่ะ จะรับเลยรึเปล่าคะ ป้าจะได้ไปอุ่นให้” ป้านีพูดบอกเมื่อเห็นคิมเดินลงมาจากชั้นบน
“ยังครับป้า ลพๆ มานี่หน่อย” คิมตอบกลับป้านีก่อนจะเรียกลพที่กำลังจะเดินผ่านห้องรับแขกไปทางหน้าบ้านพอดี ลพเดินเข้ามาหาคิม
“ครับ คุณคิม” ลพตอบรับ
“คุณกมลอยู่ที่ไหน” คิมถามขึ้นทันที
“นายอยู่ที่สำนักงานครับ” ลพตอบกลับ
“ตั้งแต่เมื่อคืนอ่ะนะ” คิมพูดถามขึ้นอีก
“ครับ” ลพตอบรับสั้นๆ
“แล้วจะกลับมาเมื่อไร” คิมถามต่อ
“ไม่ทราบครับ” ลพตอบตามจริง เพราะตนเองไม่รู้จริงๆว่ากมลจะกลับตอนไหน คิมขมวดคิ้วเข้าหากัน
“อืม ขอบใจมาก” คิมพูดบอกแล้วให้ลพไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
“มีอะไรกันรึเปล่าคะ สีหน้าคุณคิมไม่ค่อยดีเลย” ป้านีถามออกมาอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าของคิม ที่บ่งบอกว่าน้อยใจออกมาเต็มที่
“ไม่มีอะไรครับ เดี๋ยวผมขอขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวลงมาทานข้าว” คิมพูดบอกก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนห้องอีกครั้ง โดยมีป้านีมองตามอย่างเป็นห่วง
และตลอดทั้งวันคิมก็ไม่หน้ากมลเลยจนเวลาล่วงเลยมาจนเย็นขณะที่คิมกำลังนั่งเหม่อดูทีวีอยู่ คมก็เดินเข้ามาหา
“คุณคิมครับ” คมเรียกคิม ทำให้คิมหันไปมองพร้อมกับมองเลยคมไปเพื่อหวังว่าจะเห็นกมลเดินตามเข้ามาด้วย
“เจ้านายของนายล่ะ” คิมถามขึ้นก่อนที่คมจะพูดอะไร
“นายยังอยู่ที่สำนักงานครับ พอดีเราเรียกทุกฝ่ายเข้ามาประชุมเกี่ยวกับเรื่องของเมื่อคืน” คมตอบกลับ
“ประชุมกันจนไม่กลับบ้านเลยน่ะเหรอ” คิมแค่นเสียงถามขึ้นมา
“มันมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการน่ะครับ นายก็เลยต้องอยู่ที่สำนักงานยาว แต่นายเป็นห่วงคุณคิมมากนะครับ” คมพูดบอกออกมาตามจริง คิมยกยิ้มมุมปากนิดๆ
“เป็นห่วงแต่ไม่มาดูแลชั้นเนี่ยนะ ช่างเหอะ ว่าแต่นายมีอะไรรึเปล่า” คิมถามคมกลับไป ถึงแม้ว่าในใจจะหงุดหงิดไม่น้อยก็ตาม
“ผมติดต่อไปที่เดย์ให้แล้วนะครับ ตอนนี้เดย์ไปเที่ยวพักผ่อนอยู่ที่เกาะช้าง แล้วบอกว่าให้พาคุณคิมไปที่นั่นได้เลย ยังไงคืนนี้คุณคิมเตรียมเสื้อผ้าไปสัก 2-3 วันนะครับ พรุ่งนี้เช้ามืดทางเราจะไปส่งคุณคิมที่นั่น” คมพูดบอกออกมาทำให้คิมนิ่งงันกัดฟันกรอด
“นายเอามือถือติดตัวมารึเปล่า” คิมถามคมขึ้น
“เอามาครับ” คมตอบรับอย่างงงๆ
“งั้นต่อสายไปหาเจ้านายของนายให้ที บอกว่าชั้นมีเรื่องจะคุยด้วย” คิมบอกกลับ คมจึงหยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมากดโทรออกหากมล สักพักกมลก็รับสาย
(“ว่าไงคม”) กมลพูดสายขึ้น
“เอ่อ นายครับ คุณคิมจะคุยด้วย สักครู่นะครับ” คมบอกพร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้คิม แล้วเดินเลี่ยงไปยืนห่างๆ เพื่อให้คิมได้คุยกับกมลได้อย่างสะดวก
“คุณกมล!” คิมเรียกอีกฝ่ายเสียงเขียว
(“ว่าไงคิม”) เสียงของกมลที่ดังเข้ามาให้ได้ยิน ทำให้คิมเม้มปากเข้าหากัน เพราะน้ำเสียงของกมลดูเหมือนจะเหนื่อยไม่น้อย
“ตกลงคุณจะส่งผมให้ไปอยู่กับเดย์แน่นอนแล้วใช่มั้ย” คิมถามกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก ถึงแม้ว่าจะรู้สึกห่วงกมลไม่น้อยเหมือนกัน
(“ใช่”) กมลพูดตอบกลับไปสั้นๆ
“ดี!! ส่งผมไปแล้ว ก็ไม่ต้องไปรับกลับมาเลยนะ คนบ้า!!” คิมโวยใส่ไปส่งท้ายแค่นั้นก่อนจะตัดสายทิ้งไปทันที แล้วเดินเอาโทรศัพท์มายัดใส่มือคมอย่างหงุดหงิด พร้อมกับเดินกระแทกเท้าขึ้นไปบนห้องนอน
..
..
..
..
เมื่อถูกตัดสายทิ้งทั้งๆที่พึ่งคุยกันได้นิดเดียว กมลก็กดโทรกลับเข้าไปที่เบอร์ของคมอีกครั้ง
(“ครับนาย”) เสียงคมรับสาย
“คิมล่ะ” กมลถามถึงคิมทันที
(“คุณคิมขึ้นห้องไปแล้วครับ ดูท่าทางหัวเสียไม่น้อยเลย”) คมรายงานให้เจ้านายตนเองรับรู้ กมลหน้าเครียดลงนิด
“คงโกรธชั้นน่าดูเลยล่ะสิ” กมลพูดบอกกลับไป
(“น่าจะประมาณนั้นครับ เห็นเจ้าลพบอกว่า พอรู้ว่านายไม่กลับมาบ้าน ก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่”) คมรายงานตามที่ลพพูดบอก
“อืม ยังไงก็ฝากแกจัดการเรื่องพรุ่งนี้ด้วยล่ะกัน” กมลบอกกลับไป
(“ครับนาย”) คมตอบรับก่อนที่กมลจะวางสายไป ถึงแม้ว่าอยากจะคุยกับคิมต่อแค่ไหน แต่ก็ไม่พ้นทะเลาะกันอยู่ดี แล้วในสถานการณ์แบบนี้กมลยังไม่สามารถกลับไปง้อคิมได้เหมือนอย่างที่ใจต้องการ
“เฮ้ออ จะรู้ตัวบ้างมั้ย ว่าชั้นคิดถึงนาย อยากกอดนายแค่ไหนน่ะคิม” กมลพูดบอกกับตัวเองในห้องทำงานภายในสำนักงาน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“คุณคิมเตรียมของไปพร้อมแล้วใช่มั้ยครับ” คมพูดถามขึ้นมาในช่วงของเช้ามืดในวันใหม่
“อืม” คิมตอบรับในลำคอ เมื่อคืนกมลก็ไม่ได้กลับมาบ้าน มีเพียงแค่ให้ลูกน้องเอาเสื้อผ้าไปให้เปลี่ยนที่สำนักงานเท่านั้น
“ผมคงไม่ได้ไปส่งคุณคิม แต่จะให้กิจเป็นคนขับพาไปส่งนะครับ ส่วนที่พักที่เดย์มันพักอยู่คือที่นี่นะครับ” คมพูดบอกออกมาอีกพร้อมกับส่งแผนที่โรงแรมให้กับคิม คิมรับมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะเดินไปที่รถ
//พี่คม ผมว่าพี่โดนคุณคิมโกรธด้วยอีกคนแล้วล่ะ// ลพมากระซิบข้างๆ คมตบหัวลพไม่แรงมากนัก ก่อนจะเดินไปสั่งกำชับกิจและลูกน้องอีกคนให้ดูแลคิมให้ดีๆและส่งให้ถึงที่ พอขึ้นรถ คิมก็นั่งเงียบไม่ได้พุดหรือซักถามอะไรกับลูกน้องของกมลเลยแม้แต่น้อย จากระยะทางที่ไปคิมให้รถจอดเพื่อเข้าห้องน้ำเพียงรอบเดียวจนไปถึงท่าเรือที่จะข้ามไปยังเกาะช้าง ตอนแรกกิจจะตามไปส่งให้ถึงพักแต่คิมไม่ยอม บอกว่าไปเองได้ ทำให้กิจกับลูกน้องของกมลอีกคนจำต้องยอมทำตามสั่งแต่โดยดี คิมสะพายกระเป๋าขึ้นไปบนเรือ พร้อมกับหาที่นั่ง สายลมที่พัดกลิ่นอายทะเลเข้ามากระทบใบหน้าเนียน ทำให้คิมรู้สึกสดชื่นนิดๆ แต่ก็ไม่ถึงที่สุด ยังมีความกังวลใจ น้อยใจอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน พอเรือมาถึงท่า คิมก็เดินตามหาโรงแรมที่พักที่เดย์พักอยู่ทันที เมื่อถึงโรงแรมแล้ว คิมก็กดโทรศัพท์หาเพื่อน
(“ว่าไง”) เดย์รับสาย
“กูมาถึงโรงแรมแล้ว…มึงอยู่ไหน” คิมถามกลับไป
(“มาถึงแล้วเหรอ มายังไง”) เดย์ถามย้อนกลับมา
“คุณกมลให้ลูกน้องขับรถมาส่งกูตั้งแต่เช้ามืดแล้ว” คิมตอบกลับพร้อมกับมองไปรอบๆอย่างสำรวจ
(“อืมๆ…ตอนนี้กูไม่ได้อยู่ที่โรงแรม มึงเดินไปที่ล็อบบี้แจ้งชื่อมึงกับชื่อกูได้เลย กูฝากคีย์การ์ดไว้ให้แล้ว”) เดย์บอกกลับไปอีก ทำให้คิมขมวดคิ้วเข้าหากัน
“แล้วมึงอยู่ไหน” คิมถามต่อ
(“กูพาอิฐกับหลานมาดำน้ำ อาจจะกลับเย็นหน่อย มึงก็พักผ่อนไปก่อน เดี๋ยวตอนเย็นกูพาไปกินข้าว”) เดย์พูดบอกเสียงเรียบ
“อืม…งั้นแค่นี้นะ” คิมตอบรับ ก่อนที่จะวางสายแล้วพลางคิดว่า ตนเองมาขัดความสุขของเดย์กับอิฐรึเปล่า แต่ในเมื่อมาแล้วก็คงต้องอยู่ คิมจึงเดินไปแจ้งชื่อตนเองกับชื่อเดย์ที่ล็อบบี้เมื่อได้คีย์การ์ดมาแล้ว คิมก็เดินมายังบ้านพักที่เดย์จองเอาไว้ให้ เมื่อเดินเข้าไปก็พบว่ามีห้องนอนแยกสองห้องและมีห้องรับแขกในตัวด้วย คิมเดินไปเปิดประตูห้องหนึ่งดูก็เห็นว่ามีกระเป๋าและของใช้วางอยู่ก็รู้ว่าเป็นห้องของเดย์แน่ๆ คิมจึงเดินไปอีกห้องพร้อมกับเอากระเป๋าไปวางบนเตียง ร่างบางเดินไปเปิดผ้าม่าน เห็นทะเลสีฟ้าครามอยู่ในสายตาก็ยืนนิ่งมองอยู่อย่างนั้น
Tru…Tru…Tru
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คิมจึงเดินไปหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะนิ่งไปนิดเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของกมล ร่างบางกดปิดเสียงและโยนทิ้งไว้ในกระเป๋าผ้าก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเพลียจากการเดินทาง คิมตื่นขึ้นมาอีกทีก็เวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้วคิมรู้สึกหิวแต่ก็ตั้งใจจะรอกินพร้อมกับเดย์และอิฐในมื้อเย็นทีเดียว คิมลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่ามีเบอร์ของกมลโทรเข้ามาหลายสิบสาย แต่คิมก็ไม่คิดจะโทรกลับ ถึงจะเป็นห่วง แต่ความน้อยใจความขุ่นเคืองก็มีมากกว่า คิมได้ยินเสียงเปิดประตูห้องพัก จึงเดินเปิดประตูห้องนอนออกไป พบว่าเดย์กับอิฐกลับมาแล้ว โดยที่เดย์อุ้มเด็กน้อยที่กำลังหลับอยู่กับอก แต่คิมมองไม่ชัดว่าเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย
“สวัสดีครับพี่คิม” อิฐยกมือไหว้ คิมยิ้มรับ
“ลูกใครน่ะ” คิมถามขึ้นพร้อมกับพยักหน้าไปทางเดย์ที่อุ้มเด็กน้อยอยู่
“หลานอิฐน่ะ พามาเที่ยวด้วย อิฐ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไปเดี๋ยวพาไปกินข้าว มึงด้วยคิม” เดย์พูดบอกคนทั้งสอง
“กูอาบเรียบร้อยแล้ว” คิมบอกกลับ
“อืม งั้นรอพวกกูแป๊บหนึ่ง” เดย์บอกอีกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน คิมจึงไปนั่งที่ห้องโถงรับแขกแล้วเปิดทีวีดูรอ สักพักใหญ่ๆ เดย์ก็เดินออกมาพร้อมกับเด็กที่คิมเห็นตอนแรก ใบหน้าใสแก้มป่องของเด็กน้อยตรงหน้าทำให้คิมอดที่จะยิ้มไมได้
“เฮ้ย น่ารักว่ะ” คิมพูดทักขึ้นจากความรู้สึกจริงๆ
“แซลมอน นี่เพื่อนน้าครับ ชื่อน้าคิม” เดย์แนะนำให้แซลมอนรู้จักกับคิม
“สวัสดีฮะ” แซลมอนยกมือไหว้คิม แต่ก็เกาะติดกับอิฐตลอด เพราะยังไม่คุ้นเคยกับคิมมากนัก คิมยิ้มรับแซลมอน
“ไปกินข้าวกันเถอะ” เดย์บอกกลับ ก่อนที่จะพากันไปที่รถ อิฐกับแซลมอนนั่งเบาะหน้าคู่กับเดย์ ส่วนคิมก็นั่งทางเบาะด้านหลัง
“กูมาขัดความสุขครอบครัวมึงรึเปล่าวะ” คิมถามขึ้น แต่ดวงตาก็เหม่อมองออกไปนอกรถ เขาไม่อยากทำตัวเป็นภาระของใคร
“ไม่ขัดหรอกครับพี่คิม” อิฐเป็นคนตอบ ไม่นานนักก็มาถึงร้าน เดย์พาอิฐ แซลมอน แล้วก็คิมเข้าไปหาที่นั่ง แล้วสั่งอาหาร เดย์ แซลมอน อิฐ นั่งฝั่งเดียวกัน ส่วนคิมนั่งคนเดียวอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ
“เหมือนพ่อแม่ลูกเลยเนอะ” คิมพูดบอกออกมาเมื่อเห็นการเอาใจใส่ของเดย์ที่มีให้อิฐกับแซลมอนหลังจากที่อาหารมาเสริฟแล้ว พลางคิดถึงกมลกับใบบุญขึ้นมาซะอย่างนั้น
“เหมือนที่ไหนพี่คิม ผมเป็นผู้ชายนะ” อิฐพูดบอกเสียงอ้อมแอ้ม
“เป็นผู้ชายแต่ก็เป็นเมียไอ้เดย์ไม่ใช่เหรอ” คิมแซวกลับโดยไม่ได้คิดอะไร ทำเอาอิฐอึกอักไปนิด
“แต่พี่คิมก็….” อิฐกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
“อิฐ!” เดย์เรียกอิฐเสียงเข้ม
“เลิกคิด เลิกพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว” เดย์พูดเสียงดุ จนแซลมอนมองหน้าน้าทั้งสองสลับไปมาอย่างงงๆ คิมถอนหายใจนิดๆ เพราะคิดว่าอิฐยังคงคิดเรื่องของเดย์กับคิมอยู่
“อิฐ…พี่รู้นะว่าอิฐยังคิดเรื่องของพี่กับไอ้เดย์อยู่…ถ้าก่อนหน้านี้พี่ทำอะไรให้อิฐระแวงหรือคิดมากเกี่ยวกับไอ้เดย์ พี่ก็ขอโทษด้วย แต่เรื่องของพี่กับมันจบไปนานแล้วนะ แล้วจะไม่มีวันรื้อฟื้นขึ้นมาอีกแน่นอน อิฐสบายใจได้ ทุกวันนี้ไอ้เดย์มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพี่ก็แค่นั้นเอง” คิมพูดอธิบายออกมา จากใจจริง คิมรู้สึกว่าการมาเจอเดย์ครั้งนี้ คิมไม่รู้สึกเจ็บหน่วงๆในอก หรือรู้สึกอิจฉาอะไรอิฐเหมือนก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย เหมือนกับว่าอาการเหล่านั้นมันหายไปแล้วอย่างสิ้นเชิง
“ผมไม่ได้จะพูดถึงพี่คิมกับไอ้เดย์สักหน่อย” อิฐบอกกลับ ทำให้คิมนั่งงง
“แล้วจะพูดเรื่องอะไร กูเห็นมึงชอบคิดมากเรื่องนี้อยู่ตลอดน่ะ” เดย์พูดถามออกมา
“กูแค่จะบอกว่าพี่คิมก็เป็นเมียนายเหมือนกันใช่มั้ย แค่นี้เอง มึงน่ะพูดขัดกูขึ้นมาก่อนทำไมล่ะ” อิฐโวยใส่เดย์ ทำให้คิมหน้าขึ้นสีนิดๆเมื่อได้ยิน
(เมียงั้นเหรอ) คิมทวนคำพูดของอิฐในใจ แต่พอนึกถึงคำที่กมลพูดก่อนหน้านี้ก็ทำให้คิมหงุดหงิดขึ้นมาเล็กๆ ก่อนจะหันมาห้ามทัพระหว่างเดย์กับอิฐที่นั่งเถียงกันอยู่ โดยมีแซลมอนหลานชายของอิฐนั่งมองสลับไปมาตาแป๋ว
“ขอโทษนะครับพี่คิม ที่ทำให้เสียบรรยากาศ” อิฐพูดบอกออกมาหลังจากที่เถียงกับเดย์เสร็จแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก พี่เองก็ไม่สบายใจ ถ้าพี่ทำให้อิฐยังคงคิดมากเรื่องของพี่กับเดย์อยู่” คิมบอกยิ้มๆ ก่อนจะนั่งทางอาหารกันต่อ
Tru…Tru…Tru
เสียงโทรศัพท์ของเดย์ดังขึ้น เดย์หยิบขึ้นมาดูก่อนจะเลิกคิ้วแล้วมองหน้าคิมนิดๆ คิมเองก็แปลกใจว่าทำไมเดย์ถึงมองหน้าตนเอง
“สวัสดีครับนาย” เดย์รับสาย ทำให้คิมชะงักมือที่กำลังตักอาหารเข้าปากทันทีเมื่อรู้ว่าใครโทรเข้ามาหาเดย์
(“เดย์ คิมอยู่กับแกรึเปล่า”) กมลถามเสียงเครียด เพราะเขาโทรหาคิมเกือบทั้งวันแต่คิมก็ไม่รับสาย ยิ่งโทรไปถามกิจแล้วรู้ว่าคิมขึ้นเรือไปเกาะช้างคนเดียวก็ยิ่งกังวลและเป็นห่วงมากกว่าเดิม
“อยู่กับผมครับ” เดย์ตอบกลับไป
(“แล้วทำไมไม่รับสายชั้นวะ โทรหาตั้งแต่เที่ยงแล้ว มันน่าตีจริง”) กมลบ่นออกมา
“เดี๋ยวผมถามให้ รอแป๊บนะครับ” เดย์บอกพร้อมกับจ้องหน้าคิม ที่ทำทีเป็นหันหน้าไปมองทางอื่น
“ไอ้คิม นายถามว่าทำไมมึงไม่รับสายเค้า เค้าโทรหามึงตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว” เดย์ถามขึ้น คิมตีหน้านิ่ง
“เหรอ…กูไม่ได้เปิดเสียงโทรศัพท์มั้ง แล้วนี่กูก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาอยู่ที่ห้องพักน่ะ” คิมบอกด้วยน้ำเสียงปกติ เพราะจริงๆแล้วคิมจงใจไม่รับสายกมล
“ได้ยินมั้ยครับนาย” เดย์ถามกมลกลับไปเพราะคิมพูดเสียงค่อนข้างดัง
(“ได้ยินแล้ว ชั้นขอคุยกับคิมหน่อย ถ้าคิมไม่คุย แกบังคับให้คุยกับชั้นที”) กมลพูดบอก
“ครับ รอสักครู่นะครับ….ไอ้คิม คุยกับนายซะ กูยังไม่อยากให้ระเบิดมาลงเกาะช้างหรอกนะ” เดย์พูดว่าออกมา พร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้กับคิม คิมฮึดฮัดเล็กน้อย ก่อนจะรับโทรศัพท์ของเดย์ แล้วลุกออกไปคุยที่อื่น เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น
“ครับ” คิมพูดสายสั้นๆ
(“จงใจไม่รับโทรศัพท์ชั้นใช่มั้ยคิม”) กมลถามเสียงเครียด
“แล้วคุณจะโทรมาทำไม ไม่สนใจผมแล้วนี่” คิมพูดประชดกลับไป
(“ใครบอกว่าชั้นไม่สนใจนาย ถ้าชั้นไม่สน ชั้นจะโทรหาทำไม”) กมลบอกกลับ พอจะจับน้ำเสียงน้อยใจของคิมได้
“หึ ถ้าคุณสนใจผมจริงๆ คุณคงไม่ส่งให้ผมมาที่เกาะช้างกับลูกน้องของคุณโดยที่คุณไม่มาพูดหรือมาบอกอะไรผมสักคำ นอกจากสั่งผ่านลูกน้องของคุณมาหรอกนะคุณกมล” คิมว่ากลับไปอีก
(“น้อยใจเหรอ”) กมลถามขึ้น ทำให้คิมชะงักไปนิดก่อนจะเม้มปากเข้าหากัน
“ใครน้อยใจ ผมไม่ได้น้อยใจ ผมโกรธมากตะหาก หลังจากจบเรื่องทุกอย่าง คุณก็ไม่ต้องมารับผม ผมจะไปอยู่บ้านของผมเอง” คิมพูดประชดออกมาอีก
(“คิดว่าชั้นจะปล่อยนายไปง่ายๆงั้นเหรอคิม ชั้นรู้ว่านายน้อยใจชั้น แต่เก็บความน้อยใจไว้ก่อนได้มั้ยเพราะชั้นยังไปง้อนายตอนนี้ไม่ได้ เห็นใจชั้นหน่อยเถอะน่า”) กมลพูดบอกกลับมาเสียงจริงจัง
“มาไม่ได้ก็ไม่ต้องมา แค่นี้แหละ ผมจะกินข้าว” พอพูดจบคิมก็ตัดสายทิ้งไปทันที
2 Be Con
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++